Skip to main content
sharethis





ที่มาภาพ
: เว็บไซต์คมเสธ.แดง www.sae-dang.com


เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา "เสธ. แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกได้เข้าเยี่ยมแกนนำ ปนช. คือนายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ภาค 1 คลอง 5 จ.ปทุมธานี โดย พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่าบุคคลทั้งสามยังคงเป็นปกติดี


ส่วนเหตุการณ์สลายม็อบสีแดงนั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่าไม่มีผู้เสียชีวิตตนได้บอกกับนาย ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช. ไปว่า จะไปพูดเรื่องนี้ทำไมจะมาโวยวายทำไม ทหารยิงขึ้นฟ้า ไม่ได้มีคนตาย จบแล้วก็ไปเริ่มใหม่ ในพื้นที่ที่ไม่มีกฎอัยการศึกก็ตั้งเวทีทำพื้นที่ฐานเสียงไป อีก 2 ปี ก็ได้กลับมาแน่ เพราะมีคนเลือกอยู่แล้วจะมัวมาพูดทำไมว่าทหารยิงคนตาย พล.ต.ขัตติยะ ยังอ้างว่าคนตายที่นางเลิ้ง คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือนักรบโรนิน เพราะรู้ว่าไอ้คนที่ตายมีปืนเป็นคนของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ เท่านั้นสรุปคือ ตาย 2 ศพ ที่นางเลิ้งไม่เกี่ยวกับทหารเพราะเป็นเวลานอกเวลาราชการ


ส่วนประเด็นการลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่าเท่าที่ไปสังเกตการณ์ และได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อมั่นว่า คนร้ายที่ยิงเป็นทหารที่ได้รับคำสั่งมาให้ทำ แต่มือไม่ถึงเคยยิงแต่เป้ากระดาษมาก่อนจึงปฏิบัติการไม่สำเร็จ เพราะนายสนธิ ไม่ตาย และเท่าที่วิเคราะห์คิดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คนใช้ปืนเอ็ม 16 เอชเค 33 อาก้าและกระบอกสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ เอ็ม 79 ซึ่งเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดสังหารบุคคลโดยเฉพาะ


"คนร้ายยิงเหมือนรับคำสั่งว่าให้ยิงไปที่กระจกหน้า อีกคนหนึ่งให้ยิงที่ยางรถคือ สั่งมาตรงไหนก็ทำตรงนั้น พวกนี้มันยิงแต่เป้ากระดาษมันไม่เคยเจอของจริง แต่ยิงเสร็จมันวนรถกลับ แต่กลับไม่ยิงที่ตัวรถด้านขวาอีก ยิงแต่ยางรถแสดงว่าสั่งมาให้ทำแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น สำหรับ เอ็ม 79 มันยิงไม่ได้ระยะเลยทะลุกระจกรถเมล์เพราะมันไม่เคยปฏิบัติจริงมาก่อน ถ้าเป็นนักรบโรนิน ป่านนี้ลงไปซัดให้ตายแล้ว " เสธ.แดง กล่าว และว่า ที่น่าสังเกตคือ รถคันที่ยิงสนธิ ขับย้อนกลับมาทางแยกเทเวศร์ ถนนเส้นนั้นมีแต่หน่วยทหารทั้งนั้น


พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่าสาเหตุสำคัญที่ นายสนธิ ถูกเอาชีวิตเพราะที่ผ่านมาสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดมีสีเหลือง สีแดงขึ้นในชาติ ตลอดเวลาที่เป็นพันธมิตรก็ด่าเขาไปหมด ไปพูดอะไรที่อเมริกาก็ลองไปฟังดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา สีแดง เขาทำสงครามกับ อำมาตย์ ทหาร ศาล ก็เข้าไปยุ่งกับเขา


"ต้องบอกว่านายสนธิ เป็นสายล่อฟ้าตัวจริง เป็นสายล่อฟ้าที่ล่ออาวุธสงครามเข้ามาปฏิบัติการกลางกรุงเทพได้ เขาทำสงครามกันอยู่ ก็เข้าไปรุมเขาและก็ด่ากราดไปหมดและที่สำคัญคือทำให้เกิดความแตกแยกเกิดขึ้นใครที่ไหนเขาจะยอมให้ประเทศชาติเป็นอยู่อย่างนี้ " พล.ต.ขัตติยะ กล่าว



นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ ยังได้โพสต์ประเด็นนี้ลงในกระดานข่าวเว็บไซต์ คมเสธ. แดง ดังนี้






 


ณ.บ้านที่ขังณัฐวุฒิ...ตชด.คลอง 5 เมื่อวาน


 


ป๋าเปรมผู้ซึ่งไม่เคยแพ้ใคร เคยปลดยังเติกส์จนสูญพันธ์ 42 กองพัน สมัยปฎิวัติเมษาฮาวาย 2524 เสธ.แดงยังเผ่นแทบไม่ทัน ดีเป็นร้อยเอกไม่ปลด เอารถถังเก็บต้องไปรายงานตัวที่โคราช


 


ป๋าเคยจับ 3 นายพลเอกเข้าคุก พล.อ. เสริม  นคร พล.อ.ยศเทพฯหัสดิน และ อดีตนายกฯ พล.อ.เกรียงศักดิ์ สมัยตอนปฎิวัติ 9 กันยายน 2528 กับผู้การมนูญ เอารถถังออกมา 28 คัน ดีพี่แดงเผ่นกลับโรงเรียนเสนาธิการก่อน ยิงปืนใหญ่รถถังที่ลานพระรูป เพราะเป็นแค่พันตรีเด็กนอกสายตาป๋าไม่ปลด ที่เหลือนายสิบนายทหารติดคุก 2 ปี ทั้งกองพันทหารม้าที่ 4 ผู้การมนูญหนีไปอยู่เยอรมัน


 


30 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก ป๋าสอยนายก 3 คน นอนตายเรียงกันเป็นแถว พี่ทักษิณ สมัคร สมชาย ของพรรคเพื่อไทย เพราะมารบกับป๋า หาว่าเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมให้ป๋าออกจากบ้าน ไปพูดที่ต่างๆแกเหงา จะไปดูดอกทิวลิบสีเหลืองด้วย


 


ณัฐวุฒิคุมม๊อบอหิงสาวันที่ 8 เมษายน ไม่อยู่ กำลังมันมากยิงกว่า 3 ผบ.เหล่าทัพ กลายเป็นจลาจล เพราะณัฐวุฒิเก่งเกินไป เอาคนมาได้ตั้ง 7 แสน กลายเป็นจราจลเผาทำลาย เลยเสร็จป๋า เอาทหารออกมาปราบโดยชอบธรรม


ณัฐวุฒิพึ่งอายุ 34 งานการเมืองไม่มีใครตาย ไม่โดนคดีอาญา ไม่มีประหารชีวิตแน่นอน เดี๋ยวก็ออกจากคุก


แต่ต้องพูดความจริง ไม่มีคนตายก็ช่างแม่ง..มัน ไม่ตายก็ไม่ตาย ไม่ต้องไปหาคนตายมาแฉ เสียเวลา ตายแค่ 2 คน ที่นางเลิ้ง เป็นพวกเสื้อน้ำเงิน โรนินมาช่วยยิงตาย เพราะมันมาตะเวนยิงม๊อบสีแดงรอบทำเนียบคืนวันที่ 13 ทหารมียิงจริงแต่สีแดงไม่มีตาย ไม่ต้องไปหามาให้ตาย ไร้สาระ หาเรื่องไม่มีประโยชน์ ควรเดินหน้าต่อ เลิก พรก.ฉุกเฉิน รับรองม๊อบขึ้นทุกตำบล เพราะสีแดงเก็บความแค้นกลับบ้าน อภิสิทธืซ้ำแบบนี้ไม่เลิกแน่ ก็จะเหมือนจอมพล ป.กับ ปรีดี พนมยงค์ หมุนเวียนประวัติศาสตร์


"รบได้อีกนาน" 


อย่าไปยุ่งกับป๋า ทน 2 ปี เดี๋ยวเพื่อไทยก็ชนะเลือกตั้ง หาตัวนายกให้ดี


"ได้เป็นรัฐมนตรีแหง๋ๆ"


 


