คำต่อคำ ‘จอม’ สัมภาษณ์ ‘ทักษิณ’ : สมานฉันท์ เสื้อแดง ข่าวลือ และการขอพระราชทานอภัยโทษ

เช้าวันที่ 6 กันยายน 2552 พ.ต.ท.ทักษิณ โทรเข้ารายการ exclusive 100.5 เมกกะเฮิร์ต โมเดิร์นไนน์ เรดิโอ เพื่อให้สัมภาษณ์ ‘จอม เพชรประดับ’ นี่อาจจะนับเป็นครั้งแรกในรอบปีที่สื่อมวลชนกระแสหลัก เปิดโอกาสให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องลี้ภัยการเมือง หรืออาจจะเรียกว่า หลบหนีคำพิพากษาไปอยู่ในต่างประเทศก็ตามที

แม้ผลจากการเปิดโอกาสให้กับอดีตนายกฯนี้ จะลงเอยด้วยการที่ผู้ดำเนินรายการจำต้องยุติบทบาทในการจัดรายการทางคลื่น อสมท. และกลายเป็นบันทึกอีกบทในสารบัญว่าด้วยเสรีภาพสื่อ อันมีนัยสำคัญสำหรับสังคมไทย แต่เนื้อหาในบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะการย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่า นายกรัฐมนตรีไทย ไม่ว่าจะเป็นสมัยของอดีตนายกฯผู้นี้ หรือในสมัยของนายกฯคนปัจจุบัน ไม่มีอำนาจ หรือมีก็อาจจะถูกแทรกแซงได้ตลอดเวลา
 
มีอีกหลายคำถามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกถามอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่เสื้อแดงล้มสถาบันจริงไหม ความรวยของทักษิณ และอีกข่าวลือสารพัด ไปจนกระทั่งการขอพระราชทานอภัยโทษ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยว่า “ได้ทำในส่วนที่ถูกกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว”
 
ต่อจากนี้คือการถอดความบทสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ โดย ‘จอม เพชรประดับ’ แบบ ‘คำต่อคำ’
 
0 0 0
 
จอม : วันนี้เราจะพูดคุยกับบุคคลบุคคลหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ทุกความเคลื่อนไหว หรือทุกความคิดของเขา ก็ได้ถูกนำเสนอรายงานมายังประเทศไทยตลอดเวลา บุคคลท่านนี้มีคนกลุ่มหนึ่งกล่าวหาว่า เป็นผู้ร้ายบ้าง เป็นผู้ที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศไทย พยายามที่จะทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพราะไม่ยอมมารับโทษจากคำพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 2 ปีในคดีซื้อขายที่ดินที่รัชดาฯ
 
แม้ว่าบุคคลท่านนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ยังมีกลุ่มพลังมวลชน โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังคงระลึกถึงเขา ยังคงช่วยเหลือเขา แม้กระทั่งการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งทางรัฐบาลและทางราชการก็มองว่า การขอพระราชทานอภัยโทษนั้น นอกจากจะผิดขั้นตอนแล้วก็ยังเป็นการสร้างความเสียหายต่อสถาบันด้วย
 
บุคคลท่านนี้ยังถูกรัฐบาลไทยมองว่าเป็นคนที่ทำร้ายประเทศไทย คอยป่วนประเทศไทย ไม่ให้เดินหน้าไปได้ พัฒนาไปไม่ได้ หลายกลุ่ม หลายคน จึงพยายามขอร้อง วิงวอนจากบุคคลท่านนี้ว่า ยุติเถอะ เพื่อเห็นแก่ประเทศของตัวเอง และประเทศของคนไทยทุกคน หยุดการเคลื่อนไหวเสียที หยุดการทำร้ายประเทศไทยเสียที   
 
และด้วยข้อกล่าวหา ด้วยความคิดของคนไทยกลุ่มหนึ่งในลักษณะนี้นี่เอง ทำให้บุคคลท่านถูกมองว่าเป็นสาเหตุของวิกฤตของประเทศที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนบุคคลท่านนี้เป็นใครไปไม่ได้ นั่นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย
 
ซึ่งเราจะพูดคุยกับท่านในวันนี้ และการพูดคุยกับท่านในครั้งนี้ จะไม่เหมือนกับการโฟนอินพูดคุยกับกลุ่มเสื้อแดงเหมือนที่ผ่านๆ มา แต่จะเป็นการสัมภาษณ์กับสื่อทางวิทยุ 100.5 อสมท. ซึ่งจะเป็นการสัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรก
 
และในฐานะที่ผมเป็นคนข่าว ขออธิบายกับท่านผู้ฟังก่อนว่า การสัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่ใช่การรับใช้ หรือเอนเอียงเข้าข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ต้องการให้ประชาชนได้ข้อมูลที่รอบด้าน เป็นธรรม เพื่อประกอบการพิจารณาว่าอะไรเกิดขึ้นในสังคมไทย
 
ตอนนี้ ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในสายแล้ว สวัสดีครับ
พ.ต.ท.ทักษิณ : สวัสดีครับคุณจอมครับ พูดเสียน่ากลัวมาก น่ากลัวมากเลย
 
จอม (หัวเราะ) : มีเรื่องน่ากลัวมากมายที่พูดถึงตัวท่านในประเทศไทย แต่ผมว่าน่าคือช่องทางหนึ่งที่ประชาชนจะได้รับฟังจากเสียงของท่านเองว่า ความน่ากลัวทั้งหลายที่คนไทยมองท่าน ท่านจะอธิบายอย่างไร

 

พ.ต.ท.ทักษิณ : ปัญหาของเราวันนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่า เรากำลังปล่อยให้มีสถานีที่โกหกรายวัน และกรอกหูประชาชนเป็นเวลานาน และทำอะไรก็ไม่ผิด แต่ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งพยายามที่จะบอกความจริง ก็หาเรื่องถูกทุบตีเรื่อย หาเรื่องปิดบ้างอะไรบ้าง ถ้าสังคมไหนไม่มีกติกา คนโกหกสามารถโกหกได้ตลอดไป คนที่พูดความจริงก็กลายเป็นบุคคลที่มีปัญหา
 
จอม : แต่อีกฝั่งหนึ่งก็มองว่า ท่านก็พูดโกหกเหมือนกัน ( หัวเราะ)
พ.ต.ท.ทักษิณ : คือเวลานี้ คนที่โกหก แล้วทำให้คนอื่นเสียหายนี่ ขึ้นศาล ก็ไม่เป็นธรรม ศาลก็ไม่รับ บางคดีถูกกล่าวหาคดีรุนแรง ศาลถอนคดีให้ ถอนข้อกล่าวหาให้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประวัติ ตั้งแต่ตั้งศาลไทยมา แต่ก็ทำมาแล้วโดยการถอนข้อกล่าวหาให้ มันเอียงกันอย่างชัด ๆ คือสรุปแล้ว ม็อบมีเส้น กับม็อบไม่มีเส้น ใครเข้าม็อบมีเส้นก็สามารถพูดอะไรก็ได้ โกหกอะไรก็ได้ และขึ้นศาลก็ไม่มีความผิด บางทีขึ้นศาลก็ถูกยกคดีไปทุกที่ ที่ไหนไม่มีความเป็นธรรม สังคมไม่มีความสงบหรอกครับ เพราะกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย ระบบยุติธรรมไม่มีความยุติธรรม ไม่มีทางหรอกครับ
 
