Skip to main content
sharethis

จากกรณีอุปกรณ์ที่อ้างว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ใช้งานโดยเสียบกับช่องจุดบุหรี่ ที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยต่อคุณสมบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการทำงานที่เหลือเชื่อ จนเกิดการตอบโต้และท้าทายให้พิสูจน์จากฝ่ายเจ้าของสินค้ายี่ห้อ 'NP Faster' ก่อนสมาชิกโต๊ะหว้ากอ กระดานข่าวพันทิปนำมาผ่าพิสูจน์ดูส่วนประกอบภายใน ซึ่งพบเพียงวงจรต่อหลอดไฟแบบง่ายๆ ทำให้นักวิชาการ ม.ราชมงคลล้านนา ผู้ทดสอบและรับรองอุปกรณ์ดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงผ่านสื่อมวลชน ก่อนจะมีการออกมาเปิดเผยว่า ทางผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับวศิน สุทธิสันธิ์ นักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) หนึ่งในผู้ร่วมการผ่าพิสูจน์ ฐานหมิ่นประมาท ตามที่มีรายงานข่าวไปก่อนหน้าแล้วนั้น

 
ล่าสุด ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญและนักทดสอบรถยนต์ชื่อดัง ได้เดินทางไปพบกับนักศึกษา มช.และผู้ผ่าพิสูจน์อุปกรณ์ดังกล่าว ที่ จ.เชียงใหม่แล้ว ก่อนจะออกมาระบุว่าหากมีการดำเนินคดีจริง จะเป็นผู้ประกันตัวนักศึกษาคนดังกล่าวเอง พร้อมทั้งเปิดเผยว่า กำลังเตรียมการทดสอบอุปกรณ์นี้ด้วยการใช้งานจริงตามที่ผู้ผลิตระบุ แต่จะทำให้มีมาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลการทดสอบที่เชื่อถือได้
 
ทางด้านผู้ใช้และสมาชิกโต๊ะหว้ากอได้ยื่นจดหมายเปิดผนึก พร้อมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับกรณีนี้แก่สื่อมวลชนแล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 52 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุด ได้รับการติดต่อกลับจากประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ว่า มีความสนใจกรณีนี้ และทางทีวีไทยกำลังเตรียมทำสกู๊ปข่าว โดยได้ติดต่อไปยังหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับยานยนต์และ ปตท.เรียบร้อยแล้ว

 
'ธเนศร์' เผย จับเมื่อไหร่ประกันตัวให้เอง
ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญและนักทดสอบรถยนต์ชื่อดัง เปิดเผยผ่านคอลัมน์ 'เก็บตกเทคโนโลยี' หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 ก.ย. 52 ว่า ตามที่เกิดข้อกังขาและขัดแย้งเกี่ยวกับสินค้าที่อ้างว่าช่วยให้รถประหยัดน้ำมันยี่ห้อหนึ่ง จนผู้ผลิตและจำหน่ายเตรียมจะฟ้องร้องนักศึกษาคนหนึ่งที่ร่วมการผ่าพิสูจน์และวิพากษ์วิจารณ์สินค้านั้น เขาในฐานะนักทดสอบรถยนต์คนหนึ่งของเมืองไทย จะทำการพิสูจน์อุปกรณ์ตัวนี้ และเนื่องจากทางผู้ผลิตและจำหน่ายอ้างว่า จะต้องทดสอบ "ด้วยการใช้งานจริงกับรถยนต์จริงเท่านั้น จึงจะเห็นผล" เขาก็จะทดสอบวิธีการดังกล่าว
 
นอกจากนี้ นักทดสอบรถยนต์ชื่อดังยังระบุด้วยว่า หากมีการดำเนินคดีกับนักศึกษาคนดังกล่าวจริง จะเป็นผู้ประกันตัวนักศึกษาคนนั้นออกมาเอง ด้วยทุนทรัพย์ของตนเอง โดยตำรวจที่เป็นผู้ดำเนินคดีจะต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ ว่านักศึกษาคนดังกล่าวทำอะไรผิดในสายตาและสายงานของตำรวจ
 
"รวมทั้งสู้คดีให้เป็นที่สนุกสนานกันไป จากนั้นก็ฟ้องกลับ เรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับท่านนักศึกษาของผม"
 
