Skip to main content
sharethis

การเมือง


ปิดสัญญาณดีสเตชั่น! เสื้อแดงระดมพลลุย


ข่าวหุ้น - ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ช่วงบ่ายวานนี้ (1 เม.ย.)ว่า บนเวทีปราศรัย ยังมีแนวร่วมจากกลุ่มต่างๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นกล่าวโจมตีการทำงานรัฐบาลโดยเฉพาะนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่แถลงโต้ตอบรุนแรงต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


 


นอกจากนี้บนเวที ยังมีการจัดรายการวิเคราะห์และตอบปัญหาทางการเมือง โดยให้น.ส.วิสาระดี เตชะธีระวัฒน (น้องยิ้ม) ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ดำเนินรายการและมีนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจารุพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯเข้าร่วมรายการ โดยมีผู้ชุมนุมบางตารับฟังหน้าเวที ท่ามกลางอากาศร้อนจัด


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพระภิกษุสงฆ์เข้ามาร่วมปักหลักชุมนุมด้วย โดยพระสงฆ์บางรูปได้ซื้อของที่ระลึก ที่มีจำหน่ายภายในพื้นที่ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดสีแดง ผ้าโพกศีรษะ ตีนตบและหัวใจตบ โดยภายหลังที่พระสงฆ์รูปหนึ่งซื้อผ้าโพกศีรษะที่บริเวณประตูทางเข้าที่ 4 ก็ได้นำผ้าผืนดังกล่าว มาผูกไว้กับย่ามผ้าผืนดังกล่าวมีข้อความ "ทักษิณกับความจริงวันนี้"


 


ต่อมาเวลา 16.30 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ขึ้นเวที และแจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบว่า ขณะนี้สัญญาณถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ถูกตัดสัญญาณไม่สามารถเผยภาพได้อีกต่อไป ขณะนี้ฝ่ายเทคนิคกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ จึงขอเรียกร้องให้วิทยุชุมชนทุกแห่ง ช่วยเผยแพร่ความเคลื่อนไหวการชุมนุม รวมทั้งขอเรียกร้องให้ประชาชน ที่ไม่สามารถรับชมทางโทรทัศน์ได้ ขอให้ออกมาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลแทนอย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ว่า การที่รัฐบาลตัดสัญญาณครั้งนี้ อาจมีความพยายามดำเนินการบางอย่างกับผู้ชุมนุม


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่นายณัฐวุฒิ ขึ้นเวทีและแจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบดังกล่าวก็ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์ประมาณ 30 รูปขึ้นมาสวดให้พรกับผู้ชุมนุมบนเวทีปราศรัย เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยในการเรียกร้องและขับไล่รัฐบาล


 


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อและนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำนปช.แถลงข่าวประจำวัน โดยนายณัฐวุฒิ แถลงว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตัดสัญญาณ การถ่ายทอดสดสถานีโทรทัศน์ ดาวเทียม ดีเสตชั่นแล้ว ทั้งๆที่ดี สเตชั่นเป็นสมาชิกสมาคมเคเบิ้ลทีวีที่มีจานดาวเทียมสามล้านใบเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ขอตั้งคำถามกับรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกระทรวงไอซีที และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จุดยืนของรัฐบาลคืออะไร เพราะรัฐบาลประกาศไม่แทรกแซงสื่อ ให้สิทธิเสรีภาพสื่อ และประชาชนในการแสดงออก แต่การตัดสัญญาณชัดเจนว่าสุดท้ายรัฐบาล ไม่อาจสลัดคราบเผด็จการไม่มีหลักการประชาธิปไตย


 


โดยที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรใช้สถานีเอเอสทีวีโจมตีรัฐบาล ถ่ายทอดการยึดทำเนียบฯและยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่รัฐบาลในขณะนั้นก็ไม่ได้ตัดสัญญาณการถ่ายทอดของเอเอสทีวี อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ยังแสดงท่าทีชัดเจนปกป้องสถานีเอเอสทีวีหลายครั้ง แต่คนเสื้อแดงชุมนุมด้วยความสงบไม่ได้ทำลายทรัพย์สินราชการ ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย แต่รัฐบาลกลับไม่ให้โอกาสการถ่ายทอดสด จึงขอประณามว่ารัฐบาลชุดนี้เกิดและโดนชุบเลี้ยงจากเผด็จการและอำมาตยาธิปไตย หากทำแบบนี้คนเสื้อแดงที่อยู่ในประเทศโดนรังแก เหยียบย่ำ สกัดกั้น เช่นนี้ ก็จะสู้เต็มที่ เพราะความอดทนของเรามีขีดจำกัดและอาจดำเนินการด้วยวิธีการใดๆก็ได้


 


ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวถึงเรื่องส่งสัญญาณปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มายังการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานของกระทรวงไอซีที ตรวจสอบที่มาของสัญญาณว่าใช้ดาวเทียมที่มีของประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยสัปดาห์นี้จะเชิญตัวแทนของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) มาหารือถึงข้อกฎหมายว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง


 


ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าวว่าหากการส่งสัญญาณทำผ่านดาวเทียมต่างประเทศการตัดสัญญาณจะทำได้ลำบาก แต่กระทรวงไอซีทีจะตรวจสอบว่า ใครเป็นเกตเวย์ในการรับสัญญาณและถ่ายทอดสัญญาณต่อไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุมีข้าราชการให้ความช่วยเหลือในการทำวิดีโอลิงก์นั้น รัฐมนตรีไอซีที กล่าวว่า ไม่มีข้าราชการของกระทรวงไอซีทีเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้


 


สาทิตย์ โต้นปช.กุข่าวรัฐตัดสัญญาณดีสเตชั่น


เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้(1เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ออกมาระบุว่า รัฐบาลเป็นฝ่ายตัดสัญญาณช่องดีสเตชั่น โดยนายสาทิตย์ เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่านปช.ดึงปลั้กเองหรือไม่ ถูกตัดสัญญาณ 3 ชั่วโมง ทำไมจึงแก้ไขรวดเร็วขนาดนั้น หากรัฐบาลตัดสัญญาณก็ไม่น่าจะแก้ง่ายเช่นนี้


 


อัยการฯ ชี้ "กษิต" มีอำนาจล่า "ทักษิณ" ได้


เว็บไซต์คมชัดลึก - (1เม.ย.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ เปิดเผยกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะเดินทางไปประสานเพื่อติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยตัวเอง ว่า ถือเป็นอำนาจโดยตรงที่กระทรวงการต่างประเทศสามารถทำได้ และรัฐบาลไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็มีข้อตกลงระหว่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นหากพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่นครดูไบ อัยการจะทำคำร้องขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนยื่นต่อศาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ทันที แต่ในชั้นนี้ตนยังไม่ได้รับประสานว่าจะต้องส่งพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศตามไปต่างประเทศหรือไม่


 


"ปัญหาสำคัญในการติดตามตัวผู้ร้ายข้ามแดน คือเราต้องสามารถยืนยันได้ว่ามีตัวผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ในประเทศนั้นจริง หรือถูกจับตัวได้แล้วที่นั่น และยังต้องมีข้อมูลประกอบเพียงพอชัดเจน ดังนั้นการระบุที่อยู่ปัจจุบันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด" นายศิริศักดิ์ กล่าว


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาอัยการถูกมองว่าได้แค่เตรียมเอกสาร ทำงานช้า พ.ต.ท.ทักษิณก็บินไปมา โฟนอิน หรือวิดีโอลิงค์ข้ามประเทศอยู่ตลอดเวลา นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ความจริงคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ทำไว้เรียบร้อยแล้ว จะยื่นให้ประเทศไหนก็ได้ แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหนแน่ชัด หากจะทำคำร้องแล้วส่งล่วงหน้าให้ทุกประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนแบบหว่านแหหรือขี่ช้างจับตั๊กแตนคงไม่ได้ เพราะไม่มีประเทศไหนเขาทำกัน ที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าอัยการเตรียมไล่ล่า อันนี้ก็เกินความจริงเพราะอัยการไทยไม่เหมือนอัยการสหรัฐอเมริกาเนื่องจากอัยการไทยถูกลิดรอนอำนาจ ไม่มีอำนาจไปจับกุมใคร ได้แค่ประสานงาน ไปตรวจดูเอกสาร และส่งคำร้องเท่านั้น


 


"กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน หรือวิดีโอลิงค์ข้ามประเทศไปมา แล้วย้ายถิ่นที่อยู่ไปเรื่อยๆ ก็เป็นตัวอย่างทำให้เกิดแนวคิดว่าสมควรจะแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยให้ส่งคำร้องผ่านสื่ออิเลคทรอนิคส์ได้ เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ฮ่องกง อีก 2 ชั่วโมง บินไปเมืองดูไบ เราก็ส่งอีเมล์ไปรอที่ดูไบได้เลย ขณะนี้กำลังร่างแก้ไขกฎหมายจุดนี้อยู่" นายศิริศักดิ์กล่าว


 


พัลลภ ปัดขึ้นเวทีเสื้อแดงคืนนี้


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)ยืนยันว่าถ้าจะขึ้นต้องเวทีม็อบเสื้อแดงหน้าทำเนียบฯ จะต้องเป็นวันดีเดย์ถึงขั้นแตกหัก หรือวันเสียงปืนแตก จึงจะขึ้นปราศรัย เพราะถ้าขึ้นตอนนี้จะเสียหาย แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ถึงเวลา


 



พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไทยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติไม่เคยปรึกษาหารือตน มีคนโทรมาถามมากว่า จะขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ เพราะมีคนตั้งใจจะไปฟัง และที่ผ่านมาตนพูดข้อเท็จจริงจำนวนมาก


 



ส่วนกรณีที่กลุ่มนปช.จะเคลื่อนตัวไปล้อมบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรี พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความพยายามกดดัน แต่คงไม่สำเร็จเพราะเป็นเรื่องยาก


 


สมชาย ลั่นเสื้อแดงทำเพื่อประชาธิปไตย


เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้(1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากเวทีปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ว่าเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัย ระบุว่า ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดเชียงใหม่ กำลังเดินทางมุ่งหน้ามายังกรุงเทพมหานครเพื่อมาร่วมชุมนุม เพราะไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดของช่องดีสเตชั่นได้อย่างสะดวก เนื่องจากถูกรัฐบาลตัดสัญาณ


 



ทั้งนี้ นายสมชาย เปิดเผยถึงกรณีที่ถูกระบุบว่าตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทย ที่ไม่สามารถเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลได้ ว่า ไม่เป็นไร เพราะได้ทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวดอนเมือง เนื่องจากเห็นว่า เมื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) มายึดสถานที่บริหารราชการ ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่อยากใช้ความรุนแรง เห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกัน เหมือนกับการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ จึงหวังว่ารัฐบาลจะใจกว้างเพียงพอและไม่สั่งให้สลายการชุมนุม


 


สำนวนผบ.ตร.ให้ฟ้องแกนนำนปช.ถึงมืออัยการสูงสุดแล้ว


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยถึงกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ในคดีนำกลุ่มผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวายหน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.50 ว่า ขณะนี้ทราบว่าทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ส่งความเห็นแย้งโดยเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำทุกคนในทุกข้อหา กลับมายังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาชี้ขาดต่อไป


 



นายกายสิทธิ์ กล่าวว่าเมื่อทางตำรวจมีความเห็นแย้งกลับมาดังนั้นจึงถือว่าคดียังไม่สิ้นสุด และเมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันในชั้นปฏิบัติงาน ผู้ที่จะชี้ขาดคืออัยการสูงสุด ดังนั้นจึงฝากเตือนไปยังแกนนำ นปช.ที่นำเรื่องนี้ไปพูดบนเวทีทำนองว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิด เพราะแม้ว่าอัยการเคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปกระทำการในลักษณะเดิมซ้ำได้อีก


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือความเห็นแย้งที่ ผบ.ตร.ส่งกลับไปให้อัยการสูงสุด พิจารณา ระบุว่ามีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล นายบรรธง สมคำ ม.ล.วีระยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา นายศราวุธ หลงเส็ง นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน นายวันชัย นาพุทธา นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท น.พ.เหวง โตจิราการ พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธและมีผู้สั่งการ ร่วมกันเดินขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจร ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปขู่เข็ญจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลัง


 


ติดหมายศาลสั่ง นปช.เปิดทาง


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - เมื่อเวลา 11.45 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 คันรถตู้ กับ 1คันรถยนต์กระบะ รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี นำหมายศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว มานำส่งให้นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลย 1-3 ซึ่งถูกสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) ยื่นฟ้องเมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยทันที แต่ทั้งนี้ เนื่องจากแกนนำ นปช.ทั้งสามไม่อยู่ในบริเวณเวทีปราศรัย คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลแพ่ง จึงจะนำหมายศาลแพ่งดังกล่าวไปติดประกาศไว้ที่ประตูทางเข้าทำเนียบที่ 6 และ 8 แทน


 



พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่าเมื่อจะมาส่งหมายให้กับแกนนำ แต่ไม่พบตัว ก็จะนำหมายดังกล่าวไปติดไว้ที่ประตูทางเข้าทำเนียบที่ 6 และ 8 ซึ่งจะถือว่าแกนนำ นปช.ทั้ง 3 ได้ทราบคำส่งศาลตามขั้นตอนและวิธีทางกฎหมายแล้ว ซึ่งก็จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลต่อไป


 



ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า กรณีที่นำหมายมาส่งให้กับจำเลย หากพบตัวจำเลยๆ ก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งภายใน 15 วัน แต่หากการส่งหมายไม่พบตัวจำเลย และได้ติดหมายศาลประกาศให้ทราบโดยทั่วไปแล้ว ก็จะมีระยะเวลาในการดำเนินการตามคำสั่งศาลภายใน 30 วัน ทั้งนี้ หากยังไม่มีการปฏิบัติตามคำสั่งก็จะต้องดำเนินการต่อไปตามกฎหมายที่จะบังคับให้จำเลยทำตามคำสั่งศาล


 


