วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สนามสวนศรีเมือง เขตเทศบาลนครระยอง อ.เมือง ระยอง คอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 7 โดย พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ระยอง พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ ผกก.สภ.เมืองระยอง นำกำลังจำนวนตำรวจในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ สนธิกำลังทหาร ส.ห. ทหารเรือ 1 กองร้อย ตั้งด่านตามจุดรอบนอกในรัศมี 1 กม.ตามแยกต่างๆ นำเครื่องตรวจอาวุธสงครามวัตถุระเบิดตรวจเวที รอบที่มีผู้ชุมนุมและที่หน้าประตูทางเข้าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เครื่องตรวจ อาวุธและค้นกระเป๋าทุกรายอย่างเข้มแข็ง บริเวณรอบสนามกีฬามีอาหารคาวหวาน มีการขายสิ่งของ หลายสิบราย

 

โดยตั้งแต่เวลา 15.00 น. คนเริ่มทยอยเข้าในสนามคอนเสิร์ต มีตั้งซุ้มแจกอาหารฟรีจากเจ้าภาพพันธมิตรฯ จ.ระยอง ขณะที่แกนนำเริ่มทยอยขึ้นปราศรัยบนเวที

 

 

จำลองแนะให้ฟังเสียงพันธมิตรฯ ทั่วประเทศเรื่องตั้งพรรค

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวให้ผู้ชุมนุมร่วมปรบมือให้พันธมิตรฯ ระยอง เพราะเป็นเจ้าภาพการจัดงาน ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ พล.ต.จำลอง กล่าวว่าการที่พี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ออกไปในช่วงที่มีการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา ถือเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะกลุ่มเสื้อแดงระดมคนที่มีพฤติกรรมแตกต่างจากพันธมิตรฯ ออกมาสร้างความวุ่นวาย ขณะที่พันธมิตรฯ มีแต่ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ซึ่งหากออกไปก็จะถูกทำร้ายได้

 

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการตั้งพรรคพันธมิตรฯ ว่า การเชื่อฟังเสียงส่วนใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ดีแม้จะมีพันธมิตรฯ ที่อเมริกาหรือพันธมิตรฯ อีกหลายพื้นที่ต้องการให้มีการจัดตั้งพรรคการเมือง ของพันธมิตรฯ เพื่อมีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมือง แต่ก็จำเป็นต้องมีการรับฟังเสียงจากพันธมิตรฯ ทั่วประเทศด้วยว่าต้องการให้เป็นเช่นไร ทั้งนี้การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีขึ้นอีกครั้งก็ต่อเมื่อสถานการณ์บ้าน เมืองมีอันตราย แต่ขณะนี้ยังเชื่อว่าการจัดการของรัฐบาลและทหารจะสามารถดูแลประเทศชาติได้

 

พันธมิตรฯ ถือเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ต้องการปกป้องสถาบันของชาติ รวมถึงสถาบันกษัตริย์ ซึ่งในวันนี้มีผู้ที่ประกาศตัวแน่ชัดที่จะล้มสถาบัน จึงขอให้พันธมิตรฯ มั่นใจว่าการดำเนินการของพันธมิตรฯ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ที่สำคัญขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ ช่วยกันสนับสนุนการดำเนินงานของ ASTV ต่อไป

 

 

สนธิส่งคลิปมาปราศรัย ขอบคุณที่พี่น้องห่วงใย

ในเวลา 19.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวผ่านวิดีโอคลิปไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ระยองว่า ผมเพียงแต่อยากออกมา เพื่อทักทาย และกราบขอบพระคุณ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยที่พี่น้องทั้งหลายมีต่อผม ไม่ว่าท่านจะมาร่วมในการลงชื่อ และมาอวยพรให้ผมหายวันหายคืนที่โรงพยาบาลจุฬาฯ หรือที่ให้กำลังอยู่ที่บ้าน ก็อยากจะบอกว่าวันนี้ผมได้กลับมาเรียบร้อยแล้วจากโรงพยาบาล หมอบอกว่าอาการไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทั้งสิ้น การผ่าตัดสมองก็ดีไม่มีปัญหาใดๆ ที่จะมีอย่างเดียวก็คือ อาการอ่อนเพลีย และยังมีการเจ็บที่แผล และปวดที่แผล ซึ่งหมอได้กรุณาบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการผ่ากะโหลกครั้งนี้เย็บถึง 43 เข็ม

 

