เผยคลังเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า 2 หมื่นล้าน ชี้การเมืองที่ยืดเยื้อส่งผลเศรษฐกิจอ่อนแอ ระบุต่ออายุ พรฎ.ปรับลดอัตราภาษี VAT เพื่อให้คงไว้ที่ 7% ต้องพิจารณารอบคอบ ก่อนนำเสนอต่อ กกต.เพื่อพิจารณาอนุมัติ

23 เม.ย. 2557 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘กิตติรัตน์ ณ ระนอง’ ระบุถึงการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับผลการจัดเก็บรายได้และการเบิกจ่ายของรัฐบาล ในวันนี้ว่ากระทรวงการคลังได้รายงานผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ต.ค. 56 - มี.ค. 57 ) ได้ 935,921 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายกว่า 20,828 ล้านบาท

นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า ตนเองและคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีความเป็นห่วงใยต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยจากการจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าเป้าดังกล่าว สะท้อนถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อซึ่งได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในการจับจ่ายใช้สอย ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในการลงทุน และความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อีกทั้งแนวโน้มการเบิกจ่ายงบลงทุนที่อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายจะเป็นข้อจำกัดในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ดังเห็นได้จากการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐใน 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 ที่สามารถดำเนินได้ตามเป้า แต่ก็ไม่สามารถส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ในระดับเทียบเท่าปกติได้

เมื่อมองไปข้างหน้า การเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะงบลงทุนจะยิ่งมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น ทั้งจากข้อจำกัดสำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐภายใต้กรอบงบประมาณ 2557 ที่ผ่านสภาแล้ว และงบลงทุนใหม่ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐวิสาหกิจสำหรับงบประมาณปี 2558 ที่ไม่สามารถดำเนินได้ภายใต้คณะรัฐมนตรีรักษาการ ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไปหากสถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นเช่นนี้ยังน่าเป็นห่วงยิ่งขึ้น

นายกิตติรัตน์ กล่าวถึงเรื่องของอัตราภาษี VAT ว่า ปัจจุบันได้มี พรฎ.ปรับลดอัตราภาษี VAT ประกาศใช้ทุก 2 ปี และ พรฎ.ปรับลดอัตราภาษี VAT ฉบับปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันที่ 30 ก.ย. อันจะทำให้อัตราภาษี VAT เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 นั้น คณะรัฐมนตรีจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อต่ออายุ พรฎ. ดังกล่าวเพื่อให้คงอัตราภาษี VAT ในอัตราร้อยละ 7 ไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ก่อนนำเสนอต่อ กกต.เพื่อพิจารณาอนุมัติ

นายกิตติรัตน์ ระบุว่าหากสามารถจัดการเลือกตั้งได้โดยเร็วและเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย เศรษฐกิจไทยก็น่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวตามปกติได้ เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี และยังมีหลากหลายโครงการลงทุนของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลชุดใหม่สามารถดำเนินการได้