จอม : ท่านบอกว่า อยากจะกลับบ้านเต็มที อยากมาช่วยชาติบ้านเมือง คิดว่าถ้าท่านกลับมา กระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่เวลานี้ จะให้ความเป็นธรรมกับท่านได้หรือไม่
พ.ต.ท.ทักษิณ : คือความยุติธรรมของประเทศไทยในวันนี้ ถ้าไม่มีคนดึงอยู่ข้างหลัง ระบบเขาดีอยู่แล้ว เพราะศาลส่วนใหญ่ วันนี้เขาก็อึดอัดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะมันมีบางคน คอยไปจิก ไปจี้ เรื่องบางเรื่อง obvious (เห็นได้ชัด) มากเลยครับว่า ต้องผิด แต่ปรากฏว่าไม่ผิด เรื่องบางเรื่องชัดเจนมากว่า มันไม่ผิด แต่ก็ผิด ยกตัวอย่าง เรื่องของการทำกับข้าวของคุณสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นเรื่องที่ตลกมาก และเรื่องมาตรา 100 ที่เล่นงานผมนี่ คือ การซื้อขายไม่ผิด แต่ผมอนุญาตให้ภรรยาไปเซ็นนิติกรรมรับโอนขึ้นมา และใช้บัตรของนายกรัฐมนตรี ซึ่งบังเอิญมันมีบัตรที่มีเลขประจำตัวประชาชนอยู่ในนั้น ซึ่งใช้แทนบัตรประชาชนได้นั้น ก็ผิดมาตรา 100 จำคุก 2 ปี แต่ไปบุกรุกป่าสงวน ยึดยอดเขาทั้งยอดเขา ไม่มีความผิด คือความไม่เป็นธรรมมันรุนแรง
 
จริง ๆ แล้ว วัตถุประสงค์คือ ต้องการเปลี่ยนข้างการเมืองเท่านั้นเอง เพราะถ้าลงไปเลือกตามประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางชนะ ก็เลยต้องใช้ทุกวิถีทาง และวันนี้คุณสังเกตดูไหมว่า แกนนำรัฐบาล มีจำนวน ส.ส.ในสภาน้อยกว่าแกนนำฝ่ายค้าน เพราะมีการบังคับให้เกิด position ใหม่ โดยการไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ผมว่าวันนี้ ต้องเอาความจริงมาพูดกัน
 
จอม : ถ้าท่านมองว่า นี่คือความจริงอีกด้านหนึ่งที่สังคมไทยควรจะรู้ ถ้าท่านมีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ผมก็ยืนยันว่า ท่านก็คงมีความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองอยู่ แต่จะให้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงในปัญหาที่ท่านมองเห็น ท่านกลับมาช่วยแก้ไขไม่ดีกว่าหรือ
พ.ต.ท.ทักษิณ : แล้วจะให้แก้อย่างไรละ
 
จอม : ท่านอาจจะกลับมา แล้วหาทางแก้กันดู ประสานงานกัน แก้ปัญหาบบ้านเมืองร่วมกัน
พ.ต.ท.ทักษิณ : ผมไม่รู้จะพูดกับใคร จะให้ผมพูดกับใคร ใครจะพูดกับผมล่ะ ไม่มีหรอก คนที่กำลังสร้างปัญหาอยู่ และแอบกดดันสั่งการอยู่ข้างหลังนั้น คือคนที่ไม่รับผิดชอบอะไรทางการเมืองเลย และไม่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายด้วย แต่ใช้บารมีสั่งการอยู่อย่างนี้ และระบบยุติธรรมก็เสียหายหมด แล้วจะให้ผมคุยกับใคร วันนี้ผมอยากจะคุย แล้วจะให้ผมคุยกับใคร
 
จอม : ท่านรองสุเทพ (เทือกสุบรรณ) บอกว่า พยายามหลายครั้งที่จะคุยกับท่าน
พ.ต.ท. ทักษิณ – ไม่มีทาง
 
จอม : ไม่มีทาง เพราะท่านไม่อยากคุยหรืออย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณ : ไม่ใช่ เขาไม่เคยมาพูดเลย
 
จอม :  ไม่เคยติดต่อมาหาท่านเลยหรือ
พ.ต.ท.ทักษิณ : ไม่เคยเลย คือประชาธิปัตย์นี่เก่งมากในการพูดให้คนอื่นเสีย แล้วให้ตัวเองดูดี ไม่มีเลยฮะ (คุณสุเทพ) ไม่โทรหาผมแม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยให้ใคร on behalf  หรือเป็นตัวแทนเขาโทรติดต่อผม ไม่มีเลย
 
จอม : ถ้าในทางกลับกัน ให้ท่านยอมเสียสละศักดิ์ศรี เกียรติยศบ้างบางส่วน โทร.คุยกับคุณสุเทพ เพื่อหาทางสมานฉันท์ จะทำได้ไหมครับ
พ.ต.ท.ทักษิณ : ผมไม่เห็นมีอะไร เดี่ยวก่อนนะฮะ คุณสุเทพเป็นใคร ทำไมต้องคุยกับคุณสุเทพ ถ้าคุณสุเทพโทรมา
 
จอม : เขาเป็นรองนายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ทักษิณ : รองนายกฯ ไม่ใช่หัวหน้าพรรค วันนี้รองนายกฯ จะตั้งคนหนึ่ง นายกฯ จะตั้งคนหนึ่ง ยังตั้งไม่ได้เลย (หมายถึง ผบตร. – ประชาไท) เถียงกันไม่จบเลย วันนี้จะให้ฟังใคร ถามจริงๆ คุณจอม คุณจอมช่วยไปหาคนซึ่งเป็นคนที่สามารถมีอำนาจตัดสินใจได้ แล้วคุยกับผม แล้วบอกผมหน่อย อำนาจการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์อยู่กับใคร บอกมาเลย แล้วผมคุยได้
 
จอม : ท่านคิดว่า ไม่ใช่คุณสุเทพใช่มั้ยครับ ในการตัดสินใจในพรรคประชาธิปัตย์
พ.ต.ท.ทักษิณ : ไม่ใช่หรอก เดี่ยวนี้คุณสุเทพยังทะเลาะกับคุณอภิสิทธิ์อยู่เลย
 