ทั้งนี้ นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตนอยากจะให้กำลังใจพวกพี่น้องว่า การเจ็บครั้งนี้ของผมนั้น เป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่พวกเราทำต่อชาติ บ้านเมืองนั้น มันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเป็นเรื่องที่เอาธรรมนำหน้า วันนี้ได้พิสูจน์ชัดแล้วว่าการเอาธรรมนำหน้านั้น เป็นการทำงานที่ไม่ผิด และอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องว่า คนเรานั้นทำงานให้ชาติ บ้านเมือง ทำงานให้แผ่นดิน แผ่นดินไทยเป็นดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินจะปกป้องพวกเรา แล้วเมื่อผมหายดี ก็จะมีโอกาสได้มาออกรายกาย หรือไปพบปะพ่อแม่พี่น้องด้วยตัวของผมเอง

 

"วันนี้เอาสั้นๆ ก่อนเพื่อให้พ่อแม่พี่น้องสบายใจ เพื่อให้รู้ว่าผมในขณะนี้ปลอดภัยทุกอย่าง แต่ก็ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะการลอบสังหารผมครั้งนี้ มันมีนัยทางการเมืองมาก เพราะต้องการที่จะสลายกลุ่มพันธมิตรฯ หรือต้องการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงขึ้นมา ขอให้พ่อแม่พี่น้อง จะอย่างไรก็ตาม ระลึกเสมอว่า การฆ่าผมตายเพียงคนเดียวนั้นไม่ได้แปลว่า จะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของพันธมิตรฯ ได้ขอให้พ่อแม่พี่น้องจงมีความสุข สนุกสนานกับการได้รับฟังคอนเสิร์ตทางการเมืองที่ระยอง"

 

 

พิภพอ้างเสื้อแดงมีแผนติดอาวุธ นำคนต่างชาติเข้ามา แต่คนไม่เอาด้วย

ด้านนายพิภพ ธงไชย ปราศรัยว่า สถานการณ์ตอนนี้ต้องใช้บทเรียนของวันที่ 12-13 ตอนนี้คนของทักษิณ ชินวัตร อย่างจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งหลบลงใต้ดิน ยังคงทำสงครามประชาชนต่อไป จะใช้อาวุธอย่างเต็มที่ ใช้ความรุนแรงอย่างเต็มที่ แต่ผมไม่เชื่อว่าเขาจะมีประสิทธิภาพขนาดนั้น ได้แต่คุยโวไปอย่างนั้นเอง เพราะว่าเหตุการณ์วันที่ 12-13 ได้ข่าวมาแต่ต้นว่ามีการเตรียมอาวุธ มีการติดอาวุธ มีการจะเอาคนต่างชาติเข้ามา สุดท้ายผู้ที่ร่วมกับกลุ่มเสื้อแดงอาจจะมีจำนวนเป็นหมื่นหรือเกือบแสน เมื่อเห็นว่าแกนนำบางส่วนใช้ความรุนแรง เผาบ้านเผาเมือง จึงไม่รวมตัว ไม่ร่วมมือกับการใช้ความรุนแรงของคุณทักษิณที่ถูกปลุกขึ้นมา ในวันนั้นความรุนแรงจึงไม่กระจายตัว

 

นายพิภพยังกล่าวหาว่า ธาตุแท้ของทักษิณคือ ไม่รักชาติ ไม่รักศาสนา ไม่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมจะเผาบ้านเผาเมือง และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ

 

นายพิภพ ได้เสนอยุทธศาสตร์ที่จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ที่ต้องดึงคนรักความเป็นธรรมในเสื้อแดงมาร่วมพันธมิตรฯ ไปสู่ชัยชนะ เขารู้แล้วว่าทักษิณไม่รักชาติ บ้านเมือง จักรภพพร้อมทำสงครามทุกรูปแบบ คนรักความเป็นธรรมอย่างแท้จริงด้วยใจจริงๆ เดินตามคนเหล่านี้ได้อย่างไร ถึงอย่างไรต้องไม่ประมาท เพราะกลุ่มที่ยังเดินตามทักษิณ เชื่อทักษิณยังมีอยู่ และมีหลายกลุ่มพร้อมใช้ความรุนแรง แม้ผมจะเห็นว่าไม่มีประสิทธิภาพ แต่เมื่อเขากล้าประกาศต่อโลกผ่านบีบีซี เราต้องไม่ประมาท สิ่งที่เราเผชิญคือสงครามไร้รูปแบบ จนกว่าทักษิณจะสิ้นไป จึงจะยุติสงครามนี้ได้

 

 

