เมื่อเวลา 10.00 น. อนุกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงเหตุการณ์นางเลิ้ง, เพชรบุรี ซ.5-ซ.7 ยมราช, อนุสาวรีย์ ชัยสมรภูมิและกรณีเตรียมเผาธนาคารกรุงเทพ ในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่มีนายสุ วิทย์ เมฆเสรีกุล ส.ว. สมุทรสาคร เป็นประธาน ได้เชิญ พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผู้กำกำกับ สน.นางเลิ้ง พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ สน.พญาไท มาชี้แจง

นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ส.ส.กทม.อนุกรรมการจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกว่า 4 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมได้ซักถามถึงเหตุความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนการวางเพลิงธนาคาร กรุงเทพสำนักงานใหญ่ ซึ่งได้รับคำตอบจากพ.ต.อ.จิรภัทรว่าขณะนี้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 รายและอยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งนี้อนุกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตในการรับงานของผู้ต้องสงสัยว่าอาคารซีพี ทาวเวอร์และอาคารธนาคารกรุงเทพฯก็เป็นอาคารที่มีความมั่นคงถาวร แต่เหตุใดวัตถุระเบิดที่เตรียมไปจึงเป็นเพียงขวดน้ำหวาน และเครื่องดื่มชูกำลัง ถือว่าไม่สมเหตุสมผล แต่อนุกรรมการฯ ไม่ได้สงสัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉากหรือไม่  ส่วนหลักฐานที่ตำรวจและพบในที่เกิดเหตุก็มีเพียงวัตถุระเบิด อาวุธเท่านั้น

นางเจิมมาศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้อนุกรรมการฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลที่เกิดขึ้นบริเวณตลาดนางเลิ้ง โดยเฉพาะการเสียชีวิต 2 รายของชาวตลาดนางเลิ้ง โดย พ.ต.อ.รังสรรค์ ชี้แจงผลการชัณสูตรพลิกศพซึ่งพบว่ากระสุนที่ฝังในร่างกายเป็นกระสุนเคบิล แต่ยังไม่ได้สรุปว่าวีถีกระสุนเกิดขึ้นจากใครและใครเป็นผู้ลงมือ แต่เกิดเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะมีการยิงกันมีการนำรถเมล์มาปิดแยกนางเลิ้งและ กลุ่มผู้ชุมนุมมีความพยายามจะเผาจึงทำให้ชาวบ้านเกรงว่าเพลิงจะเผาตลาดที่ มีอายุกว่าร้อยปีจึงทำให้เกิดการปะทะกันเกิดขึ้น โดยในช่วงดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารอยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากนำ กำลังไปจุดอื่นที่มีความวุ่นวายกว่า นอกจากนี้ยังทราบข้อมูลอีกว่าเหตุการณ์ที่นางเลิ้งมีการยิงกันถึง 3 ช่วง เพราะพบข้อมูลว่าในที่เกิดเหตุมีปลอกกระสุนหลายประเภทและมีผู้เห็นเหตุการณ์ ว่ามีกระสุนวิถีไกลด้วย ซึ่งคาดว่ามาจากสะพานเทวกรรมที่เป็นจุดที่ผู้ชุนุมยืนอยู่ โดยการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 1 มิ.ย.จะเชิญชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม

“อนุกรรมการติดใจสงสัยในประเด็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่นางเลิ้ง 2 ประเด็น คือ ผู้ก่อเหตุเป็นคนกลุ่มใด เป็นผู้ชุมนุมหรือเป็นมือที่สาม อย่างไรก็ตามเราจะพยายามรวบรวมหลักฐานข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบเพื่อ ให้การสอบสวนเป็นธรรมเป็นจริงเพื่อให้ความเป็นกลางมากที่สุด”นางเจิมมาศ กล่าว

ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า