จอม : ถ้ามองว่า นายกรัฐมนตรีคือผู้นำสูงสุดที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย แก้ปัญหาของบ้านเมือง ท่านจะลองคุยกับท่านนายกฯ อภิสิทธิ์มั้ยครับ แล้วหาทางปรองดองกัน คุยกัน
พ.ต.ท.ทักษิณ : ก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีปัญหาเลย ผมคุยกับคนได้ทุกคน
 
จอม : แต่ใครจะเป็นคนเริ่มคุยก่อน
พ.ต.ท.ทักษิณ : ได้ทั้งนั้นแหละครับ ผมไม่มีปัญหา ถ้าอยากคุยก็คุยกัน ไม่มีปัญหาเลย คนไทยด้วยกัน  เพียงแต่ว่า คุยแล้ว เขามีอำนาจตัดสินใจไหม ผมไม่เชื่อว่า คุณอภิสิทธิ์เองจะมีอำนาจตัดสินใจ ผมไม่เชื่อหรอก เพราะวันนี้คุณอภิสิทธิ์จะตั้ง ผบ.ตร. ยังตั้งไม่ได้เลย
 
จอม : ถ้าอย่างนั้น ปัญหาจะจบลงอย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณ : คุณจอม ผมจะบอกให้ บ้านเมืองที่ยุ่งวันนี้ โครงสร้างปกติไม่สามารถทำงานได้ปกติ เพราะคนที่อยู่นอกโครงสร้างของการบริหารจัดการ เข้ามาสั่งการใช้บารมี ใช้อำนาจจัดการตรงนั้นตรงนี้ ทำให้คนที่อยู่ในโครงสร้างทำงานไม่ได้ ผมเจอปัญหานี้ตอนที่ผมเป็นนายกฯ ปีสุดท้าย ที่สร้างขบวนการพันธมิตรประชาชนฯ เข้ามาไล่ผม เพื่อเป็นเหตุในการปฎิวัต (รัฐประหาร 19 กันยา 49) ตรงนั้นต่างหากละ
 
ผมมาโดยครรลองที่ถูกต้อง ประชาชนเลือกมาถึง  377 เสียงใน 500 เสียง แต่ปรากฏว่า มีม็อบมาอีกกลุ่มหนึ่ง ม็อบกลุ่มซึ่งผม handle (รับมือ) อะไรไม่ได้เลย ผมจัดการอะไรไม่ได้เลย เพราะมีคนแอบสั่งการ  ศาลก็ไม่ทำงาน ผมเป็นนายกฯ มาจากประชาชน ผมทำงานไม่ได้ เพราะมีคนแอบสั่งการ เสร็จแล้วหลังจากนั้นยังไม่พอ หาเรื่องหาเหตุจนให้มีการปฎิวัต วันนั้นต่างหาก 3 ปีที่แล้วต่างหากที่เป็นเหตุทั้งหมด แล้วตั้งแต่ปฎิวัต ผมออกไปแล้ว บ้านเมืองเป็นอย่างไร  บ้านเมืองเละตุ้มเปะ ระบบยุติธรรมเสียหาย สองมาตรฐานเกิดขึ้นอย่างชัดเจน อย่างนี้ คุณเห็นไหม
 
จอม : ถ้ามองว่า โครงสร้างของบ้านเมืองผิดเพี้ยนไป ไม่มีความถูกต้อง มีสองมาตรฐาน ท่านเองก็มีพลังประชาชนอยู่ เราให้พลังประชาชนมาร่วมกันทำให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติไม่ดีกว่าหรือ
พ.ต.ท.ทักษิณ : คุณจอมฮะ กลไกของระบบราชการ เขาไม่ได้ฟัง เขาไม่ได้ฟังโดยตรงจากกลไกของประชาชนหรอก มันมีการเข้าแทรกแซงในหลายระดับ ซึ่งตราบใดที่โครงสร้างไม่ชัดเจน รัฐธรรมนูญไม่ชัดเจน แล้วยังมีคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารแอบสั่งการอย่างนั้น สั่งการนี้ ไม่มีทางที่บ้านเมืองจะสงบหรอกครับ ประชาธิปไตยที่แท้จริงยังไม่มี ไม่สงบหรอกครับ คือวันนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่า เราดูเหมือนเป็นประชาธิปไตยนะ แต่มันไม่ใช่ มันไม่เป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย คุณจอม ก็รู้ดีว่า ประชาธิปไตยมันคืออะไร
 
จอม : ท่านเคยบอกว่าเหมือนกันว่า ถ้าท่านกลับมา ท่านก็พร้อมที่จะอโหสิกรรมให้กับทุกฝ่าย แต่ฟังจากท่านตอนนี้ ดูเหมือนว่า ท่านยังไม่พร้อมที่จะอโหสิกรรมให้กับใคร
พ.ต.ท.ทักษิณ : มันไม่เกี่ยวเลยครับ อันนี้ไม่ใช่เรื่องการอโหสิกรรม เรากำลังวิจารณ์กันถึงเรื่องว่า กลไก มันจะเดินอย่างไร ถ้าทุกคนวางมือหมด คืนความเป็นธรรมให้ทุกฝ่าย ไม่ต้องมานั่งทะเลาะเบาะแว้งกัน แล้วกลับไปหาประชาชนนะ ให้ประชาชนตัดสินทั้งหมด แล้วให้โครงสร้างเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเสียที บ้านเมืองมันก็สงบได้ ผมกำลังบอกว่า ผมไม่ได้อาฆาตใคร แต่ผมกำลังจะบอกว่า ปัญหามันอยู่ที่ไหน
 
ไม่ต้องอะไรมาก เมื่อเร็ว ๆ นี้เลยนะคุณจอม เมื่อ 7 ตุลาคม (สลายม็อบ พันธมิตร ที่หน้ารัฐสภา) การสลายม็อบเป็นไปตามหลักวิชาทุกอย่าง มีขั้นตอน มีการใช้แก๊สน้ำตา แต่การสลายม็อบที่ดินแดงตี 4 (สงกรานต์เลือด) ยังไม่ทันไรเลย เอาเอ็ม 16 สาดเข้ามา แล้วอีกฝ่ายหนึ่งต้องถูกดำเนินคดีทั้งอาญา ทั้งวินัย ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีคลิปเสียงตำรวจพิสูจน์ออกมาแล้วว่า รอยตัดช่วงที่ไปตัดนะ มีความสมบูรณ์ในตัวเองว่า มีการใช้ความรุนแรง แล้วมีอะไรเกิดขึ้นไหม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือมันชัด ๆ ว่า จะเข้าข้างฝั่งนี้แหละ จะเก็บฝั่งนี้ไว้แหละ อีกฝั่งหนึ่งอย่าเข้ามายุ่งนะ
 