แนะสร้างเครือข่ายจับตาผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ แบบอังกฤษสมัยสงครามโลก

ในระหว่างนี้เราต้องสร้างเครือข่าย ดูแลว่ามีใครบ้างไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ต้องรายงานกับรัฐบาล และรัฐบาลต้องมีวอร์รูม และต้องตระหนักรู้ว่าวิกฤตนี้มีไปอีกระยะหนึ่ง และจะเพิ่มความรุนแรงไปเรื่อยๆ โดยนายพิภพเปรียบเทียบกับอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่รบกับเยอรมัน ที่นายกรัฐมนตรีวินสตัน เชอร์ชิลตระหนักดีว่าทหารของอังกฤษกับสัมพันธมิตรต่อสู้เยอรมันอย่างเดียวไม่พอ เพราะเยอรมันส่งหน่วยจารกรรมเข้ามาในเกาะอังกฤษ เชอร์ชิลจึงประกาศให้ชาวอังกฤษต้องร่วมทำสงครามเยอรมันโดยสร้างเครือข่ายป้องกันเกาะอังกฤษให้ปลอดพ้นการจารกรรมทุกชนิด เราก็เช่นเดียวกัน เมื่อทักษิณยังไม่หยุด และยังกล้าประกาศผ่านคุณจักรภพ เราต้องไม่ประมาท

 

เพราะหลังวันที่ 12 - 13 ยังสามารถยิงคุณสนธิ ลิ้มทองกุลในขณะที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้แสดงว่ากลไกของทหารอ่อนแอยิ่ง เสร็จแล้วแม่ทัพยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดที่ไหนก็ได้ การมีอาวุธสงครามใช้ที่ไหนก็มีได้ พูดมาทำไม ตัวเองเป็นแม่ทัพบก ทำไมจึงไม่บอกว่าจะตรวจสอบการใช้อาวุธสงครามว่ามาจากกรมกองไหน

 

 

ชี้ทักษิณเสียหายหลังการชุมนุมเสื้อแดง เกิดการจัดกลุ่มอำนาจใหม่

นายพิภพกล่าวว่า ทักษิณเป็นอำนาจที่ราชการ นักการเมือง ทหาร ตำรวจ และประชาชนบางส่วน ยังคิดว่าทักษิณมีโอกาสกลับมาได้ ก็เลยไม่ร่วมมือรัฐบาลที่เรียกว่าเกียร์ว่าง เพราะหวังรอ ตำรวจก็ได้เงินจากทักษิณ 2,000 ล้าน ในการฆ่า นำจับ อะไรต่างๆ ก็ชื่นชมทักษิณในอดีต ขณะเดียวกันก็มีเงิน 76,000 ล้านล่อใจอยู่ เพราะว่ารัฐบาลยังไม่สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมยึดมาเป็นของหลวงได้ ทักษิณมีการส่งสัญญาณว่าถ้าทำให้เงิน 76,000 ล้านไม่ถูกยึด แบ่งไปเลย 20,000 ล้าน นี่เป็นรางวัลให้พวกนี้กระทำการมิดีมิร้ายกับบ้านเมืองเพียงจะช่วยทักษิณ

 

เมื่ออำนาจนี้เริ่มคลอนแคลน ทักษิณเสียหายในเหตุการณ์วันที่ 12-13 แม้ความเสียหายของประเทศไทยจะใหญ่หลวงนัก การจัดอำนาจใหม่จึงเกิดขึ้น นี่แหละการลอบยิง ลอบฆ่า การสร้างการก่อกวน อาจจะไม่มาจากกลุ่มคุณทักษิณเท่านั้น อาจมาจากกลุ่มอำนาจใหม่ด้วย และอำนาจใหม่นี้ยังคงลักษณะการเมืองเก่า ร่วมมือกับนักการเมืองเก่า เพื่อมาแทนรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้ได้

 

 

อภิสิทธิ์สลายชุมนุมไม่มีคนตาย เหนืออังกฤษมีตายคนเดียว

นายพิภพยังกล่าวว่า อภิสิทธิ์ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และคนไทยทั้งประเทศ มีภาวะความเป็นผู้นำ ก่อนหน้านั้นนานาชาติหัวเราะคุณอภิสิทธิ์ เยาะเย้ยคุณอภิสิทธิ์ที่ไม่สามารถดูแลการประชุมอาเซียนได้ แต่ทันทีที่คุณอภิสิทธิ์สามารถแก้ไขปัญหาการก่อจลาจลได้อย่างสงบ ทั้งๆ ที่อังกฤษ มีการประชุม G-8 ที่ลอนดอน ตำรวจยังพลาดพลั้งทำให้คนอังกฤษตายไป 1 คน แต่วันนั้นโดยฝีมือทหารและรัฐบาล ไม่มีตายสักคนเดียว ยกเว้นที่เสื้อแดงไปยิงที่นางเลิ้ง 2 คน

