Skip to main content
sharethis

สุเทพ เทือกสุบรรณ หนุนรัฐบาลเดินหน้าปรองดอง แต่ไม่ยอมเซ็น MOU ชี้ไม่ใช่การปรองดองที่แท้จริง ย้ำไม่เอานิรโทษกรรมคดี 112 คอร์รัปชั่น และความผิดทางอาญา ด้านณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อัด อย่าคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง ยัน นปช. พร้อมเข้าร่วม

แฟ้มภาพ

17 ม.ค. 2560 สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ระบุถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมตั้งคณะกรรมการเตรียมสร้างความสามัคคีปรองดอง โดยให้พรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงกลุ่มที่เห็นด้วยและเห็นแย้งกับรัฐบาลมาร่วมแสดงความคิดเห็นหาทางออกเพื่อความปรองดองของประเทศ และการเซ็น MOU ร่วมกันนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ขอสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาล ทั้งในด้านของยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เพราะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีการปฏิรูปไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อให้เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ในด้านของการตั้งคณะกรรมการปรองดองนั้นมีหัวใจหลักใน 3 ด้าน คือ เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศไทย และการปรองดอง ทั้งนี้ในส่วนของการสร้างความปรองดองนั้น ยังมีความกังวล

สุเทพกล่าวต่อว่า หัวใจหลักที่สำคัญของการปรองดองคือ จะต้องรณรงค์ให้ประชาชนทั้งประเทศไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนจะต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง และจะต้องปฏิบัติอยู่ในกรอบของกฎหมาย และหวังว่าการปรองดองนั้นจะทำให้ทุกอย่างสงบสุข เรียบร้อยประเทศเจริญก้าวหน้า เดินไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ในส่วนของการจับมือเซ็น MOU ร่วมกันนั้น ตนเห็นว่าคงไม่ใช่วิธีที่จะสร้างความปรองดองได้ เพราะความปรองดองจะเกิดขึ้นได้นั้นประชาชนทุกคนในชาติต้องสามัคคีกัน พร้อมทั้งตนไม่เห็นด้วยหากจะมีการนิรโทษกรรมที่อ้างความปรองดอง หรือ การออกกฎหมายลบล้างความผิดต่างๆ ในอดีต เช่น การกระทำความผิดตามมาตรา 112, การกระทำการทุจริตคอร์รัปชัน, การกระทำความผิดอาญาต่างๆ เป็นต้น เพราะจะเป็นการสร้างปัญหามากกว่าการปรองดอง
       
สุเทพกล่าวต่อว่า ในส่วนของตนและมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยนั้นจะไม่ไปร่วมลงนาม MOU ดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะมองว่าการลงนามนั้นไม่ใช่ประโยชน์หรือทางออกของการปรองดองอย่างแท้จริง พร้อมเชื่อว่าหากแค่ทำการลงนาม MOU ปรองดองนั้นจะไม่ได้ผลและความปรองดองอย่างแท้จริง แต่หากมีการเชิญตนให้ไปร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกของความปรองดองนั้น ตนยินดีที่จะเข้าร่วม

แฟ้มภาพ

ด้าน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์ถึงการให้สัมภาษณ์ของ สุเทพ ว่า ไม่รู้ว่าอะไรทำให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ คิดว่าตัวเองสำคัญถึงขั้นกำหนดเงื่อนไขการปรองดองก่อนเริ่มต้นได้ ถือเป็นความเลอะเลือนอย่างยิ่งที่ใครก็ตามคิดว่าตัวเองคือศูนย์กลาง และการปรองดองจะเกิดได้ภายใต้ความต้องการของตนเท่านั้น ทั้งนี้ ขออธิบายให้เข้าใจว่า การที่นปช.แสดงจุดยืนให้ความร่วมมือนั้นเราไม่เห็นนายสุเทพเลย เพราะได้มองข้ามไปถึงเป้าหมายว่าจะช่วยกันอย่างไรให้คนที่เห็นต่างอยู่ร่วมกันในหลักการและกติกาที่ยอมรับกันได้ ข้อเสนอใดๆ ที่มีจะนำไปเสนอในเวทีพูดคุย เพราะเชื่อว่าพูดกันไปมาตอนนี้มีแต่จะทำให้ยุ่ง และกระบวนการเริ่มนับหนึ่งไม่ได้

“เราคือกลุ่มที่สูญเสียชีวิตพี่น้องกว่า 100 ชีวิต บาดเจ็บกว่า 2,000 คน ทั้งมวลชนและแกนนำสลับกันเข้าคุกเป็นว่าเล่น เราไม่มีเลือดจะกลืน ไม่มีน้ำตาจะกลั้น เพราะมันไหลออกไปแทบหมดตัวแล้ว แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการปรองดองเราขานรับตลอดมา เพราะการต่อสู้ของเราคือการต่อสู้ทางการเมือง ไม่ใช่การต่อสู้ทางทหาร เมื่อเป็นการต่อสู้ทางการเมืองย่อมปฏิเสธเวทีที่จะพูดคุยกันด้วยเหตุผลเพื่อหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติไม่ได้ ส่วนใครตั้งแง่อย่างไรเป็นเรื่องผู้มีอำนาจต้องไปคุยกันเอาเอง กำลังจะเล่นบทพระเอกแท้ๆ แต่คนรักเก่าออกมายืนเหวี่ยงอยู่อย่างนี้ จัดการให้ดีก็แล้วกัน” นายณัฐวุฒิ กล่าว

ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับนปช.พร้อมเสมอกับกระบวนการปรองดอง ยินดีร่วมเสียสละอย่างเป็นธรรมเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า แต่ไม่มีหน้าที่ไปง้อใครให้เข้าร่วม และไม่พร้อมเป็นลูกไล่ให้ใครกระทบกระแทกเอาดีเข้าตัว เจ้าภาพพร้อมเมื่อไหร่ จะให้มีส่วนร่วมอย่างไรก็บอกมา ถ้าไม่พร้อมหรือเดินหน้าไม่ได้ก็รีบบอกด้วย ประชาชนจะได้ไม่ต้องรอ

เรียบเรียงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ , มติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net