จอม : ท่านคิดอย่างไร กับสิ่งที่สังคมกลุ่มหนึ่งกำลังจะร้องขอและวิงวอนจากท่านบอกว่า ยุติการเคลื่อนไหวเสียทีเถอะ ยุติการทำร้ายประเทศไทยเสียทีเถอะ ขอให้สังคมสงบ แล้วเดินหน้าต่อไปได้
พ.ต.ท.ทักษิณ : แล้ววันนี้สรุปแล้ว หมายความว่า ถ้าปล้นอำนาจเสร็จก็บอกว่า หยุดเถอะนะ ง่าย ๆ อย่างนี้หรือ สมมุติง่ายๆ นะว่า คุณจอมไปปล้นเงินเขามา ได้เงินมาแล้วก็จะไปกินก๋วยเตี๋ยว และเมื่อเจ้าทรัพย์มาตามว่า เฮ้ย! เอาเงินผมคืนมา แล้วคนที่ปล้นเงินเขามาก็บอกว่า เนี่ยมายุ่งกับเงินผม จนผมกินก๋วยเตี๋ยวไม่ได้ ร้านก๋วยเตี๋ยวก็โกรธ แหวใส่ แทนที่จะอุดหนุนร้านก๋วยเตี๋ยวผมเลยทำไม่ได้ มันถูกไหมละ คือต้องดูต้นเหตุ ไม่ใช่ดูปลายทาง พอดูปลายทางแล้วสรุป ไม่ได้ 
 
คือวันนี้ จุดอ่อนของเรา คือการศึกษาของเรา มันสอนให้คนท่องจำ เพราะฉะนั้นมันมี knowledge without understanding คือมีความรู้ แต่ไม่มีความเข้าใจ วิเคราะห์อะไรไม่เป็น พอใครพูดอะไรกรอกหูก็เชื่อเลย ต้องไปหารากฐานเลยว่า หนึ่ง เราเป็นประชาธิปไตยอยู่ดี ๆ ใช่มั้ย สอง บ้านเมืองเรามันดีๆ ใช่ไหม สาม มันมีคนเสียผลประโยชน์คนหนึ่ง รวมตัวกันแล้วขึ้นมาประท้วง เสร็จแล้วก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการจะเปลี่ยนเอาอำนาจเข้าไปสนับสนุน เช่น ไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ก็ดี บุคคลที่อยู่นอกโครงสร้างก็ดี เข้ามายุ่ง ยุ่งแล้วก็หาเรื่องปฎิวัติ วันนี้บ้านเมืองย่อยยับก็มาจากการปฎิวัติ คุณจอม หลังปฎิวัติทุกครั้งเขาไม่ทำกันอย่างนี้ แต่นี่เมื่อปฎิวัติแล้ว เอาคนที่เป็นปฎิปักษ์ทางการเมืองมานั่งสอบสวน หาเรื่องมันทุกเรื่อง อีกฝ่ายหนึ่งผิดก็ไม่ทำอะไร อย่างคนสอบสวนผมคนหนึ่งนี่ พบว่าโกงเครื่องบินโดยสารของการบินไทย ก็ไม่สอบสวนจนป่านนี้
 
จอม : เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ท่านก็เปิดตัวรายการวิทยุเฉพาะของท่านเอง talk around the world ทาง www.thaksinlive.com พอรายการนี้ออกวันแรก ทางคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็บอกว่า ทำอย่างนี้ สักวันหนึ่งหรือสุดท้ายคุณทักษิณก็คงจะรู้ว่าเป็นการทำร้ายตัวเอง และวันเกิดของท่าน ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ก็ได้อวยพรให้ท่านด้วย ท่านอภิสิทธิ์บอกว่า ขออวยพรให้ท่านทักษิณมีความสุข มีความสมหวัง แล้วสักวันหนึ่งก็คงได้มีดวงตาที่เห็นธรรม คิดอย่างไรกับคำอวยพรนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ : เป็นวันเกิดผม ผมก็ขอบคุณคุณอภิสิทธิ์ไป แต่วันนี้ คุณอภิสิทธิ์เองก็คงดวงตาเห็นธรรมแล้วละว่า การที่มาเป็นนายกฯ แล้วเป็นอย่างไรบ้าง คงเห็นธรรมแล้วละ
 
จอม : เรื่องของกลุ่มคนเสื้อแดง ตอนนี้เห็นว่ามีการแตกคอกันค่อนข้างมาก คุณจักรภพ (เพ็ญแข) คุณสุรชัย (ด่านวัฒนานุสรณ์) คุณณัฐวุฒิ (ใสยเกื้อ) คุณจตุพร (พรหมพันธุ์) ก็แตกกันออกมา และมีการตั้งกลุ่มแดงสยามขึ้นมาด้วย ท่านมองปัญหานี้อย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณ : ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องจากที่มันมีแกนนำหลายคน ความคิดเห็นต่างกันก็มีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แน่นอน มีความเห็นต่างกันเยอะ แต่ส่วนใหญ่แล้วจริง ๆ เขาต้องการเห็นบ้านเมืองมีประชาธิปไตย ไร้ซึ่งความอยุติธรรมแบบนี้ แล้วให้ระบบสองมาตรฐานหมดไป เขาต้องการอย่างนั้น อยากเห็นการคืนอำนาจให้กับประชาชนเสีย แล้วให้โครงสร้างทุกอย่างทำงานตามปกติ อย่าได้เป็นสองมาตรฐาน หรืออย่าให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนศาล เขาสร้างกันมาเป็นเวลาหลายชั่วคนมากนะครับ และเขาก็สร้างมาเป็นที่ยอมรับนับถือ แต่มาถึงวันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันตลกมาก เรื่องของการยุบพรรคไทยรักไทย (ทักษิณพูดผิด ที่จริงควรเป็นพรรคพลังประชาชน – ประชาไท) สืบพยานเช้าบ่ายยุบ ศาลมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง มากกว่าองค์กรใดๆ ในโลก ซึ่งไม่มีใครเขาทำกัน
 
จอม : เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา คุณจักรภพก็ออกมาพูดเหมือนกันว่า ความพยายามของคนเสื้อแดงที่จะนำท่านกลับมาเมืองไทยไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจจะเป็นฝันสลายก็ได้ โดยบอกว่า ฝันไปเถอะ ถ้าท่านทักษิณกลับมา ก็เป็นเป้าของปืนเสียเปล่าๆ ท่านรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ หรือว่า ถึงวันนี้ ขณะที่เดินทางอยู่ในต่างประเทศ ท่านรู้สึกว่ามีคนพยายามจะปองร้าย หรือเอาชีวิตของท่านหรือไม่
พ.ต.ท.ทักษิณ : ในต่างประเทศไม่มีครับ แต่อยู่ในประเทศไทยโดนหลายรอบแล้วครับ คุณจักรภพก็คงห่วงใยผม ถ้าผมกลับเมืองไทย เมื่อเหตุการณ์ไม่สงบ ถ้าผมกลับไป ผมอาจจะถูกลอบฆ่าอีกก็ได้ หลายคนอาจจะกลัวผม คิดว่าผมจะไปแก้แค้น แอบยิงผมก่อน
 
