Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.47 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานคณะทำงานติดตามผลการเจรจาการทำ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ กล่าวในงานสัมมนา เขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับนิวซิแลนด์ การปรับตัวของสินค้าผลิตภัณฑ์นม โดยเชื่อว่า มีแนวทางที่เหมาะสมที่ทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้เกษตรกรผู้ผลิตของไทยก็มีเวลาปรับตัวได้ทัน เพราะจะเริ่มเปิดเสรีสินค้านมในอีก 15-20 ปีข้างหน้า

นายณรงค์ชัยกล่าวว่า ผลการศึกษาฯ ระบุว่า นมที่ผลิตในประเทศไทย ไม่พอในการบริโภค แต่ก็มีปริมาณที่เหลืออยู่มาก เพราะราคานมผงต่างประเทศ ถูกกว่าราคานมสดในประเทศ และก็มั่นใจในคุณภาพมากกว่า ดังนั้น หากจะให้นมสดในประเทศมีคุณภาพมาตรฐานทัดเทียมนมผงต่างประเทศ ต้องทำให้ราคาที่ผู้ซื้อทั้งประชาชนและโรงงาน ซื้อได้ในราคาที่ไล่เลี่ยกัน และมีความสะดวกในการซื้อเท่าเทียมกัน เพื่อส่งเสริมให้มีผู้บริโภค-ผู้ซื้อภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้หากสามารถแก้ไขปัญหาด้านราคาซื้อ คุณภาพ และกระบวนการจัดซื้อ อีกทั้งการส่งเสริมมาตรการรวมสหกรณ์โคนมให้เป็นระบบได้นั้น จะส่งผลให้อุปสรรคทางการค้าลดน้อยลง เกษตรกรไทยในระบบก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน ภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการผลิตภัณฑ์นมที่มีประสิทธิภาพ

นายณรงค์ชัยกล่าวว่า ทางคณะทำงานฯ จะสรุปผลจากการสัมมนานำเสนอรัฐบาล เพื่อผลักดันไปสู่นโยบายเชิงปฏิบัติต่อไป พร้อมทั้งจะนำไปจัดทำมาตรฐานรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเจรจา FTA ได้อย่างเหมาะสม

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดเขตการค้าเสรีหรือ การทำ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ว่า การเจรจาจะครอบคลุมถึงเรื่องการเปิดตลาดสินค้า บริการ การลงทุน และความร่วมมือที่เกี่ยวกับการค้า

โดยการเจรจาครั้งที่ 3 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27-29 กันยายนนี้ ณ ประเทศนิวซีแลนด์ โดยล่าสุดการเจรจารอบ 2 ได้ส่งเรื่องแลกเปลี่ยนข้อเสนอต่อกันระหว่างไทย -นิวซีแลนด์แล้ว

ประชาไท รายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net