 
ขึ้นเชียงใหม่ให้กำลังใจ มอบเงิน - แนะนำทนาย
เมื่อวันที่ 4-7 ก.ย. 52 สมาชิกนามแฝง 'xebec' ซึ่งเป็นชื่อล็อกอินในกระดานข่าวพันทิปของธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญและนักทดสอบรถยนต์ชื่อดัง ได้เปิดเผยผ่านกระทู้ในโต๊ะ blue planet กระดานข่าวพันทิปว่า ได้เดินทางไปพบกับนักศึกษา มช.คนดังกล่าว รวมทั้ง 'ปลากวน' ผู้ลงมือผ่าพิสูจน์อุปกรณ์ NP Faster ที่จ.เชียงใหม่แล้ว โดยได้ให้กำลังใจและสอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยได้มอบเงินส่วนตัวจำนวน 1 หมื่นบาทแก่นักศึกษาผู้นี้ เพื่อเป็นกำลังใจ ตามที่ได้ระบุไปก่อนหน้า นอกจากนี้ตนยังได้แนะนำให้รู้จักกับทนายความที่เชี่ยวชาญในคดีลักษณะนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
 
ทดสอบใช้จริง พร้อมวัดผลอย่างมีมาตรฐาน
จากนั้น นักทดสอบรถยนต์ชื่อดังได้เปิดเผยว่า ในการทดสอบอุปกรณ์ดังกล่าว จะใช้รถยนต์ฟอร์ด เอสเคป ซึ่งใช้ทั้งก๊าซ LPG และน้ำมันออกเทน 95 กับรถยนต์มาสด้า MX-5 ซึ่งใช้น้ำมันออกเทน 91 โดยขับ เพื่อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ที่ว่านี้จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้จริงหรือไม่ แต่ทั้งนี้ จะไม่ใช้วิธีทดสอบแบบทั่วๆ ไป คือเติมน้ำมันเต็ม-วิ่งทดสอบ-เติมน้ำมันอีกครั้ง เพื่อวัดน้ำมันที่เสียไป เนื่องจากต้องการทดสอบอย่างมีมาตรฐานมากกว่านั้น "โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ที่อ้างว่าประหยัดเชื้อเพลิง และมีคนระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์เป็นผู้รับรองมั่นคง"
 
โดยตนจะใช้อุปกรณ์ทดสอบแบบ Data Logger ซึ่งจะทำหน้าที่วัดและบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในระบบเครื่องยนต์ของรถยนต์เอาไว้ 16 รายการ ตามการเลือกของผู้ใช้จาก 200 กว่ารายการ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการเลือกได้แก่ พวกอุณหภูมิน้ำมัน อุณหภูมิไอเสีย อัตราความสิ้นเปลืองเฉลี่ย และอัตราสิ้นเปลืองในแต่ละช่วง (วินาทีหรือนาที) อัตราเร่ง ความเร็วสูงสุด ระยะทาง และอุณหภูมิภายนอกของเครื่องยนต์ รวมทั้งสามารถบันทึกแผนที่ GPS เอาไว้เปรียบเทียบกับข้อมูลจาก Google ได้อีกด้วย ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะมากสำหรับการทดสอบเช่นนี้ และไม่ต้องเปลี่ยนเชื้อเพลิงไปมา เพียงแค่ดึงตัวอุปกรณ์ออกและเสียบเข้าไปใหม่เท่านั้น ส่วนการวัดผลก็สามารถวัดต่อเนื่องไปได้ตลอด ซึ่งจะได้ผลจะออกมาชัดเจนเองว่า เมื่อใส่อุปกรณ์เข้าไปแล้วอัตราสิ้นเปลืองจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ในขณะที่สิ่งแวดล้อมยังคงเดิม เพราะมีบันทึกเอาไว้ตลอดเวลาเช่นกัน
 
โดยล่าสุด เขาได้สั่งซื้อ Data Logger ชุดใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ยี่ห้อ Auterra โมเดล 501 ชื่อรุ่น Dash Dyno Pro Pack มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และระบุให้จัดส่งด่วน
 