นปช.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - ศาลแพ่ง รัชดา นายคารม พลทะกลาง ทนายนปช. เดินทางมายื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลแพ่งที่สั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มเสื้อแดงเปิดถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกเทวกรรม จนถึงสะพานชมัยมรุเชษฐ และเปิดประตูทำเนียบประตูที่ 6 และ 8 และการใช้เครื่องขยายเสียงระหว่างการปราศัยต้องไม่รบกวนข้าราชการซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบตั้งแต่ 08.30 - 16.30 น. ของวันจันทร์-ศุกร์



โดยในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) เวลา 11.00 น. จะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อให้ระงับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยเตรียมนำนายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน เพื่อไทย และแกนนำ นปช.พร้อมอดีตข้าราชการ เข้าไต่สวน


 


ลือ "ทักษิณ" ตาย "เยาวเรศ" สะดุ้งพท.โต้ปล่อยข่าว


ไทยโพสต์ - ลือสะพัด! ทักษิณเสียชีวิตในต่างประเทศ "เยาวเรศ" ตกใจยันยังมีชีวิตปกติทุกอย่าง ฉุนคนปล่อยข่าว "ดีสเตชั่น" แพร่ภาพชีวิตในต่างแดนสยบข่าวลือทันที โฆษกเพื่อไทยโต้ข่าวลือโทษสีเขียว-สีเหลืองรวมหัวปล่อยข่าว สามพี่น้อง "โอ๊ค-เอม-อุ๊งอิ๊ง" ผนึกกำลังช่วยพ่อเปิดตัวหนังสือ 4 เม.ย.นี้ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์


 


เศรษฐกิจ


ไม่เซอร์ไพรส์ประเมินจีดีพีไทย - 2%


เว็บไซต์ - นายฌอง ปิแอร์ เวอร์บิสท์ ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ทางเอดีบีคาดการณ์ว่าในปี 2552 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศไทยจะหดตัวลงติดลบ 2% เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ที่จีดีพีติดลบ 10.5% และหากปัญหาการเมืองยังไม่คลี่คลายลงและเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้นอาจจะหดตัวถึง 4-5% ซึ่งผลจากการหดตัวของเศรษฐกิจปี 2552 จะทำให้มีคนว่างงานเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 2 ล้านคน ปัญหาใหญ่ของคนไทยคือเรื่องการส่งออกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากความต้องการของตลาดโลกลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศก็ลดลงเช่นกัน ทำให้คาดว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจะหดตัว


 


ทั้งนี้คาดว่าการส่งออกทั้งปี 2552 จะหดตัว 18% และการนำเข้าจะหดตัว 28% ดุลการค้าจะเกินดุล 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะเกิดดุล 8% ของจีดีพี ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปี 2552 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.5% เนื่องจากราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรที่ลดลงจากปี 2551


 


อย่างไรก็ตาม ในปี 2552 นี้ ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจหดตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จาก 2 ปัจจัย คือ ประเทศอุตสาหกรรมตกอยู่ในภาวะถดถอยนาน จะทำให้การส่งออกทั้งสินค้าและบริการหดตัวมากกว่าที่คาดไว้ และความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยรัฐต้องบรรเทาผลกระทบด้วยการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างรถไฟฟ้า ทางด่วน และถนน เนื่องจากที่ผ่านมาล่าช้าไปกว่า 3 ปี จากความไม่มั่นคงทางการเมือง ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2553 น่าจะดีขึ้น โดยคาดว่าจะขายตัวประมาณ 3% หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวตามที่คาดไว้และรัฐบาลมีการลงทุนเพิ่มขึ้นตามที่ประกาศ


 


จวกพาณิชย์ไร้ผลสกัดข้าวเถื่อนเพื่อนบ้าน


มติชน - "ชูเกียรติ" ฉุนมาตรการพาณิชย์ไร้ผลปัญหาลักลอบนำเข้าข้าวเพื่อนบ้านระบาดถึงข้าวนึ่ง ผู้ส่งออกร้องเรียนมีข้าวปลอมปนเป็นข้าวเมล็ดสั้น ลูกค้าบ่นข้าวไทยคุณภาพต่ำลง เร่งหาทางแก้ก่อนตลาดส่งออกข้าวนึ่งหลุดมือเจ้าหน้าที่รายงาน "พรทิวา" พบข้อสงสัยตัวเลขรับจำนำในจังหวัดติดชายแดนกัมพูชาสูงเกินปกติ โครงการรับจำนำมันส่งกลิ่นทุจริต "ยรรยง" ตั้งกรรมการ 2 ชุด ลงพื้นที่ตรวจสอบ


 


