Skip to main content
sharethis
Event Date

ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นัดไต่สวนการตายนาย อะเบ แซ่หมู่ และนายชัยภูมิ ป่าแส ซึ่งทั้งสองคนเป็นชาวชาติพันธุ์ลีซูและลาหู่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเสียชีวิต  ในวันที่ 4 กันยายน 2560 เวลา 09.00น. เป็นต้นไป ณ ศาลจังหวัดเชียงใหม่

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 พื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง  ต.เมืองนะ  อ.เชียงดาว  จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนยิงนายอะเบ แซ่หมู่ (ชาติพันธุ์ลีซู) จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยอ้างว่านายอะเบ จะขว้างอาวุธระเบิดที่นายอะเบใส่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายอะเบ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย  และกล่าวหาว่านายอะเบมียาเสพติดประเภทเฮโรอีน 2 หลอด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย  เหตุเกิด ณ บริเวณถนนระหว่างบ้านรินหลวง-บ้านป่าบงงามลีซอ ซึ่งอยู่เลยด่านตรวจบ้านรินหลวงไม่ไกลนัก

ต่อมา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ทหารอีกชุดหนึ่ง ซึ่งประจำอยู่ที่ด่านบ้านรินหลวงเช่นเดียวกัน ใช้อาวุธปืนยิงนายชัยภูมิ ป่าแส (ชาติพันธุ์ลาหู่)  จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ขอเข้าตรวจค้นรถยนต์นายชัยภูมิ และพบยาเสพติดประเภทยาบ้าเป็นจำนวนมากบรรจุซองพลาสติกซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณส่วนกรองอากาศของรถ ต่อมานายชัยภูมิได้ทำการขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งจะใช้อาวุธระเบิดที่นายชัยภูมิมีไว้ในครอบครองขว้างใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายชัยภูมิ เหตุเกิด ณ บริเวณจุดตรวจด่านบ้านรินหลวงนั่นเอง  นายชัยภูมิ ป่าแส เป็นเยาวชนนักกิจกรรมทางสังคม และอยู่ระหว่างศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นคำร้องชันสูตรพลิกศพ(ไต่สวนการตาย)ทั้งสองกรณีต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องด้วยเหตุแห่งการตายของนายอะเบ และนายชัยภูมิ นั้น เจ้าหน้าที่ทหารอ้างว่าได้กระทำในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงต้องมีการดำเนินการไต่สวนเพื่อให้ทราบว่า ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน อย่างไร และทราบถึงเหตุและพฤติการณ์แห่งการตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150  ศาลจังหวัดเชียงได้รับเป็นคดีหมายเลขดำที่ ช.18/2560 และคดีหมายเลขดำที่ ช.19/2560 ตามลำดับ ศาลกำหนดนัดไต่สวนทั้งสองคดีในวันที่ 4 กันยายน 2560

ด้านบิดามารดาของนายอะเบ และนายชัยภูมิ โดยยังคงติดใจในเหตุและพฤติการณ์แห่งการตายของบุตรชาย จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรสิทธิมนุษยชนเพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย จึงได้มีการแต่งตั้งทนายความจาก3 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม  สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน  และ ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น  เป็นทนายความให้แก่ญาติผู้ตายทั้งสองคดี เพื่อเข้าซักถามพยานของพนักงานอัยการ และนำสืบพยานอื่น ๆ เพื่อให้ปรากฎข้อเท็จจริง  ทั้งนี้บิดามารดาของผู้ตายทั้งสองเชื่อว่าบุตรชายของตนถูกฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ทหารกระทำเกินสมควรแก่เหตุ และเป็นที่สงสัยอย่างยิ่งว่าทั้งสองกรณีเกิดเหตุในระยะเวลาห่างกัน 1 เดือน ปรากฏระเบิดชนิดเดียวกันอยู่กับศพผู้ตาย ซึ่งขัดแย้งกับพยานบุคคลและหลักฐานอื่น ๆ ที่รู้เห็นเหตุการณ์ว่าทั้งสองคนก่อนตายไม่มีอาวุธใด ๆ ซึ่งฝ่ายญาติจะได้นำสืบให้ปรากฏความจริงในศาลต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net