Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ทุกวันนี้การเปิดร้านหรือทำธุรกิจของตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่คำถามที่เกิดขึ้นหลังจากมีร้านค้าไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านหรือร้านแบบออนไลน์ก็ตาม เราจะสามารถจดทะเบียนการค้าให้กับร้านของเราได้อย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง จะไปจดทะเบียนการค้าได้ที่ไหน และคำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ก็คือ มีค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนการค้าหรือไม่?

วันนี้เรามีคำตอบพร้อมขั้นตอนจดทะเบียนการค้าแบบ Step by Step มาฝาก อัพเดทข้อมูลล่าสุดปี 2019 รับรองว่าทำเองได้ไม่มีสับสนค่ะ!

1. ใครมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนการค้าบ้าง?

ก่อนอื่นเราลองมาสำรวจกันก่อนว่าร้านค้าหรือธุรกิจของเรา อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องจดทะเบียนการค้าหรือเปล่า โดยทางกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ระบุผู้ที่มีหน้าที่จดทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์ไว้ 5 ประเภท คือ

  1. บุคคลธรรมดาคนเดียว (กิจการเจ้าของคนเดียว)
  2. ห้างหุ้นส่วนสามัญ
  3. นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่มาตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทย
  4. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด
  5. บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด

ส่วนการจดทะเบียนการค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ มี 4 ประเภท คือ

  1. ผู้ให้บริการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งครอบคลุมถึง เว็บไซต์ ร้านค้าใน e-Marketplace ร้านค้าในโซเชียลมีเดียและแอพพลิเคชั่น
  2. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider: ISP)
  3. ผู้ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Web hosting)
  4. ผู้ให้บริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-Marketplace)

จากข้อมูลเราจะเห็นว่าการจดทะเบียนการค้านั้นครอบคลุมถึงธุรกิจเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีหน้าร้านค้าของตัวเอง บริษัท นิติบุคคล หรือแม้แต่การขายของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือแอพที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน

2. เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนการค้า

  1. คำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.) หรือหากมีเว็บไซต์ให้แนบเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ด้วย
  2. สำเนาบัตรประจำตัว
    • (a) กรณีบุคคลธรรมดา ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
    • (b) กรณีนิติบุคคล ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนหรือของกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด (ไม่ต้องแนบหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล)
  3. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
  4. หนังสือชี้แจง (สำหรับร้านค้าที่เปิดมานานแล้ว และไม่ได้ยื่นจดทะเบียนการค้านับตั้งแต่ 30 วันหลังเปิดร้าน)

3. สถานที่ยื่นจดทะเบียนการค้า

  1. ผู้ประกอบการที่มีหน้าร้าน สำนักงาน บริษัท หรือสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนการค้าที่สำนักงานเขต 50 เขต โดยเราต้องยื่นจดทะเบียนการค้าในเขตที่ธุรกิจของเราตั้งอยู่เท่านั้น หรือยื่นที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
  2. ผู้ประกอบการที่มีธุรกิจตั้งอยู่จังหวัดอื่น ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนการค้าที่เมืองพัทยา เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตที่ธุรกิจของเราตั้งอยู่

4. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการค้า

มาถึงขั้นตอนที่หลายคนสงสัยว่าการจดทะเบียนการค้าต้องเสียค่าธรรมเนียมอะไรหรือไม่ คำตอบก็คือ “ต้องชำระค่าธรรมเนียม” ส่วนจะมีรายการอะไรที่เราต้องจ่ายบ้าง ลองมาดูกันค่ะ

  1. จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งใหม่ 50 บาท
  2. จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน ครั้งละ 20 บาท
  3. จดทะเบียนเลิกประกอบพาณิชยกิจ 20 บาท
  4. ขอให้ออกใบแทนใบทะเบียนพาณิชย์ ฉบับละ 30 บาท
  5. ขอตรวจเอกสารของผู้ประกอบพาณิชยกิจรายหนึ่ง ครั้งละ 20 บาท
  6. ขอให้เจ้าหน้าที่คัดสำเนาและรับรองสำเนาเอกสารของผู้ประกอบพาณิชยกิจ ฉบับละ 30 บาท

หลังจากเตรียมเอกสารและดำเนินการยื่นคำร้องจดทะเบียนการค้าที่ฝ่ายปกครองตามเขตท้องที่ที่ร้านค้าของเราตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่จะใช้เวลาดำเนินการเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพียงเท่านี้ร้านของเราก็จะได้รับการขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนใครที่เปิดร้านออนไลน์ก็อาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมคือการขอเครื่องหมาย Trustmark หรือ เครื่องหมาย DBD Registered มาแปะไว้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรานั่นเอง

วิธีขอเครื่องหมาย DBD Registered

เราสามารถขอเครื่องหมาย DBD Registered ได้ที่กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือที่เว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยการส่งเอกสารมาที่อีเมล์ e-commerce@dbd.go.th หรือ โทรสาร 02 547 5973

เอกสารที่ใช้ขอเครื่องหมาย DBD Registered

  1. สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ (แบบ พค. 0403)
  2. สำเนารายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์ (เอกสารแนบแบบ ทพ.)
  3. สำเนาเอกสารการจดโดเมนเนม
  4. เอกสารอื่น (ถ้ามี)
    • (a) ใบแสดงตัวแทนจำหน่าย
    • (b) ใบแสดงลิขสิทธิ์
    • (c) ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจนั้นๆ

เอกสารทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดได้ที่: http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=946

ขั้นตอนการจดทะเบียนการค้าก็มีเพียงเท่านี้ค่ะ ความจริงแล้วการจดทะเบียนการค้านั้นไม่ยากเลย เราแค่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมและดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของระบบเท่านั้น แต่สำหรับใครที่ไม่ว่างไปดำเนินการจดทะเบียนการค้าด้วยตัวเองเพราะต้องเดินเรื่องในวันและเวลาราชการ หรือกลัวว่าจะพลาดเอกสารสำคัญตรงไหนไป ลองมาใช้บริการฟรีแลนซ์จาก https://fastwork.co/commercial-registration เพื่อลดความยุ่งยากแถมยังประหยัดเวลาและสะดวกกว่ากันดูนะคะ เพียงเท่านี้พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการจดทะเบียนการค้าด้วยตัวเองแล้วจ้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net