จอม : ท่านคิดอย่างนั้นไหมครับ
พ.ต.ท.ทักษิณ : ก็เป็นไปได้ ซึ่งผมเองก็ต้องคิดเวลาผมกลับไป ต้องคิดว่า กลับไปแล้วจะมีปัญหาไหม  จริงๆ แล้ว คุณจอมฮะ ผมไม่ได้ซีเรียสว่าจะกลับหรือไม่กลับ ผมจะเล่าให้ฟังว่า ผมเองตอนนี้เหมือนหนู  คุณจุดไฟไหม้ป่า ผมก็ตกใจ ผมก็วิ่งเข้าไปอยู่ในโพลงไม้ ตอนแรกก็อึดอัดว่า นอนอยู่ในบ้านดีๆ ตอนนี้กลับมานอนในโพลงไม้ แต่ผมนอนไปสักพักหนึ่ง ผมมีความรู้สึกว่า ฝนตกผมก็ไม่เปียกนี่หว่า แดดออกผมก็ไม่ร้อนนี่หว่า ก็เริ่มปรับตัวว่า เออ ก็เริ่มอยู่ได้เหมือนกัน อยู่ไปอยู่มา ผมก็เริ่มหาอาหารกินได้แล้ว ซึ่งอยู่ในต่างประเทศอาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์เหลือเกิน ผมก็เลยอยู่ของผมได้
 
แต่ปัญหาก็คือ บ้านที่ไฟไหม้อยู่ตอนนี้ เจ้าของบ้านก็ดี คนอยู่ในบ้านก็ดี ไม่ช่วยกันดับ แล้วถามว่า แล้วหนูตายไหม หนูก็ไม่ได้ตายหรอก เพราะหนูมันอยู่นอกบ้านแล้ว อยู่โพรงไม้ และอ้วนด้วยนะ แต่ที่บ้านที่กำลังมีปัญหาอยู่ จะทำอย่างไร ถ้าจะดับไฟก็ช่วยกันดับ แล้วบอกว่า จะให้หนูไปช่วยซ่อมแซมบ้าน หนูก็ไป เพราะหนูตัวนี้นั้น ถึงแม้จะปรับตัวได้ อยู่ได้ แต่มันก็รักบ้านของมัน
 
จอม : กำลังจะถามต่อพอดีว่า หนูตัวนี้ มีความรักบ้านของตัวเองอยู่หรือเปล่า หรือยังเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้อยู่หรือเปล่า
พ.ต.ท.ทักษิณ : แน่นอนครับ รักอย่างสุดๆ ไม่ใช่รักแบบธรรมดาด้วย และรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณคนที่ห่วงใยผม เอาอย่างนี้ ลองถามคนที่เกลียดผมสุดๆ นี่ ถามว่า ตั้งแต่ผมออกมาแล้ว ประเทศดีขึ้นไหม ตั้งแต่ปฎิวัติ แล้วผมเงียบ ผมไม่ได้ยุ่งอะไร ผมเล่นฟุตบอลของผมอย่างเดียวนี่ ถามว่าบ้านเมืองดีขึ้นไหม ก็แย่ลง ดาวนด์ลงทุกวัน เพราะอะไร เพราะความพยายามที่จะขจัดให้สิ้นซาก โดยยอมให้ระบบทั้งหลายเสียหายหมด ยอมให้เกิดระบบสองมาตรฐาน เพราะต้องการขจัดให้สิ้นซาก และผลสุดท้ายมันไม่จบหรอกครับ 
 
นี่นะคุณจอม มีสงครามที่ไหนบ้าง ที่จบด้วยสงคราม มันต้องจบด้วยการเจรจาทั้งนั้น 
 
จอม : ก็นั่นสิครับ ทำไมท่านถึงไม่เริ่มต้นก่อน
พ.ต.ท.ทักษิณ : จะให้ผมเริ่มต้นอย่างไร วันนี้ ถามจริง ๆ เถอะว่า ใครมีอำนาจจะคุยกับผมละ
 
จอม : ผมว่าท่านรู้นะว่าใครมีอำนาจ
พ.ต.ท.ทักษิณ : เดี่ยวๆ คุณจอม ไปหาให้ผมเลย แล้วเอาเบอร์โทรศัพท์มาเลย แล้วผมจะโทรไปหา
 
จอม : แต่ผมเชื่อว่าท่านรู้ ใครมีอำนาจที่สุด
พ.ต.ท.ทักษิณ : นี่ ขนาดผมเป็นนายกฯ ผมยังไม่มีอำนาจเลย ผมเป็นนายกฯ ผมมี 377 เสียงนะ ผมยัง solid (มีความมั่นคง) มากกว่าคุณอภิสิทธิ์วันนี้อีก แต่ผมยังไม่มีอำนาจเลย วันนี้คุณอภิสิทธิ์รู้ดี เพราะจะตั้ง ผบ.ตร. ยังตั้งไม่ได้เลย โธ่! ประเทศไทย โครงสร้างมันเพี้ยน
 
จอม : มีข้อกล่าวหาที่จะเรียกว่าร้ายแรงก็ว่าได้ ที่มีคนกลุ่มหนึ่งกล่าวหาท่านว่า ท่านไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน
พ.ต.ท.ทักษิณ : อันนี้เป็นข้ออ้างที่ใช้ในการโค่นล้มทางการเมือง ตั้งแต่หลายสิบปีมาแล้ว และเรื่องนี้ ประชาธิปัตย์ถนัดอยู่แล้ว ผมบอกได้เลย ผมเป็นคนที่มีความจงรักภักดีสูงมาก เนื่องจากผมเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนนายร้อย เวลาเราวิ่งไป เราจะพูดว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราท่อง เราปฎิญาณตนทุกวันก่อนนอน แล้วยังไม่พอ ผมสมรสพระราชทานนะครับ พ่อตาผมก็เป็นราชองครักษ์ แล้วผมเองก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณหลายเรื่อง ภรรยาผมได้รับพระราชทานเป็นคุณหญิง โดยสมเด็จฯ (สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ) เป็นคนพระราชทานให้นะ
 