ชาวม๊อบสีแดง...ขวัญใจทั้ง 2 คน สบายดี ท่านวีระแก่แล้วหมดแรงหลับ รับแขกทั้งวัน หมอเหวงอายุเท่า เสธ.แดง ยังแข็งแรง ตชด.เขาห้ามนักข่าวเข้า


 


เห็นแล้ว หวังว่าม๊อบสีแดงคงสบายใจ รวมทั้งแม่ยกณัฐวุฒิด้วย คู่แข่งแม่ยกสุริยไส


 


ทั้ง 3 คน ยังอยู่สบายดี ป๋าไม่เอาไปให้จระเข้กินแบบป๋าลอ


 


เดี๋ยวก็ได้ออกมารบ


และถ้ารัฐบาลไม่ใช้ยุทธวิธีสมานฉันท์...ไล่จับแบบนี้ 


"ศึกนี้อีกนาน" เพราะณัฐวุฒิมันพึ่ง 34 ไม่น่าเชื่อ...


 


ที่มา: http://board.sae-dang.com/ReadTopic.php?no=11080


 


 


นอกจากนี้ เนชั่นทันข่าว ยังรายงานว่า วานนี้ (20 เม.ย.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง 1 ใน 111 คนที่ถูกตัดสิทธิ์ให้เว้นวรรคทางการเมือง พร้อมคณะจำนวน 9 คน ได้เดินทางมาเข้าเยี่ยม นายวีวะ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ 3 แกนนำ นปช.ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในค่ายกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี


 


ทั้งนี้คณะของนายจาตุรนต์จอดรถ ไว้ที่หน้าบ้านพักของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า บก.ตชด. จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ ตชด.ได้นำรถตู้ของตำรวจนำคณะของนายจาตุรนต์เข้าไปภายใน โดยมีญาติและเพื่อนๆ ของแกนนำทั้ง 3 ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำรถตู้มารับตรงจุดรอที่กำหนดเอาไว้หน้าบ้านพักของนาย ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลังดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมนำรถเข้าไป


 


สำหรับ บรรยากาศโดยทั่วไปได้มีญาติและเพื่อนของแกนนำทั้ง 3 ทยอยกันมาเยี่ยมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตชด.ภาค 1 ได้จัดเวลาให้เข้าเยี่ยม 3 ช่วง คือเวลาเช้า 07.00-09.00 น. เวลาเที่ยง 11.30-13.30 น. และเวลาเย็น 15.30-17.00 น. ซึ่งก็มีประชาชนมาเข้าเยี่ยมตั้งแต่เช้าถึงเย็นตามที่ลงทะเบียนไว้เป็นจำนวนมาก


 


นายจาตุรนต์ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการเยี่ยม ว่านายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ 2 มาตรฐานด้วยการแทรกแซงสื่อ สั่งปิดวิทยุชมชน ปิดสถานีดีสเตชั่น ปิดเวปไซด์ต่างๆ ถือเป็นพฤติกรรมของเผด็จการเหมือนกับระบอบเผด็จการหลังรัฐประหาร จะต่างกันอยู่แค่มีนายกฯที่มาจาก ส.ส.มาคอยอำนวยการให้มาคอยชี้แจงให้กับคณะผู้ยึดอำนาจ เวลานี้ต่างกันแค่นี้เอง ตนเองคิดว่ารัฐบาลต้องรีบยาเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็ว ยกเลิกการแทรกแซงและปิดกั้นสื่อ ควรรีบดำเนินคดีกับพันธมิตรที่กระทำความผิดในที่ต่างๆ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยถ้ารัฐบาลจะนิรโทษกรรมตนเอง หรือ 111 คน เพื่อแลกกับการที่จะนิรโทษกรรมกับพันธมิตร ซึ่งสงสัยว่ารัฐบาลต้องการนิรโทษกรรมให้กับพันธมิตรมากกว่า และจะนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่ที่สลายการชุมนุมในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองเห็นว่าการสลายการชุมนุมในช่วงสงกรานต์เป็นการกระที่ไม่ชอบด้วย กฎหมาย


 

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์แนวหน้า, www.sae-dang.com, เนชั่นทันข่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net