องค์กรพันธมิตรกะเหรี่ยง ลุกขึ้นโต้สังคมและสื่อพาดพิงดูหมิ่น ย้ำต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขณะที่ "ธเนศวร์ เจริญเมือง" เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาแก้ปัญหา ทำหนังสือชนเผ่าต่างๆ ให้เด็กเยาวชนและสังคมไทยได้เข้าใจในเรื่องวัฒนธรรมความหลากหลายเพื่อความสมานฉันท์
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สถาบันบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ องค์กรพันธมิตรเครือข่ายกะเหรี่ยง ร่วมกันจัดเวทีเสวนา เรื่อง "สมานฉันท์ท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลาย" หลังจากมีกรณีที่มีการพาดพิงถึงชนเผ่าในละครโทรทัศน์ เรื่อง "แก้วกลางดง" และในหนังสือ "ธรรมะกู้ใจ" ซึ่งได้มีการอ้างอิงมาจาก หนังสือ "คำคมล้านนา" ของนาย
นาย
"อย่างกรณีที่มีการนำคำพูดไปล้อเลียนในหนัง ในละครทีวี ในหนังสือนั้น ถือว่าเป็นการบิดเบือน ดูหมิ่นกันเป็นอย่างมาก ที่นำคำพูดไปล้อเลียนด้วยถ้อยคำขำๆ สนุกปาก ซึ่งถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวนว่า สังคมทุกวันนี้ต้องการความเอื้อเฟื้อ ความเคารพ ไม่ลบหลู่ซึ่งกันและกัน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ความสมานฉันท์ในสังคมไทยย่อมจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย"
นาย
ด้าน รศ.ดร.ธเนศว์ เจริญเมือง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สังคมทั่วไปนั้นย่อมมีความแตกต่างกัน และต้องเคารพซึ่งกันและกัน แต่ว่าคนส่วนใหญ่นั้นยังไม่เคารพกัน ยังคงมีการดูถูกเหยียดหยามชนเผ่า ชนพื้นเมืองกันอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสังคมมนุษย์ ที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งถือว่าการดูถูกกันนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก
"ตนคิดว่า การดูถูกชนเผ่า หรือคนพื้นเมือง นั้นมีมานานแล้ว และตนคิดว่าเป็นความรู้สึกของผู้ปกครองชั้นสูง ที่พยายามสร้างขึ้นมาเพื่อให้แตกต่างกับชนเผ่าอื่น โดยเห็นได้ชัดจากการที่ไทยได้รับวัฒนธรรมมาจากอินเดีย ทำให้มีการแบ่งชั้นวรรณะ และมองตัวเองเป็นเทพเป็นเจ้า แล้วมองคนพื้นเมืองอยู่ใต้ฝ่าเท้า จนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน ที่มีการดูหมิ่นดูแคลนผ่านสื่อ เช่น ในละครทีวี เรื่องแก้วกลางดง แม้กระทั่งภาพยนตร์เรื่อง หมากเตะ ที่ล้อเลียนเสียดสีคนลาวจนต้องระงับการฉายไป"
รศ.ดร.ธเนศวร์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น เมื่อมีเสียงวิจารณ์ ดูถูกดูแคลน เราต้องใจกว้าง ไม่ไปโดดชกหน้า แต่ถ้าเห็นอะไรไม่ถูกต้อง ต้องออกมาชุมนุมเรียกร้อง ชี้แจง ต้องแสดงความคิดเห็น และนำเสนอต่อสาธารณะให้รับรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้น ไม่ถูกไม่ควร และกระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงวัฒนธรรม ควรเข้ามาแก้ไข โดยทางกลุ่มชาติพันธุ์อาจนำข้อมูลที่เป็นจริงเสนอให้มีการทำหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมชนเผ่าต่างๆ เพื่อให้เด็กเยาวชนและสังคมไทยได้เข้าใจในเรื่องความหลากหลาย แล้วสังคมไทยเราจะอยู่กันได้ด้วยความสมานฉันท์
ในขณะที่ นาย
"เนื่องจากตอนนั้น ได้ให้เด็กเป็นผู้รวบรวม โดยไม่ได้มีการตรวจทานเสียก่อน ซึ่งผมขอยอมรับผิด และขอขมาต่อพี่น้องกะเหรี่ยงกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด และอยากบอกว่า ไม่ได้มีอคติกับพี่น้องกะเหรี่ยงแต่อย่างใด และต่อไปนี้ใครจะนำไปอ้างอิงก็ไม่ได้แล้ว"
ทั้งนี้ นายสุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ ศิลปินชาวปกากญอ กล่าวว่า หลังจากมีการเสวนา ทางองค์กรพันธมิตรกะเหรี่ยง ได้มีข้อสรุปกันว่า ต่อไปอยากเรียกร้องให้สื่อ ทั้งด้านวิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ละคร รวมทั้งนักคิดนักเขียน นักวิชาการที่จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่า ขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอด้วย และหากจะนำเสนอก็ขอให้มีการศึกษาข้อมูลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ครบรอบด้านก่อนนำเสนอต่อสาธารณะ