Skip to main content
sharethis

ครม.เห็นชอบ แผนพีดีพี 2004 ฉบับกพช. เงียบเชียบ เพิ่มเงื่อนไขไม่ค้ำฯ เงินกู้ให้โรงไฟฟ้าและให้แยกบัญชีโครงการชัดเจน พร้อมกับให้บ.กัลฟ์ เพิ่มการผลิตเท่าตัว แลกกับไม่ฟ้องเรียกค่าโง่จากรัฐกรณีชวดโรงไฟฟ้าบ่อนอก

ประชาไท -24 ส.ค.47 แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2547-2558 (พีดีพี 2004) ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยฉบับนี้เป็นฉบับล่าสุด (สิงหาคม 2547) ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2547

ทั้งนี้ กพช.มีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการจัดหาไฟฟ้าก่อนปี 2554 ที่สำคัญคือให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) สร้างโรงไฟฟ้า 4 แห่งเช่นเดิมโดยรัฐบาลไม่ค้ำประกันการก่อหนี้ และต้องมีการแยกบัญชีการเงินของโครงการดังกล่าวจากบัญชีการเงินของ กฟผ. อย่างชัดเจน รวมทั้งต้นทุนการหาไฟฟ้าจะต้องไม่สูงกว่าโรงไฟฟ้าเอกชน

นอกจากนี้ ยังยินยอมให้บริษัท กัลฟ์เพาเวอร์เจนเนอเรชั่น จำกัด ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าโครงการแก่งคอย 2 จาก 734 เมกะวัตต์ เป็น 1,468 เมกกะวัตต์ โดยให้โรงไฟฟ้าหน่วยแรกจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเดือนมีนาคม 2550 แทนกาเรียกร้องค่าเสียหายจากการกระทำของรัฐ และยกเลิกการเรียกร้องเงินที่ลงทุนไปแล้วในโครงการไฟฟ้าบ่อนอก

ในส่วนของ กฟผ.และปตท.จะต้องรายงานความคืบหน้าโครงการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมสงขลาทุก 3 เดือน หากโครงการดังกล่าวล่าช้าไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็ให้พิจารณาขยายโรงไฟฟ้าขนอมขนาด 385 เมกะวัตต์ในปี 2550 มาทดแทน

นายวิฑูรย์ เพิ่มพงศาเจริญ มูลนิธิฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า แผนนี้ไม่มีอะไรใหม่ เป็นไปตามที่ภาคประชาชนคาดเดาไว้แล้วว่าจะมีการบีบกฟผ.ให้เข้าตลาดหุ้น ด้วยวิธีที่อยากทำอะไรก็ทำไปแต่รัฐไม่ค้ำประกันเงินกู้

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการอนุญาตให้บริษัทกัลฟ์ ฯ เพิ่มกำลังผลิตนั้น ตามหลักแล้วควรเปิดให้มีการประมูล เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลประโยชน์เป็นหมื่นล้าน และบริษัท เอ๊กโก้ จำกัด ของกฟผ. ก็เข้าไปมีหุ้นด้วย

"เรื่องนี้สะท้อนชัดเจนว่ารัฐไม่ได้ใส่ใจการมีส่วนร่วมของประชาชนแม้แต่น้อย และไม่สนใจที่จะรับฟังคนอื่น ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างช่วยไม่ได้ อย่างการเสนอแผนทางเลือกของภาคประชาชน รัฐไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดก็ไม่เป็นไร แต่น่าจะมีการเรียนรู้ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชนคงต้องค่อยๆ ผลักดันต่อไป เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว" นายวิฑูรย์กล่าว

รายงานโดย : มุทิตา เชื้อชั่ง
ศูนย์ข่าวประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net