 

ทักษิณยังดิ้นอยู่ แต่เป็นการดิ้นที่มีพื้นที่เล็กลงทุกที พี่น้องลองนึกภาพสิว่า สุดท้ายพื้นที่ที่ทักษิณจะต้องดิ้นอาจยาวแค่ ยาว 2 เมตร กว้าง 1 เมตร เท่านั้นใช่ไหม โดยนายพิภพกล่าวว่าทักษิณยอมแพ้เถิด ประชาชนจะปรบมือให้ ขืนดิ้นต่อไปประเทศชาติจะเสียหาย ท่านอ้างรักประเทศชาติรักประชาชนให้มาสู้คดี และพร้อมมาติดคุก ถ้าอยากเป็นแบบแมนเดลา ต้องยอมติดคุกเหมือนแมนเดลา แต่ทักษิณคงไม่กล้า

 

นายพิภพกล่าวว่า พันธมิตรฯ ได้รับชัยชนะมาเรื่อยๆ 12-13 เราตัดสินใจไม่ว่าถูกยั่วยวนอย่างไร ไม่ว่ามีความกังวลอย่างไร เราไม่ออกมาเป็นเหยื่อทางการเมืองปะทะกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกัน เราจะกลายเป็นเหยื่อทางการเมืองของทักษิณในที่สุด นี่คือชัยชนะ ชัยชนะที่ทำให้รัฐบาลสามารถรวบรวมฝ่ายความมั่นคง รวบรวมทหาร รวบรวมสถาบันต่างๆ แก้ไขปัญหาจลาจล ซึ่งเกิดจากการปลุกระดมจากทักษิณ ชินวัตรได้สำเร็จ โดยเราได้นิ่งและให้กำลังใจกับรัฐบาล นี่เป็นการช่วยรัฐบาลให้เขาทำงานด้วยความบริสุทธิ์และประสบความสำเร็จ

 

 

สถานการณ์คับขัน สุริยะใสมาไม่ได้ ชี้ภารกิจไม่ใช่รักษามาร์ด-ปชป. แต่รักษาสามสถาบัน

นายพิภพกล่าวว่า แม้ว่าจะมีการลอบฆ่าคุณสนธิ มีโอกาสที่จะลอบยิงสุริยะใสตามที่มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ และมีข่าวว่าจะยิงแกนนำคนอื่นๆ อีก สุริยะใสบอกมาว่าวันนี้อยากจะมา แต่มาไม่ได้ สถานการณ์คับขัน พ่อแม่พี่น้องคงเห็นใจ เขาฝากความรักและความห่วงใยมายังพี่น้องพันธมิตรฯ ทุกภาคที่มารวมกันที่ จ.ระยอง

 

นายพิภพ กล่าวถึงภารกิจของพันธมิตรฯ ว่า งานนี้ไม่ได้เป็นงานรักษาพรรคประชาธิปัตย์ รักษาอภิสิทธิ์ แต่เป็นการรักษาชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข งานนี้เป็นงานของประชาชนทั้งประเทศ เราต้องผ่านวิกฤตให้ได้ อย่างช้าที่สุดปลายปีนี้ นักการเมืองที่ขี้ฉ้อ และคอรัปชั่น และทักษิณ ต้องไม่มีโอกาสมีอำนาจในสังคมไทยอีกเป็นอันขาด

 

เพราะข้างหน้าของเราเป็นสิ่งที่เราได้ออกแบบไว้แล้ว ว่าสิ่งที่รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้ ก็คือเปลี่ยนแปลงการเมืองเก่า ไปสู่การเมืองใหม่ แต่การจะไปถึงตรงนั้น ต้องยันสู้กับทักษิณให้รู้แพ้ รู้ชนะไปให้ได้ เมื่อชนะแล้ว เราจึงมาสร้างสังคมใหม่ สร้างการเมืองใหม่ เพื่อรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และการร่วมมือกันไม่ทิ้งบ้านทิ้งเมือง ไม่ทิ้งภาระให้เป็นของอภิสิทธิ์คนเดียว เป็นภารกิจของเราที่ต้องทำต่อไป จนกว่าจะได้ชัยชนะ ถ้าไม่ชนะไม่เลิก ประชาชนต้องชนะในท้ายที่สุด ถ้าประชาชนชนะ ชาติก็อยู่ได้ ถ้าประชาชนชนะ ศาสนาก็อยู่ได้ ถ้าประชาชนชนะ สถาบันกษัตริย์ก็อยู่ได้ ใช่หรือเปล่า