จอม : ความพยายามจะขอพระราชทานอภัยโทษ ทั้งที่ทางราชการบอกว่า เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง แต่กลุ่มคนเสื้อแดงก็พยายามจะขอพระราชทานอภัยโทษให้กับท่าน แต่สุดท้ายเมื่อไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการหรือระเบียบการก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสายตาของคนบางกลุ่มคือ กระเทือนต่อสถาบัน
พ.ต.ท.ทักษิณ : ผมจะพูดคำเดียว แล้วไม่ต้องถามผมต่อนะ ผมรู้ข้อกฎหมาย และได้ทำในส่วนที่ถูกกฎหมายไปเรียบร้อยแล้วครับ แค่นั้นจบ
 
จอม : ขออนุญาตที่จะถามเรื่องนี้ เพราะมีคนฝากถามมาว่า ในขบวนการคนเสื้อแดงตอนนี้ มีส่วนหนึ่งจริงหรือเปล่าที่จะล้มสถาบัน แล้วท่านจะจัดการอย่างไร
พ.ต.ท.ทักษิณ : คนเป็นล้านเนี่ยนะ เราไม่สามารถสกรีนได้ทุกคนหรอก แต่ถ้าเมื่อไหร่มีกระบวนการนี้เกิดขึ้น ผมขวางแน่นอน ผมขวางแน่นอน และผมจะไม่ให้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนเสื้อแดงที่เป็นกองเชียร์ผมตกเป็นเครื่องมือแน่นอน แต่วันนี้นี่ คนที่ไปรวมกัน บางคนคิดอย่างไร ผมไม่รู้ เพราะผมไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ผมอาจจะมีการพูดคุยกับคนบางคน แต่ไม่มีเป้าหมายในเรื่องที่จะไปทำอะไรที่เสียหายต่อ พระราชวงศ์ เพราะผมจงรักภักดี ผมไม่ยอม ถ้าเมื่อไหร่ใครจะเอาขบวนการเสื้อแดงไปทำถึงขั้นนั้น ผมขวางแน่นอน
 
จอม : พูดคุยกับคนบางคน แค่ระดับไหนอย่างไรครับ

 

พ.ต.ท.ทักษิณ : ผมก็พูดคุยบ้างละครับ อย่างคุณวีระ คุณจตุพร คุณณัฐวุฒิ ผมก็คุยบ้าง แต่ไม่คุยทุกคน ส่วนใหญ่มือถือก็จะโทรหาคนใดคนหนึ่งในสามคนนี้
 
จอม : คนเสื้อแดงกำลังต่อสู้กับอำมาตยาธิปไตย ถ้าจะขีดเส้นของคำว่า ‘อำมาตยาธิปไตย’ มันแค่ไหน สูงแค่ไหน หรือลงมาแค่ไหน
พ.ต.ท.ทักษิณ : อำมาตยาธิปไตย คืออำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน และ over rule (ใช้อำนาจแทรกแซง) ยกตัวอย่าง เช่น อยู่ๆ ตั้งใครก็ไม่รู้ ข้าราชการเกษียณ มีอยู่คนหนึ่งให้สามารถปลดนายกฯ ได้ โดยที่ไม่ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน แต่นายกฯ มาจากประชาชน กระบวนการประชาธิปไตยนั้น อำนาจอะไรก็แล้ว มันจะต้องเชื่อมโยงไปที่ประชาชน แต่วันนี้ มีการตั้งข้าราชการเกษียณ แล้วแค่หยิบมือ ตั้งกันขึ้นมา ตั้งขึ้นมาแล้วสามารถมีอิทธิฤทธิ์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดด้วยซ้ำ เขียนกฎหมายเองว่างั้นเถอะ ศาลบางศาล อย่างศาลรัฐธรรมนูญ บางครั้งพิจารณาคดี มีการเขียนกฎหมายขึ้นมาเอง ทั้งๆ ที่ ไม่มีกฎหมาย ยกตัวอย่างเรื่องของคุณสมัคร เปรียบเสมือนการเขียนกฎหมายขึ้นมาไหมล่ะ กฎหมายไม่มี เปิดพจนานุกรมเอาอย่างเนี่ย คนที่มาจากการเลือกตั้ง อยู่ ๆ บอกว่าให้โฆษะ
 
จอม : อย่างคำว่า อำมาตย์ หรือกลุ่มอำมาตย์ ที่คนเสื้อแดงกำลังคัดค้านหรือต่อสู้อยู่นั้น จะรวมแค่ไหนอย่างไร เพราะบางคนบอกว่า เกี่ยวพันถึงสถาบันด้วย
พ.ต.ท.ทักษิณ : บอกแล้วไงว่า ถ้าเมื่อไหร่เกี่ยวพันกับสถาบัน (พระมหากษัตริย์ ) ผมขวางแน่ ผมขวางแน่ และผมเชื่อว่า จะให้คนเสื้อแดงกลุ่มใหญ่ที่สนับสนุนผมไม่ให้ล่วงเลยได้ แต่วันนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้คิดอย่างนั้น เขาคิดแค่โครงสร้าง ที่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจของประชาชนเข้ามาลบล้างอำนาจประชาชน ใม่ใช่ให้คนหลายสิบล้านคนลงไปเลือกตั้ง เลือกตั้งขึ้นมาแล้ว ให้คนไม่กี่คน ไม่กี่หยิบมือทำตามคำสั่ง คนนั้นสะกิด คนนี้สะกิด ล้มล้างอำนาจของประชาชน ตรงนี้มันไม่เป็นประชาธิปไตยครับ ไม่รู้นะ ผมไม่ได้คุยกัน แต่ทุกฝ่ายต้อง limit หรือขีดเส้นอยู่แค่นี้ ล้มล้างระบบอำมาตย์ ก็คือล้มล้างระบบแต่งตั้ง ลากตั้งที่มีเหนืออำนาจของประชาชน เท่านั้นเอง ถ้าเกินกว่านี้ ผมไม่เอาด้วย
 
จอม : ตอนนี้ท่านอยู่ในต่างประเทศ แน่นอนค่าใช้จ่ายสูง คนสงสัยว่าท่านเอาเงินจากที่ไหนมาใช้จ่าย เงินส่วนหนึ่งก็ถูกรัฐบาลไทยยึดไปหมดแล้ว หรือว่ามีเงินบางส่วนท่านแอบไปซ่อนไว้ในต่างประเทศ ไปทำเรื่องฟอกเงินอยู่ในต่างประเทศ จึงเอาเงินเหล่านั้นมาใช้อย่างสบาย เอารายได้มาจากไหน กับการใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่ละเดือน
พ.ต.ท.ทักษิณ : ผมมีทีมฟุตบอลของผม จำได้มั้ยครับ (จอม : ครับจำได้)
 
จอม : แต่เงินที่ได้มาก็โดนรัฐบาลอังกฤษยึดไปไม่ใช่หรือ
พ.ต.ท.ทักษิณ : ใครบอกครับ ผมไม่มีเงินฝากที่อังกฤษแม้แต่บาทเดียวครับ นี่ไงฮะ แม้แต่คุณจอมก็ยังเชื่อเขาเลย เพราะมันโกหกทุกวัน
 