 
เชื่อมั่น ได้ผลแม่นยำ
นักทดสอบรถยนต์ชื่อดังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับตัวแปรด้านทิศทางลมและเส้นทางก็หมดปัญหา เพราะจะใช้เส้นทางเดียวในการทดสอบ นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับการวางน้ำหนักเท้าของผู้ขับขี่ ซึ่งเขาไม่รู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ เพราะจากที่เคยทดสอบมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งหนึ่งที่สนามทดสอบรถยนต์ของอีซูซุ ได้เคยทำให้วิศวกรของอีซูซุงุนงงมาแล้ว ด้วยการสามารถรักษารอบเครื่องยนต์ของรถทดสอบเอาไว้ได้คงที่ ตลอดระยะทางรอบสนามที่เกินกว่าห้ากิโลเมตร และไม่ใช่รอบเดียว ซึ่งในครั้งนั้น ทั้งวิศวกรญี่ปุ่นและวิศวกรไทยที่นั่งไปด้วยสองท่าน ต่างก็แสดงความประหลาดใจว่าทำได้อย่างไร

เขาจึงเชื่อมั่นว่า ด้วยมาตรฐานของเครื่องวัดและความแม่นยำในการควบคุมรถของตน น่าจะทำให้การทดสอบที่จะมีขึ้นนี้ ได้ผลการทดสอบที่แม่นยำออกมา


'หว้ากอ' ยื่นจดหมายแล้ว 'ประวีณมัย' เผยเตรียมทำสกู๊ปข่าว
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 5 ก.ย. 52 ที่ผ่านมา สมโภชน์ ลักษณะนิยม ตัวแทนโต๊ะหว้ากอ กระดานข่าวพันทิปพร้อมด้วยสมาชิกโต๊ะหว้ากออีกคนหนึ่ง ได้เดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยประชาสัมพันธ์ของสถานีได้เป็นผู้รับเรื่องไว้
 
ต่อมาในวันเดียวกัน สมโภชน์ได้เปิดเผยผ่านกระทู้ในโต๊ะหว้ากอว่า ได้รับการติดต่อจากประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ว่ามีความสนใจกรณีนี้ และทางทีวีไทยกำลังเตรียมทำสกู๊ปข่าว โดยได้ติดต่อไปยังหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับยานยนต์และปตท.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นถ่ายทำได้ในวันที่ 7 ก.ย. 52 นี้
 
 
ล่ารายชื่อคึกคัก เกิน 400 แล้วยังไม่ขาดสาย
นอกจากนี้ยังได้มีการรวบรวมรายชื่อของสมาชิกและผู้ใช้กระดานข่าวพันทิปที่สนับสนุนจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว โดยล่าสุดรวบรวมได้มากกว่า 400 'ชื่อล็อกอิน' แล้ว ขณะที่ยังมีผู้เข้าไปโพสต์ร่วมลงนามอย่างไม่ขาดสาย โดยผู้ร่วมลงชื่อกว่า 90% เป็น 'สมาชิกถาวร' ของกระดานข่าวดังกล่าว ซึ่งสมัครโดยใช้สำเนาบัตรประชาชน ทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ รองลงมาคือ 'สมาชิกแบบโทรศัพท์' ซึ่งสมัครด้วยการยืนยันผ่านหมายเลขโทรศัพท์ และอันดับต่อมาคือผู้ใช้บัตรผ่านที่สมัครด้วยอีเมล
 
ทั้งนี้ สมาชิกคนหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตถึงการลงนามโดยใช้ 'ชื่อล็อกอิน' ในครั้งนี้ว่า มีความน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาหากมีการรวบรวมชื่อ-นามสกุลจริงผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อเคลื่อนไหวทางสังคม มักจะถูกผู้ที่ไม่เห็นด้วยแสดงความกังขาว่า เป็นการลงนามโดยเจ้าของชื่อ-นามสกุลนั้นทั้งหมดหรือไม่ มีการแอบอ้างบางชื่อมาหรือไม่
 
แต่การลงนามด้วย 'ชื่อล็อกอิน' ที่สามารถระบุตัวบุคคลจริงได้เช่นนี้ นอกจากสะดวกแล้ว การที่ต้องใช้รหัสผ่านล็อกอินเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะโพสต์ข้อความได้ ยังช่วยตัดข้อกังขาและปัญหาการแอบอ้างหรือสวมรอยได้ในระดับหนึ่ง เช่นเดียวกับเข้าใช้อีเมล แต่รัดกุมและเชื่อถือได้มากกว่า เพราะการสมัครอีเมลนั้นไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net