 

 

สมศักดิ์เย้ย นปช. ถอดเสื้อแดงหมด แต่พันธมิตรฯ ยังใส่เสื้อเหลือง

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้นำผู้ชุมนุมกล่าวว่า "สนธิสู้ๆ สนธิไม่ตาย สนธิไว้ลาย สนธิสู้ๆ" และกล่าวว่า ลูกกระสุนถ่อย จิตใจอำมหิตเถื่อน ไม่สามารถสกัดกั้นพลังเราได้แน่นอน เราล้างระบบการเมืองเก่าไม่หมด จะไม่หยุดต่อสู้อย่างถึงที่สุด และกล่าวว่าทักษิณเป็นผู้ก่อการร้ายสากล หนีหัวซุกหัวซุนหางจุกตูด ถ้าไม่มีพันธมิตรฯ ต่อสู้มาตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ ชาวโลกที่ถูกไอ้เหลี่ยมหลอกลวง ก็จะไม่หูตาสว่าง วันนี้ทุกคนหูตาสว่าง เจสซี่ แจ็คสัน เป็นนักสิทธิมนุษยชนของโลก ยังออกมาประณามการกระทำของสมุนทักษิณหรือพวกเสื้อแดง ว่าอันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเป็นอนาธิปไตย

 

วันดีคืนดีไอ้สมุนขี้หมายังจัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวง แต่ปรากฏว่ามันถอดเสื้อแดงทิ้งหมด บอกว่าเสื้อสีอะไรก็ได้ ฮ่าๆๆ พี่น้องระวังนะระวังให้ดี แต่เรายังใส่เสื้อเหลืองได้อย่างองอาจท้าทาย มีอะไรไหม มีอะไรหรือเปล่า และว่าเสียดายที่รัฐบาลไปเปิดสภาให้พวกขี้หมาไปหลอกลวงประชาชนทั้งบ้านทั้งเมือง มันไม่มีเวทีอยู่แล้ว ดันเสือกให้มันไปเปิดสภา พูดดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ความเลวของมนุษย์พันธุ์อย่างนี้มันเลวอย่างหาที่สุดมิได้จริงๆ เลวอย่างชนิดที่ว่าลอกเลียนแบบไม่ได้จริงๆ มันจะมาเลียนแบบเรา ปัดโธ่ไอ้เวร มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของพันธมิตรฯ เลียนแบบไม่ได้ ของจริงตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ อยู่ตรงไหนก็ส่องแสงสว่างบรรเจิดจ้างตลอด เพราะมันของจริง ของจริงมันมีคุณงามความดี มีศีลธรรมในตัวไปที่ไหนก็อธิบายได้ วันนี้อียูก็ประณามเสื้อแดง หูตาสว่างเพราะพันธมิตรฯ ทอแสงสว่างให้เขาเห็น

 

 

สมเกียรติบอกเสื้อแดงเรียบร้อยแน่ ถ้าประชุมอาเซียนที่ระยอง-ภูเก็ต

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า หากวันนั้นมาจัดประชุมอาเซียนที่ระยอง ประเทศไทยมีศักดิ์ศรีไปแล้ว สำเร็จเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลไปหลงเชื่อนายกฯ เมืองพัทยา โดย ส.ส.ชลบุรี ไม่รู้เรื่องนี้ นอกจากนายกฯ เมืองพัทยากับรัฐบาล เลยพ่ายไปทั้งคู่ ที่ว่ามาจัดที่ระยอง ศักดิ์ศรีของประเทศจะต้องยิ่งใหญ่ นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้นำแห่งอาเซียนที่ลบรัศมีระบอบทักษิณไปเรียบร้อยเลย ทำไมถึงต้องมาจัดระยอง เพราะว่าระยองไกลเกินไป เสื้อแดงตายห่าระหว่างทางก่อนครับพี่น้อง

 