จอม : ผมอยู่ในสื่อเมืองไทยครับท่าน ผมอยู่ประเทศไทยครับ ( หัวเราะ )
พ.ต.ท.ทักษิณ : คุณจำรองนายกฯ หน้าดำๆ ได้ไหม บอกว่า ผมขนเงินกลับมาเมืองไทย 1 หมื่นล้านบาท เพื่อมาเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนก่อนหน้านั้น สถานีโกหกรายวัน บอกว่า ผมขนเงินออกไปตอนไปประชุมนิวยอร์ค ก่อนปฎิวัติ ขนเงินไป 30 กระเป๋า อะไรอย่างนี้ ซึ่งเป็นเรือ่งการปล่อยข่าว และคนที่ใจไม่ชอบกันอยู่แล้วนี่ มันก็เชื่อเลย คนเหล่านี้ก็หลงเชื่อ
 
จอม : แล้วเอาเงินจากไหนมาใช้จ่ายตอนนี้ครับ
พ.ต.ท.ทักษิณ : เอ้า ก็ผมขออนุญาตแบงค์ชาติ เอาเงินไปซื้อทีมฟุตบอลจำได้ไหม แล้วผมก็ขายทีมฟุตบอล แล้วผมก็มีกำไรของผมไง
 
จอม : เงินที่ไปซื้อเหมืองเพชร เหมืองทอง อันนี้ก็มาจากการขายทีมฟุตบอลด้วยใช่ไหมครับ
พ.ต.ท.ทักษิณ : ใช่ครับ นี่เหมืองพวกนี้ไม่กี่ตังค์นะ คุณอย่าคิดว่าเหมืองมันแพงนะ ไม่กี่ตังค์ ไม่แพงหรอก ซึ่งก็แล้วแต่ว่า ซื้อแล้วมันแจ็คพอตไหม สมมุติไปซื้อเหมืองทอง มันอาจจะไม่ได้ทองก็ได้ แต่เราได้ศึกษาล่วงหน้าอย่างดี เช่น เหมืองทอง ถ้าขุดดินขึ้นมาแล้วมีทองอยู่ 2 กรัม ก็ถือว่าคุ้มทุนนะ เกินกว่า 2 กรัมก็ถือว่ากำไรนะ ก่อนที่ผมจะเลือกบล็อก ผมเห็นเหมืองข้างๆ ผม เขาขุดอยู่แล้ว เขาได้ทองวันหนึ่งถึง 25 กรัม และเราดูสายแร่ ดูแล้วสายแร่มาจากที่เรา ดังนั้นของเรา ขี้หมูขี้หมามันต้องมีทองแน่ เราไปเลือกเอาอย่างนี้ อย่างนี้เรียกว่า มีการศึกษา มีไหวมีพริบ  แล้วตอนนี้ต่างประเทศ คนมาเจ๊งกันเยอะ เนื่องจากแบงค์เขาไม่ปล่อยกู้ คนก็หยุดการลงทุนกันหมด ก็ไปหาช่องทางอื่นกัน
 
จอม : การเดินทางในต่างประเทศของท่าน เจ้าของประเทศไม่รู้สึกระอักกระอ่วนใจหรือครับ เพราะรัฐบาลไทยกำลังตามตัวท่านอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ : เขากระอักกระอ่วนกับรัฐบาลไทย เขาไม่กระอักกระอ่วนกับผม เขาว่าไปยุ่งกับเขาทำไม เขาบอกว่า เขามีอธิปไตยเหนือดินแดนของเขา ทำไมเราไปยุ่งกับเขา เขารับใคร ไม่รับใคร เป็นเรื่องของเขา แล้วเราเที่ยวทำจดหมายไปหาเขา เขาบอกว่า เขารำคาญ
 
เวลาผมจะเดินทางไปไหน ผมจะติดต่อประเทศนั้นก่อนว่า ผมจะไปนะ จะเป็นอะไรไหม นอกจากบางประเทศบอกว่า ไม่ mind มาคุยกันหน่อยสิ เขาก็ให้ผมไปพบ
 
จอม : มีบางประเทศไหมครับ ที่อาจจะบอกว่า ขอโทษ ที่ไม่อาจจะรับท่านได้
พ.ต.ท.ทักษิณ : มีฮะ บางประเทศเขาบอกว่า เขารำคาญรัฐบาลไทย เขาบอกว่า อย่าเพิ่งมาเลยตอนนี้ อย่าเพิ่งมาเลย เขาขี้เกียจทะเลาะกับรัฐบาลไทย เอาไว้เงียบ ๆ อีกหน่อยแล้วค่อยมา ก็มีฮะ
 
จอม : แต่อาจจะมีบางประเทศที่บอกว่า ท่านไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของศาลประเทศไทย
พ.ต.ท.ทักษิณ : ไม่มีประเทศใดคิดเช่นนั้น เพราะเขารู้ เขาอ่านคำพิพากษา เขาก็ตลกกันหมดแล้ว การซื้อขายไม่ผิด คนซื้อไม่ผิด คนขายไม่ผิด แต่สามีคนซื้ออนุญาตให้ใช้บัตรประชาชนไปรับโอนนิติกรรม ผิด จำคุก 2 ปี แต่บุกรุกป่าสงวน ไม่เป็นไร อะไรอย่างนี้ เขารู้ครับว่า การเมืองเมืองไทยนั้นกำลังเป็นการเมืองขจัดฝ่ายอยู่
 
จอม : นอกจากมีเหมืองเพชร เหมืองทองแล้ว ท่านยังมีอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ อีกหรือไม่ เห็นว่ามีเครื่องบินส่วนตัว มีบอดี้การ์ดชั้นเยี่ยมในการดูแลความปลอดภัยของท่าน
พ.ต.ท.ทักษิณ : ไม่มี อันนี้ก็ตลกอีกแหละ ผมไม่มีบอดี้การ์ดชั้นเยี่ยมจากที่ไหนหรอก ผมไม่กลัวอยู่แล้ว ผมเป็นคนที่คิดว่า เกิดมาหนเดียวตายหนเดียว และผมคิดว่า พระเจ้ายังไม่เอาผมไปหรอก ผมโดนกี่รอบแล้วตอนเป็นนายกฯ ยังไม่เป็นไรเลย
 
จอม : ท่านเคยบอกว่า ท่านจะตายไม่ได้ จนกว่าจะค้นพบความยุติธรรมบนโลกใบนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ : ใช่ครับ
 
