Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวเอเอฟพี อ้างถ้อยแถลงของของกลุ่มเฝ้าระวังเรื่องสิทธิมนุษยชนภาคพื้นเอเชีย ว่า การที่บริษัทชิน คอร์ป ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสื่อมวลชน รวมทั้งการที่รัฐบาลเพิ่มความกดดันสื่อมวลชน

ทั้งนี้นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการกลุ่มเฝ้าระวังเรื่องสิทธิมนุษยชนภาคพื้นเอเชีย ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เป็นเรื่องปรกติที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะถูกวิพากษ์วิจารณ์

กรณีที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนฯ สหรัฐกล่าวถึงคือ การที่กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น ที่ก่อตั้งโดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ยื่นฟ้อง นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการเพื่อการปฏิรูปสื่อ(คปส.) และหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาททั้งทางแพ่งและอาญา โดยเรียกค่าเสียหายสูงถึง 400 ล้านบาท

บริษัท ชิน คอร์ปฯ อ้างว่าบทความที่เลขาธิการฯ คปส. เขียนลงในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เมื่อปีก่อนที่ว่าบริษัทเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์รายหลักจากนโยบายของรัฐบาลทักษิณนั้น เป็นการทำลายชื่อเสียงและความมั่นคงทางการเงินของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก

นายอดัมส์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้สูญเสียความเข้มแข็งในเรื่องเสรีภาพของสื่อที่ครั้งหนึ่งเคยมีนั้นไปเสียแล้ว

ข้อมูลของสมาคมผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทยระบุว่า กว่า 3 ปีที่ผ่านมามีรายงานเอกสารต่าง ๆ กว่า 20 กรณีที่บรรณาธิการทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อวิทยุโทรทัศน์ถูกไล่ออก หรือไม่ก็โดนโยกย้าย ซึ่งการกระทำที่ก้าวก่ายหน้าที่เช่นนี้ก็เป็นไปเพื่อเอาใจรัฐบาล

บรรดานักหนังสือพิมพ์และบรรณาธิการกล่าวกับกลุ่มเฝ้าระวังเรื่องสิทธิมนุษยชนว่า พวกเขาถูกรัฐบาลกดดันให้เลือกนำเสนอข่าว รวมทั้งบิดเบือนข้อมูลที่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

นอกจากนี้ รัฐบาลและองค์กรพันธมิตรได้มอบรางวัลให้แก่สื่อที่อยู่ใต้การควบคุมของรัฐบาล และลงโทษสื่อที่ไม่ทำตัวอยู่ในกรอบที่รัฐบาลกำหนดด้วย

กลุ่มเฝ้าระวังเรื่องสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า สำนักข่าวระหว่างประเทศก็ถูกกดดันจากรัฐบาลไทยด้วยเช่นกัน ด้วยการสั่งตรวจสอบใบอนุญาตการทำงานและการต่อสัญญาวีซ่าโดยพลการ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการกดดันนักข่าวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย

รายงานโดย : ศูนย์ข่าวประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net