นายสมเกียรติ ได้ชื่นชมขบวนการสิ่งแวดล้อมที่ จ.ระยอง ที่เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 52 ศาลปกครองมีคำสั่งว่าศาลสั่งคุ้มครองพี่น้องมาบตาพุด และให้เยียวยาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ถือเป็นชัยชนะจังหวัดเดียวของประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดขูดรีดกำไรไปอย่างเอิกเกริก เหมือนาริตะสู้มาจนเป็นตำนานของโลก แต่ในวันนี้หากพูดถึงประชาชนลุกขึ้นสู้ต้องพูดถึงระยอง ขอบคุณทุกท่านที่เป็นตัวอย่างอันดีว่า อุตสาหกรรมแม้สร้างความร่ำรวยให้กลุ่มทุนและเราได้ใช้แรงงานบ้าง แต่ไม่ใช่เป็นผลดีเสมอไป ทุกฝ่ายต้องมีส่วนได้ ไม่ใช่ให้ประชาชนเสีย นายทุนได้อย่างเดียว

 

นายสมเกียรติกล่าวว่าคนเสื้อแดงไม่กล้าใส่เสื้อสีแดง เอาสีเหลืองไปใส่ เอาริบบิ้นขาวไปใส่ เอาสีน้ำเงินขี้ขลาดไปใส่ มีคนกล่าวว่า เหลืองกับแดงต่างกันอย่างไร ไม่ได้ต่างกัน แดงชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธและไม่เคยเข่นฆ่าใครเลยนอกจากอยากฆ่านายกรัฐมนตรีคนเดียว กระชากนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะจัดการสังหารนายกฯ มีประเทศไทยที่เดียวที่นายกฯ ประชุม ครม. แล้วบอกว่าผมเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ไปที่ชลบุรีเกือบเอาชีวิตไม่เรา พอเราไปปราศรัยภูเก็ต พี่น้องบอกว่าถ้ามาภูเก็ตเรียบร้อยไปแล้ว ไม่ใช่นายกฯ เรียบร้อย เสื้อแดงเรียบร้อยครับพี่น้อง แต่ผมคิดว่าไม่ต้องไปถึงภูเก็ต มาระยอง เสื้อเหลืองก็เรียบร้อย จัดการเรียบร้อย

 

 

ยันมาร์คต้องสองมาตรฐาน เพราะเหลือง-แดงพฤติกรรมต่าง มีการเผารถเมล์ หมายฆ่านายกฯ

นายสมเกียรติกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงบทตรงไปตรงมากับม็อบที่เรียกว่า "สงบ สันติ" ที่หาว่าสองมาตรฐานนั้น เพราะผู้ชุมนุมสองกลุ่มมีสองพฤติกรรม ต้องใช้กฎหมายสองมาตรฐาน จะใช้มาตรฐานเดียวได้อย่างไร เพราะคนที่เผารถเมล์ ยิงสุเหร่า มุ่งหมายจะฆ่านายกฯ ถึงสามรอบ รอบที่หนึ่งที่ไฟจราจร รอบที่สองที่การประชุมอาเซียน รอบที่สามที่กระทรวงมหาดไทย จะมาตรฐานเดียวอย่างไร และอ้างว่า ขณะที่พันธมิตรฯ ไม่เคยฆ่าใคร เพราะถือหลักอหิงสา

 

ในวันนี้ ไม่ต้องเปรียบเทียบหรอกระหว่างเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง อะไรถูกอะไรผิดรู้แล้ว ใครกันแน่ที่ต่อสู้เพื่อต้องการเงินของตัวเอง ต้องการพ้นคดี ต้องการเอาซากเน่าทางการเมือง 111 ศพ 109 ศพ ฟื้นคืนชีพ ต้องการเข้าสู่อำนาจรัฐอีกครั้ง แต่พันธมิตรฯ ต่อสู้เพื่อหยุดยั้งอำนาจทรราช ไล่คนโกงออกไป โดยไม่หวังอำนาจ ผลตอบแทนของเราคืออะไรในวันนี้ คดีความต่างๆ คุกครับ ผมยังพอไหวโดนสิบกว่าคดี สนธิหกกว่าคดี และถูกลอบสังหารอีก เห็นไหม ฐานะของคุณสนธิ จึงเป็นฐานะทางประวัติศาสตร์ ที่โดดเด่นที่สุดในเอเชีย และกล่าวว่า ในบรรดารัฐสภา บทบาทของอภิสิทธิ์โดดเด่นที่สุด เลยจัดการล่าสังหารครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 มุ่งหมายชีวิตนายกฯ ครั้งที่ 3 เอาอภิสิทธิ์ไม่อยู่ก็เลยเลือกเอาเหยื่อที่ชื่อสนธิ ลิ้มทองกุล แต่สวรรค์ไม่เป็นใจ