จอม : ถ้ามองเมืองไทยตอนนี้ ก่อนที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาอะไรก็ตาม สังคมไทยอยากเห็นการร่วมมือกัน การประนีประนอม การพูดจากัน การสร้างความสมานฉันท์ ผมขอกลับมาถามคำถามเดิมอีก
พ.ต.ท.ทักษิณ : คุณจอม ประกาศไปแรง ๆ เลยนะ ว่าผมพร้อมเจรจากับทุกคน ก็คนอย่างคุณจอม ยังติดต่อผมได้เลย แล้วทำไมคนที่มีอำนาจในประเทศไทยจะติดต่อผมไม่ได้ เป็นไปได้อย่างไร

 

วันนี้ ผมจะบอกให้นะคุณจอม แม้กระทั่งคนขับแท็กซี่ ยังมีเบอร์โทรศัพท์ผมเลย เบอร์โทรศัพท์ผม ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ยังโทรมาหาผม เพราะฉะนั้น มีคนที่ไม่มีโทรศัพท์ผม ก็คงเป็นคนในทำเนียบรัฐบาลนั่นแหละ นอกนั้นมีหมดเลย ดังนั้นผมไม่ใช่คนที่ติดต่อยากอะไรที่ไหนเลย คุณจอมประกาศไปดังๆ เลยนะ ขนาดผมโทรคุยกับแท็กซี่ยังคุยเลย ตำรวจชั้นผู้น้อยก็ยังคุย แม่ค้าขายข้าวหมาก ผมก็ยังคุยเลย เพราะฉะนั้น ทำไมผมจะไม่คุยกับคนที่เป็นระดับนายกรัฐมนตรีก็ดี หรือรองนายกรัฐมนตรีก็ดี ถึงแม้จะหน้าดำหน่อย ผมก็คุยได้
 
จอม : เอาเป็นว่า ผมสมมติเอาว่า นายกฯ อภิสิทธิ์ โทรมาหาท่าน บอกว่า ท่านครับขอหยุด เรามาร่วมกันสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในประเทศเราได้หรือเปล่า สิ่งที่ท่านจะตอบกับท่านอภิสิทธิ์ และเงื่อนไขที่ท่านจะบอกกับท่านอภิสิทธิ์คืออะไร
พ.ต.ท.ทักษิณ : ก็ยังไงละ บอกผมมาสิ
 
จอม : ก็เนี่ยไงฮะ
พ.ต.ท.ทักษิณ : หมายถึง เราจะร่วมมือกันอย่างไร
 
จอม : ครับ เราจะร่วมมือกันอย่างไร เพื่อให้บ้านเมืองสมานฉันท์ เสื้อแดง เสื้อเหลืองทำให้เป็นสีเดียวกัน
พ.ต.ท.ทักษิณ : ผมยินดีเลย จะให้ผมทำอะไรบ้าง บอกมาสิ และรัฐบาลจะทำอย่างไร เพื่อให้เกิดความปรองดอง ไม่ใช่ให้เกิดความปรองดองข้างเดียว ไม่ใช่ปล้นทรัพย์มา แล้วพอเจ้าทรัพย์มาทวงก็บอกว่า เฮ้ย! เจ้าทรัพย์ไปไกลๆ อย่างเพิ่ง เดี่ยวผมกินก่วยเตี๋ยวก่อน ถ้าบอกว่า เอาละ เราจะคุยกันอย่างไรที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม เราจะกำหนดความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างไร
 
จอม : ถ้าท่านอภิสิทธิ์บอกว่า ท่านกลับมา แล้วมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย  จากนั้นเรามาหาทางสมานฉันท์
พ.ต.ท.ทักษิณ : แล้ววันนี้ กระบวนการยุติธรรมมันยุติธรรมหรือเปล่าละ ผมคิดว่าผู้พิพากษาส่วนใหญ่ยุติธรรม เป็นคนดี แต่บางคนก็รับคำสั่ง โดยเฉพาะศาลตอนนี้อึดอัดกันมาก
 
จอม : ในทางกลับกัน ถ้าท่านอภิสิทธิ์บอกว่า ท่านคิดว่ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรมตรงไหน แล้วเรามาแก้ร่วมกันอย่างนี้โอเคไหมครับ
พ.ต.ท.ทักษิณ : ( หัวเราะ) คุณอภิสิทธิ์ ไม่อยู่ในฐานะที่แก้ได้
 
จอม : แต่ท่าน (อภิสิทธิ์) เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
พ.ต.ท.ทักษิณ : วันนี้ ถ้าจะแก้กัน ไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายเดียวครับ เพราะศาลเขามีความเป็นอิสระของเขา แต่วันนี้คนที่มีอำนาจเหนือกว่าศาล เข้าไปแทรกแซง ตรงนี้ต่างหากที่เป็นปัญหา ถ้าอำนาจอธิปไตยมีระบบที่เรียกว่า check and balance มีความสมดุล มีการถ่วงดุลกันเอง ผมคิดว่าบ้านเมืองมันไปได้ครับ ความจริงระบบเดิมมันดีอยู่แล้ว มันมาป่วนตรงที่จะล้มผมนี่แหละ จะล้มผมแล้วไปใช้เครื่องมือทางศาล ใช้เครื่องมือทางด้านทหาร เขาอยากจะล้มผม เพราะล้มผมโดยตรงไม่ได้ เพราะเลือกตั้งทีไรก็ชนะ แต่ก็อยากจะล้ม โดยยอมให้ระบบเสียหายเพื่อที่จะล้มผม
 
ความจริงวันนั้นถ้าพูดกับผมดีๆ บอกผมว่า เออ ไม่ไหวโว้ย ชนะบ่อยแล้ว ขอให้เลิกเถอะ ผมก็เลิก เฮ้ย! ชนะบ่อยแล้ว ปล่อยให้คนอื่นชิงบ้าง ให้เลิกไปแขวนนวมเสีย ผมก็แขวน ผมไม่ได้บ้าอยากอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่า ผมอยากทำภารกิจตอนนั้นให้เสร็จ ผมกะว่าครบสองเทอม ผมจะแก้ปัญหาความยากจนไปให้ได้ เมื่อแก้ได้ ผมก็โอเค ผมมี legendary (เป้าหมาย) ในชีวิตของผม ผมก็พอแล้ว ผมอยากทำงานให้บ้านเมืองแค่นั้นแหละ จบ นี่วันนี้นะ ผมไม่เป็นนายกฯ ถึงแม้ผมอยู่เมืองนอก แต่ผมเชื่อว่าความเครียดของผมน้อยกว่าคุณอภิสิทธิ์นะ หน้าผมใสเลยนะตอนนี้ ขนาดปล่อยข่าวว่าผมเป็นมะเร็ง ทำคีโมทุกวัน แต่ ทำไมผมดกดำอย่างนี้
 
จอม : ขอบพระคุณท่านมากที่พูดคุยนะครับ ขอให้ปลอดภัยครับ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท