ขอร้องอย่า! ปลุกระดมมาสู้กัน ประยุทธ์ย้ำคดีธัมมชโย ให้เป็นไปตามกฎหมาย

26 พ.ค. 2559 จากกรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ทีมทนายความของพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายจับพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร พร้อมกับขอให้ศาลไต่สวนข้อเท็จจริง ตามที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่อมา 24 พ.ค.59 ศาลอาญาได้พิเคราะห์คำร้องและเอกสารขอเพิกถอนหมายจับของทนายความพระธัมมชโยแล้ว เห็นว่า ศาลอาญาพิจารณาอนุมัติหมายจับโดยชอบตามกฎหมายแล้ว จึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม เห็นควรให้ยกคำร้อง ทั้งนี้ ทนายความของพระธัมมชโย ยังสามารถยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายจับของศาลอาญาไปยังศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งเพิกถอนต่อไปได้ภายใน 30 วัน ตามกฎหมาย

ประยุทธ์ย้ำคดี พระธัมมชโย ให้เป็นไปตามกฎหมาย

วานนี้ (25 พ.ค.59) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณี ดีเอสไอ ให้เวลาพระธัมมชโย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ภายในวันที่ 26 พ.ค. ว่า ตนจะไม่ขอรบกับพระ เพราะเป็นพุทธศาสนิกชน แต่ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย และทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย พระก็คงเหมือนกับทหารที่ต้องมีกฎ ทั้งกฎหมายและวินัยสงฆ์ด้วย วันนี้อย่าให้ตนต้องบอกว่าจะให้ทำอย่างไร เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีวิธิการที่จะดำเนินการอยู่แล้ว ขออย่าทำให้เกิดความแตกแยก ซึ่งใครจะนำเรื่องนี้มาก่อให้เกิดความแตกแยกก็ให้คิดดู พร้อมกับขอร้องว่าอย่าปลุกระดมให้คนออกมาสู้กัน

ดีเอสไอ ตีหลักประกัน 5 ล้าน

ขณะที่วันเดียวกัน (25 พ.ค.59) สัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้น สัมพันธ์ เปิดเผยว่าเป็นการเข้าพบเพื่อสอบถามถึงหลักประกัน หากพระธัมมชโย ที่ถูกศาลอาญาออกหมายจับให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนตีหลักทรัพย์ประกันตัว 5 ล้านบาท

สัมพันธ์ ยืนยันว่ามีการหารือเพียงประเด็นเดียวแต่ที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เพราะคุยเรื่องสัพเพเหระ ส่วนพระธัมมชโยจะเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) ตามกำหนดของดีเอสไอหรือไม่ ยังตอบไม่ได้เพราะทำหน้าที่เพียงฝ่ายกฎหมายก็มีหน้าที่สอบถามเพื่อเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง จากนี้จะนำข้อมูลที่ได้ไปอธิบายให้คำแนะนำกับพระว่าใช้หลักทรัพย์ประกัน5 ล้านบาท และอธิบายถึงขั้นตอนต่างๆโดยทนายความไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจและไม่ขอแนะนำว่าควรจะเข้ามอบตัวหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ว่าใครเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องการมอบตัว แต่เคยให้ข้อมูลกับพระแล้วว่าหากถูกจับกุมจะต้องไปประกันตัวที่ศาล จะยุ่งยากกว่า

สัมพันธ์ กล่าวว่ายังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าพระจะตัดสินใจอย่างไร พรุ่งนี้คงมีการประสานอีกครั้ง ส่วนกรณีที่โฆษกวัดพระธรรมกายออกมาระบุจะไม่เข้ามอบตัวโดยเด็ดขาด ยืนยันจะให้ดีเอสไอเข้าแจ้งข้อกล่าวหาที่วัด นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นบทบาทของโฆษกวัด ฝ่ายกฎหมายไม่เกี่ยวข้อง เมื่อถามว่าหากจะเดินทางเข้ามอบตัวจะมาในลักษณะใด สัมพันธ์ พร้อมทีมทนาย กล่าวว่า ไม่ตอบแล้ว ไม่รู้

ทางด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ได้แจ้งถึงหลักประกันกับทนายความวัดพระธรรมกายว่าตีไว้ที่ 5 ล้านบาท โดยเป็นการพิจารณามูลค่าตามความหนักเบาของโทษ และมูลค่าความเสียหาย ส่วนการจะเข้ามอบตัวหรือไม่ ยังไม่ขอตอบวันนี้ 26 พ.ค.นี้ คงมีความชัดเจน

ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ยังไม่มีการเตรียมสถานที่แจ้งข้อกล่าวหากับพระธัมมชโย ส่วนการเข้ามอบตัวหรือไม่ต้องรอการประสาน 26 พ.ค.นี้

ยัน DSI ไม่บุกจับในวัดแน่นอน

โดยวันนี้ (26 พ.ค.59) พ.ต.ท.สมบูรณ์ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หากกรณีที่ พระธัมมชโย ไม่มามอบตัวในวันนี้ ทางคณะพนักงานสอบสวน จะได้ทำการประชุมอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ค. เพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการในคดีนี้ต่อไป และยืนยันว่า ในระหว่างนี้ทางดีเอสไอ จะไม่มีการบุกเข้าไปจับกุมภายในวัดพระธรรมกาย แน่นอน

แพทยสภา รับตรวจสอบอาการอาพาธ

นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า กรณีคณะแพทย์รักษาพระธัมมชโยร้องขอแพทย์ส่วนกลาง ตรวจอาการอาพาธพระธัมมชโย ว่าความจริงเรื่องคดีความไม่ใช่หน้าที่ของแพทยสภา แต่เมื่อมีการร้องขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางด้านการแพทย์ ก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาประมาณสัปดาห์หน้า และส่งต่อให้ราชวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบ ทั้งนี้ไม่ได้กังวลว่าจะมีการใช้ช่องว่างในการใช้เวลานานในการตรวจสอบ

ที่มา เรียกบเรียงจาก สำนักข่าวไทย และสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.

ข่าว