Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-26ส.ค.47 รักษาการผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยอมรับประชาชนต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลไม่ยอมค้ำประกันโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 4 แห่ง

ตามแผนพีดีพี -2004 ที่ กฟผ.ได้รับอนุมัติให้จากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้า 4 โรงนั้น ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมสงขลา โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ และโรงไฟฟ้าบางประกง โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2549-2550 และสามารถป้อนไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2551 ใช้ทุนก่อสร้างถึงปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท โดยมีวงเงินดำเนินการรวม 400,000 ล้านบาท

นายณรงค์ศักดิ์ วิเชษฐ์พันธุ์ รองผู้ว่าการอาวุโสกลุ่มพัฒนา รักษาการผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ระบุว่า กฟผ. อยู่ระหว่างเตรียมเจรจากับสถาบันการเงิน และพิจารณาหาเงินมาดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าใหม่และสายส่งไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ศักดิ์ยอมรับว่า การที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันเงินกู้ จะส่งผลทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ต้นทุนโรงไฟฟ้าซึ่งเป็นที่มาของค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรหากโรงไฟฟ้าทั้ง 4 โรงแล้วเสร็จและนำไฟฟ้าเข้าระบบได้ จะทำให้มีกฟผ.มีผลรายรับถึงร้อยละ 8 ต่อปีของการลงทุน

ส่วนรูปแบบการระดมทุนนั้น คาดว่าจะใช้ทั้งการออกพันธบัตรหรือกู้เงินโดยตรง โดยขณะนี้กฟผ.ออกพันธบัตรไป 2 งวดแล้ว พันธบัตรครั้งแรกวงเงิน 800 ล้านบาท อายุพันธบัตร 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 3.295 ธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้เป็นผู้จัดจำหน่าย ส่วนครั้งที่ 2 ออกพันธบัตรวงเงิน 1,000 ล้านบาท อายุ 15 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.2 มีธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่าย

ทั้งนี้ กฟผ.เตรียมจะระดมทุนใหม่ในปี 2547 ประมาณ 3,000 ล้านบาท และปีหน้า มีความต้องการใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะระดมทุนรูปแบบใดที่เหมาะสมที่สุด

รายงานโดย : ศูนย์ข่าวประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net