Skip to main content
sharethis

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เยี่ยมสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน หวังเปิดช่องทางลดความหวาดระแวงในพื้นที่ ด้านผู้อำนวยการสถานีชี้สิ่งที่ยังขาดคือความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง โดยเฉพาะด้านข้อมูลข่าวสาร

16 เมษายน 2557 เวลา 10.00 น. พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล สำนักมวลชนและกิจการพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน (Media Selatan) ณ สำนักงานที่ ถ.ยะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยมีนายแวหามะ แวกือจิก ผู้อำนวยการสถานี เจ้าหน้าที่และภาคีเครือข่ายให้การต้อนรับ การพบปะใช้เวลา 45 นาที

พ.อ.เฉลิมชัย กล่าวระหว่างการพูดคุยกันกับเจ้าหน้าที่สถานีว่าต้องการทำความรู้จักมีเดียสลาตันซึ่งเป็นสื่อที่ทำงานในพื้นที่และทำงานกับประชาชน เฉพาะในเรื่องการสร้างสันติภาพ สันติสุข ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และว่า การเยี่ยมเยียนหนนี้เป็นดำริของแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ พล.ท.วลิต โรจนภักดี ที่ต้องการให้ไปพบปะกับสื่อโดยเฉพาะสถานีวิทยุ และจะนำสิ่งที่ได้จากพูดคุยไปรายงานให้แม่ทัพรับทราบในคืนนี้

พ.อ.เฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. มีความประสงค์ที่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปจัดรายการส่งเสริมสุขภาพเพื่อออกอากาศทางสถานีวิทยุมีเดียสลาตันด้วย โดยจะให้เจ้าหน้าที่จากกรมแพทย์ทหารบกเป็นผู้จัด จะให้ออกอากาศทุกๆวันจันทร์ เวลา 15.00-16.00 น. “ความประสงค์ของเจ้าหน้าที่อีกประการหนึ่งคือการส่งเสริมการมีส่วนรวมของประชาชน โดยเฉพาะการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งสถานีวิทยุเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถลดความหวาดระแวงของคนในพื้นที่ จึงเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับสถานีวิทยุในพื้นที่”

พ.อ.เฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า การทำงานของมีเดียสลาตันในอันที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เป็นวัตถุประสงค์เดียวกันกับของเจ้าหน้าที่ เป็นสิ่งที่จะส่งผลให้สันติภาพ สันติสุขในพื้นที่

ด้านนายแวหามะ แวกือจิ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมีเดียสลาตัน กล่าวว่า สิ่งที่สถานีวิทยุมีเดียสลาตันยังขาดและจำเป็นที่จะต้องเติมเต็ม ก็คือ ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง โดยเฉพาะด้านข้อมูลข่าวสาร สิ่งที่ทางสถานีอยากเห็นมากที่สุด คือการที่เจ้าหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 4 หรือกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าให้สัมภาษณ์ออกอากาศในรายการของสถานีในจังหวะและเวลาที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องต้องนำเสนอ เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ พร้อมแสดงความคาดหวังว่า ทางสถานีวิทยุมีเดียสลาตันจะได้มีโอกาสสัมภาษณ์แม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายอื่นๆ ในโอกาสต่างๆต่อไป ดังที่สถานีได้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆของรัฐบาลมาหลายรายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือศอ.บต. และอื่นๆ เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ฟังรายการอย่างครบถ้วน และสร้างความเข้าใจอันดีได้ เนื่องจากวิทยุมีเดียสลาตันต้องการเป็นคนกลางในพื้นที่ของความขัดแย้ง

นายแวหามะกล่าวภายหลังด้วยว่า การเปิดพื้นที่ให้กับการสื่อสารของทางราชการ เป็นเรื่องที่มีเดียสลาตันต้องการดำเนินการมานานแล้ว แต่ในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน การนำเสนอต้องดำเนินการภายใต้กรอบที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับสาร และรูปแบบต้องสอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของสถานี ซึ่งตนก็มีความเชื่อว่า เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่เข้าใจและจะสนับสนุนสถานีมีเดียสลาตันเพราะนั่นคือหนทางในการสร้างความเข้าใจและแก้ปัญหาที่จะยั่งยืน

 

แม่ทัพคนใหม่พบผู้นำอิสลามนราถกหาทางดับไฟใต้

วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะได้เข้าพบปะกับนายซาฟาอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส พร้อมด้วยตัวแทนผู้นำศาสนาอิสลามอีก 10 คน เพื่อรับทราบปัญหาและความต้องการจากผู้นำศาสนาอิสลามในพื้นที่ เพื่อนำไปแก้ปัญหาความไม่สงบ

นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำนราธิวาส กล่าวในที่ประชุมว่า ทุกคนยึดหลักกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ดังนั้น ผู้ที่มารับตำแหน่งและรับผิดชอบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องเข้าใจปัญหาของคนในพื้นที่ด้วยความจริงใจ และอย่าสร้างเงื่อนไข จึงจะแก้ปัญหาให้พื้นที่เกิดความสันติสุขได้ และการใช้กำลังรบในการปราบปรามคนร้ายอาจไม่เพียงพอ ต้องใช้ความดีและให้โอกาสควบคู่กันด้วย

นายซาฟีอี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังพบว่าปัญหายาเสพติดแพร่หลายในทุกพื้นที่ ทางผู้นำศาสนาหลายคนได้ลงทำงานในโครงการสร้างสันติสุข เพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนและประชาชน แต่ผู้นำบางคนถูกยิงเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงอยากให้แม่ทัพภาค 4 เข้มงวด และให้ความคุ้มครองผู้นำศาสนาในการลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย เพราะหากผู้นำเสียชีวิตบ่อยครั้ง จะทำให้เกิดความหวาดผวา และไม่มีใครกล้าเสียสละลงทำงานในพื้นที่อีก พร้อมกับย้ำว่า ยาเสพติดเป็นตัวอันตรายที่ทำให้เยาวชน และประชาชนตกเป็นทาส และจะนำพาให้คนตกเป็นเครื่องมือให้แก่กลุ่มผู้ไม่หวังดี และอาจจะนำไปสู่ปัญหาเหตุความรุนแรงในพื้นที่ได้

ด้าน พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวกับผู้นำศาสนาอิสลามในที่ประชุมว่า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ลำพังกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย คือ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง คงไม่สามารถทำให้เกิดความสงบสันติสุขได้ ต้องให้ทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน และการรับฟังปัญหาจากผู้นำศาสนาอิสลามสูงสุดในพื้นที่ จ.นราธิวาสนั้น เชื่อว่าผู้นำศาสนาทุกคนพร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อร่วมสร้างสันติสุข ส่วนปัญหาที่ทางผู้นำศาสนาเสนอมา ทางกองทัพพร้อมที่จะน้อมรับและจะนำไปแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net