เอทานอลวุ่น ต้นทุนมั่วหนัก ลุ้นส่งออกอี3


ไทยโพสต์ - แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า คณะทำงานเพื่อพิจารณาโครงสร้างราคาเอทานอลยังไม่ได้ข้อยุติถึงต้นทุนการผลิต เพราะตัวเลขการผลิตเอทานอลโดยเฉพาะโมลาส (กากน้ำตาล) ที่ผู้ผลิตอ้างอิงที่ระดับ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อตัน สูงกว่าตัวเลขการส่งออกจากกรมศุลกากร และต้นทุนการผลิตของแต่ละโรงไม่เท่ากันทำให้ต้องประกาศราคาอ้างอิงไตรมาส 2 ในราคาเดิม 17.18 บาทต่อลิตรเป็นการชั่วคราว โดยกระทรวงพลังงานจะพยายามสรุปเร็วที่สุด แต่เบื้องต้นคงไม่ถึง 20 บาทต่อลิตร


 


ธุรกิจย่านข้าวสารเจ๊งนับร้อย โวยททท.ทิ้งสงกรานต์สูญ 200 ล้าน


ไทยโพสต์ - นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร โวย ททท.ลอยแพสงกรานต์ คาดปีนี้เม็ดเงินหด 200 ล้าน จากปีก่อน 500 ล้าน เหลือ 300 ล้าน อ่วมพิษเศรษฐกิจ-การเมืองฉุดกำลังซื้อนักท่องเที่ยว ร้านค้าปิดตัวไปแล้ว 115 แห่ง เร่งลดค่าเช่าห้องพักกระตุ้น คุมเข้มมาตรการความปลอดภัยสกัดเสื้อแดง หวังทั้งปีได้กว่าพันล้านก็หรูแล้ว


 


สหรัฐถล่มไทยกีดกันการค้า โขกภาษีนำเข้า-ละเมิดพุ่ง


ไทยโพสต์ - สหรัฐเปิดรายงานการค้าถล่มไทยกีดกันการค้าทุกรูปแบบ เก็บภาษีสูงสุดในอาเซียน ควบคุมสินค้าถึง 35 รายการ ปกป้องอุตสาหกรรมยา กำหนดโควตานำเข้าไม่เป็นธรรม ขย่มหนักยังละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา "อลงกรณ์" ขอดูข้อมูลก่อน หากคลาดเคลื่อนต้องโต้แย้ง ยอมรับหมดลุ้นหลุด PWL


 


ลุ้นเช็ค 2 พันกู้ศก.ดันเงินเฟ้อ "พาณิชย์" จับตาเงินฝืด


สยามรัฐ - ปลัดฯพาณิชย์ไม่กล้าประเมินภาวะเงินฝืด อ้างรอตัวเลขไตรมาส 2 ก่อน พร้อมมั่นใจโครงการเช็คช่วยชาติ 2 พันบาทดันเงินเฟ้อเม.ย.ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ติดลบ 0.2% นับเป็นการติดลบเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ศูนย์วิจัยกสิกรคาดครึ่งปีเงินเฟ้อหด 1-1.8% ขณะที่สศค.ชี้ส่งออกมี.ค.หดตัวฉุดเศรษฐกิจไตรมาสแรกติดลบหนักขึ้น


 


คุณภาพชีวิต


ยธ.เร่งปราบยาเสพติดจี้คุกตัดสัญญาณมือถือ


สยามรัฐ - "พีระพันธุ์" เดินหน้าปราบยาเสพติดในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล จัดชุดปราบปรามทหาร-ตำรวจ-ป.ป.ส.132 ชุด เน้นปราบผู้ค้าและเครือข่ายไม่ตั้งเป้าทำยอดผลงาน หวั่นเกิดปัญหาฆ่าตัดตอน สั่งราชทัณฑ์เปิดเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ทุกเรือนจำสกัดผู้ต้องขังออร์เดอร์ยา ป.ป.ส.ยันผู้ค้าไม่ถูกจำกุมอีก 815 ราย 354 ชุมนุมระบาดหนัก


 


เลื่อนแจ้งผลโอเน็ต เตรียมเผย6เม.ย.นี้ ข้องใจดูคำตอบได้


ประชาทรรศน์ - ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สทศ. ได้ตรวจข้อสอบผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต ปีการศึกษา 2551 ของนักเรียนชั้น ป.6 ม.3 และ ม.6 เสร็จแล้ว โดยผลสอบของนักเรียน ชั้น ป.6 และ ม.3 ได้ส่งไปให้โรงเรียนแล้ว ส่วนผลสอบของนักเรียน ชั้น ม.6 ที่กำหนดประกาศผลสอบวันที่ 10 เมษายน 2552 ทางเว็บไซต์ สทศ. ที่ www.niets.or.th นั้น เนื่องจาก สทศ. ตรวจข้อสอบเสร็จเร็วจึงจะประกาศผลในวันที่ 6 เมษายนนี้


 


ดังนั้น ผู้ที่ต้องการยื่นคำร้องขอดูกระดาษคำตอบโอเน็ต ม.6 ของตนเอง สามารถยื่นคำร้องได้ตั้งแต่วันที่ 7-9 เมษายน 2552 โดยสามารถดาวน์โหลดแบบคำร้องได้จากเว็บไซต์ สทศ. และนำมายื่นด้วยตนเองพร้อมกับหลักฐาน คือบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบโอเน็ต และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งชำระเงินค่าธรรมเนียมในการขอดูกระดาษคำตอบ วิชาละ 20 บาท ซึ่ง สทศ. จะนัดให้มาดูกระดาษคำตอบได้ระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2552 ทั้งนี้ นักเรียนที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2975-5599


 


ด้าน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สำหรับการประกาศผลสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นสูง หรือ เอเน็ต ประจำปี 2552 นั้น จะสามารถเลื่อนการประกาศผลได้เร็วขึ้นเช่นกัน เนื่องจากทราบว่าขณะนี้ตรวจกระดาษคำตอบเสร็จแล้ว เหลือเพียงตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้น โดยคาดว่าจะประกาศได้ในวันที่ 4 เมษายนนี้ จากเดิมที่กำหนดว่าจะประกาศในวันที่ 5 เมษายน 2552


 


5กลุ่มคนด้อยโอกาสโอด แจกเช็คช่วยชาติไม่ทั่วถึง


ประชาทรรศน์ - เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดงาน สมัชชาสังคมกลุ่มผู้ด้อยโอกาส โดยมีตัวแทนกลุ่มภาคประชาชน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนยากจน คนเร่ร่อน คนไร้บ้าน กลุ่มผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร กลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV กลุ่มพนักงานบริการและผู้มีความหลากหลายทางเพศ และกลุ่มผู้พ้นโทษ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมฯ เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาการเข้าถึงสิทธิของกลุ่มผู้ด้อยโอกาส


 


นายสุชิน เอี่ยมอินทร์ ประธานกลุ่มคนยากจน คนเร่ร่อน คนไร้บ้าน กล่าวติงนโยบายเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ของรัฐบาลว่า เป็นนโยบายที่ดีสามารถช่วยเหลือคนได้แต่ยังไม่ทั่วถึงโดยไม่ว่ารัฐบาลจะแจก 2,000 บาทหรือ 200 บาท คนเร่ร่อนคนไร้บ้านก็ไม่ได้แตะอยู่ดี ทั้งๆ ที่ตนน่าจะเป็นกลุ่มอันดับต้นๆ ที่ควรได้รับเงินช่วยเหลือ ส่วนการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมีข้อบกพร่องเพราะยังมีผู้สูงอายุอีกจำนวนมากที่ตัวไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนาที่มีชื่อ จึงไปลงทะเบียนไม่ได้และไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออยู่ดี


 


ด้านนายอิสสระ กล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมความเสมอภาค ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมที่เหมาะสมแก่ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ และผู้ที่อยู่ในภาวะยากลำบากให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พึ่งตนเองได้ โดยตนจะรับหนังสือไปพิจารณาปัญหาพร้อมข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทั้ง 5 กลุ่ม เพื่อแก้ไขปัญหา แต่ไม่สามารถรับปากได้ว่าปัญหาจะสิ้นสุดเมื่อใด เพราะปัญหาส่วนใหญ่ยืดเยื้อมานานแล้ว เช่น ปัญหาการขอสัญชาติของชาวเลและชาวเขา การออกกฎหมายคืนสัญชาติไทยให้กับคนไทยพลัดถิ่น การไม่ได้รับรองสถานะของคนเร่ร่อนทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและบริการด้านต่างๆ ของรัฐได้ เท่าที่ทำได้ตอนนี้คือผลักดันและเร่งการแก้ปัญหา


 


นายอิสสระ กล่าวต่อว่า การให้เช็คช่วยชาติ 2,000 บาทแก่กลุ่มคนเร่ร่อน ด้อยโอกาสคงจะเป็นการยากเพราะกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีหลักฐานแสดงตน เช่น ทะเบียนบ้านหรือแม้แต่บัตรประจำตัวประชาชน เพราะผู้ที่มีสิทธิ์รับเงินต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่จะหาแนวทางแก้ไขและหาทางออกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย ในการสำรวจจำนวนคนเร่ร่อน อาจมีการลงทะเบียนเพื่อแสดงตน สร้างอาชีพให้ในถิ่นบ้านเกิด เพื่อลดปัญหาคนเร่ร่อนในเขตกรุงเทพฯ เป็นต้น


 


นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตผู้ช่วยรมว.พม. กล่าวว่า ในส่วนปัญหาคนชายขอบนั้นมีความซับซ้อน รัฐก็มีฐานความรู้จำกัดเรื่องนี้ แม้กฎหมายขณะนี้ให้สิทธิมากขึ้นแต่ทางปฏิบัติก็ไม่มีการปฏิบัติเป็นรูปธรรมไม่ลงลึกจิตวิญญาณในการแก้ปัญหาที่แท้จริง การรวมกลุ่มสมัชชาผู้ด้อยโอกาสครั้งแรกนี้สำคัญในการขับเคลื่อนต่อไปเพื่อให้รัฐดูแลปัญหานี้


 


นางอภิญญา เวชยชัย อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ด้อยโอกาสมักถูกประทับตราบาปจากสังคมและตัวผู้ด้อยโอกาสเองว่าไร้พลัง เป็นแต่ผู้รับการสงเคราะห์หรือการให้โดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการที่แท้จริง ทำให้ผู้ด้อยโอกาสที่รับบ่อยๆซ้ำๆจนรู้สึกว่ารับไปก่อนดีกว่าไม่ได้ จนไม่รู้จักออกไปหาด้วยตัวเอง


 


ตรวจสอบฟันเฉียบขาดบ่อขยะก่อมลพิษ


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีราษฎรในพื้นที่หมู่ 8 ต.หนองปลาไหล และพื้นที่ใกล้เคียง อ.เมืองฯ จ.สระบุรี ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะ ทำให้ล้มป่วยและเสียชีวิต เป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรังมานานหลายปี จนต้องมีหนังสือร้องเรียนไปยังนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ว่า บ่อขยะของโรงงานกำจัดกากของเสียโรงงานอุตสาหกรรมของบริษัทแห่งหนึ่งก่อมลภาวะพิษ


 



โดยผลการตรวจร่างกายของประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว พบสารก่อมะเร็งหลายราย และพบผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด เคยร้องเรียนไปยังจังหวัดและทางอำเภอ ก็ไม่ได้รับการแก้ไขความเดือดร้อนให้แต่อย่างใด นายถาวรจึงได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษตามประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม


 



ต่อมาได้มีการมอบหมายให้นายช่างทอง โอภาสศิริวิทย์ ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจสอบบ่อขยะและการปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำลำคลอง พร้อมกับเยี่ยมผู้ป่วยที่อ้างว่าเคยทำงานเป็นผู้คัดแยกขยะในบ่อขยะดังกล่าว เป็นเวลา 6 เดือน และได้รับพิษจากบ่อขยะ โดยนายช่างทองรับปากกับกลุ่มชาวบ้านว่าจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด พร้อมกับนำข้อมูลที่ได้สำรวจร่วมกับชาวบ้านเสนอต่อสำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะแจ้งผลให้ทราบในเร็วๆ นี้ ซึ่งชาวบ้านก็พอใจที่ภาครัฐยังให้ความสนใจในความเดือดร้อน ลงมาดูแลและแก้ปัญหาให้ เพราะเริ่มมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจากสารพิษดังกล่าว


 


ต่างประเทศ


"โสมแดง" ขู่สอย ยานสปายมะกัน


ไทยโพสต์ - โซล - เกาหลีเหนือขู่จะยิงเครื่องบินจารกรรมของสหรัฐร่วงหากละเมิดอธิปไตยของตนเข้ามาสอดแนมการปล่อยจรวด ขณะหน่วยงานคลังสมองชื่อดังเตือนนานาชาติตอบโต้เกินเหตุอาจจุดชนวนสงครามได้


 


คำเตือนของรัฐบาลเกาหลีเหนือผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงกลางเมื่อวันพุธมีขึ้นภายหลังคำกล่าวหาว่าเครื่องบินจารกรรมของสหรัฐบินเข้ามาสอดแนมบนพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปล่อยจรวดมูซูดัน-รี


 


"หากเจ้าผู้ร้ายจักรวรรดินิยมสหรัฐกล้าส่งเครื่องบินจารกรรมเข้ามาในน่านฟ้าของเรา เพื่อแทรกแซงการเตรียมการปล่อยดาวเทียมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสันติ กองกำลังปฏิวัติของเราจะยิงพวกมันตกอย่างไร้ความปรานี" เกาหลีเหนือขู่


 


เกาหลีเหนืออ้างว่าสหรัฐและเกาหลีใต้ได้ส่งเครื่องบินอาร์ซี-135 เข้ามาสอดแนมภายในดินแดนของตนราว 190 เที่ยวเมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงบนน่านฟ้าเหนือฐานปล่อยจรวดด้วย แต่กองทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ปฏิเสธจะให้ทัศนะต่อคำกล่าวหานี้


 


รัฐบาลเปียงยางประกาศจะปล่อยดาวเทียมสื่อสารระหว่างวันที่ 4-8 เม.ย. แต่สหรัฐ, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมองว่านี่เป็นข้ออ้างในการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลแตโปดอง-2 ที่ออกแบบมาให้โจมตีได้ไกลถึงรัฐอะแลสกาของสหรัฐ ซึ่งเป็นการ "ยั่วยุ" และละเมิดข้อมติของสหประชาชาติ ทั้งยังขู่จะนำเรื่องนี้รายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคง สหรัฐและญี่ปุ่นยังได้ส่งเรือพิฆาตหลายลำไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่ทะเลญี่ปุ่นด้วย


 


รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแล้วว่าตนพร้อมจะยิงสกัดชิ้นส่วนจรวดที่อาจเป็นอันตรายคุกคามญี่ปุ่น แต่เกาหลีเหนือขู่ว่าตนจะถือความพยายามลักษณะนี้เป็นการทำสงคราม


 


อินเตอร์เนชั่นแนลไครซิสกรุ๊ป (ไอซีจี) หน่วยงานคลังสมองอิสระกล่าวเตือนว่า ปฏิกิริยาตอบโต้ที่ "เกินเลย" ของนานาชาติอาจทำให้การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์พังครืนและไปเพิ่มความแข็งแกร่งแก่พวกแนวทางแข็งกร้าวในเกาหลีเหนือ หรือกระทั่งเสี่ยงต่อสงคราม


 


รายงานไอซีจีกล่าวว่า การใช้ระบบป้องกันมิสไซล์จะเป็นกรณีเลวร้ายที่สุดที่ "เสี่ยงต่อการเกิดสงครามที่จะทำลายล้างที่ส่งผลเสียหายต่อเกาหลีใต้, ญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลก"


 


ผวา! ไวรัสคอมพ์ "คอนฟิกเกอร์" ถล่มโลก


ไทยโพสต์ - บอสตัน -  ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เตือนระวังไวรัสตัวร้าย "คอนฟิกเกอร์" (Conficker) หรือ "ดาวน์แอดอัพ" (DownAdUp) คาดลงมือโจมตีคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ 1 เม.ย.นี้


 


ตามเวลาไทม์โซนในวันที่  1  เม.ย. หรือวันเอพริลฟูลส์เดย์ เจ้าหนอนคอนฟิกเกอร์ จะโมดิฟายตัวเองให้ยากแก่การกำจัดเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดมันเริ่มรู้ตัว


 


ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เจ้าไวรัสตัวนี้ร้ายกาจมาก สามารถฝังตัวอยู่ในคอมพิวเตอร์ได้นานหลายเดือน  เมื่อเครื่องติดไวรัสเข้าไประบบจะถูกมันควบคุมให้ทำตามคำสั่งราวกับทาส "มันอาจทำลายข้อมูลที่บันทึกไว้หรือเจาะข้อมูลในอีเมล์ของคุณ" กาดี เอฟรอน กูรูด้านการป้องกันอาชญากรรมบนอินเทอร์เน็ตเผย


 


เชื่อว่าตัวการปล่อยหนอนคอนฟิกเกอร์ต้องการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลองค์กรจำพวกหมายเลขบัตรเครดิต  และหมายเลขบัญชีธนาคาร  ขณะนี้คาดว่ามีคอมพิวเตอร์ติดไวรัสแล้วหลายล้านเครื่อง  และตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป   คอนฟิกเกอร์น่าจะแพร่ระบาดไปยังเว็บไซต์ได้ถึงกว่า  500  เว็บไซต์ต่อวัน แม้จะผ่านพ้นวันที่ 1 เม.ย. แบบไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น แต่ภัยของมันก็ยังมีอยู่


 


เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา  ไมโครซอฟท์ประกาศตั้งรางวัลนำจับผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยหนอนคอนฟิกเกอร์ 2.5 แสนเหรียญสหรัฐ หลังเริ่มมีการระบาดครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว  จนไมโครซอฟท์ต้องปรับปรุงซอฟต์แวร์ใหม่มากำจัด ทำให้อัตราการระบาดลดลงในช่วงที่ผ่านมา  แต่หากคอมพิวเตอร์เครื่องใดไม่ได้อัพเดตซอฟต์แวร์ดังกล่าวก็ยังเสี่ยงอันตรายจากเจ้าหนอนตัวนี้


 


ผู้เชี่ยวชาญสงสัยว่า  หนอนคอนฟิกเกอร์น่าจะมีจุดกำเนิดในยูเครน และขณะนี้หน่วยสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐ  หรือเอฟบีไอ กำลังทำงานร่วมกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสืบเสาะหาต้นตอของไวรัสร้ายตัวนี้


 


ทั้งนี้  หากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณติดเจ้าไวรัสตัวนี้เข้าแล้ว สัญญาณหนึ่งที่จะบ่งบอกก็คือ ไวรัสจะปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ป้องกันและกำจัดไวรัส  อาทิ เทรนด์  ไมโคร  และซิมแมนเทค

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net