ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-21 ก.ย. 47 ที่ รร.อิมพีเรียล แม่ปิง จ.เชียงใหม่ กระทรวงพาณิชย์ ประเมิน 1 ปี การค้าเสรีไทย-จีน ได้ผลทำให้ไทยขยายตัวการส่งออกเพิ่มขึ้น 100 % ชี้ต้องเร่งศึกษาการตลาด หาช่องทางให้รู้เท่าทันจีน

นายพิษณุ เหรียญมหาสาร ผอ.สำนักงานคณะกรรมการบริหารนโยบายการนำเข้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ไทยมีการลงนามความตกลงการเปิดเสรีทางการค้า ให้มีการเร่งลดภาษีสินค้าผักและผลไม้ระหว่างไทย-จีน ภายใต้กรอบ Early Harvest ของความตกลงเขตการค้าอาเซียน-จีน และมีการร่วมลงนามในความเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 46 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ให้มีการเปิดเสรีผักและผลไม้ระหว่างกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 46 เป็นต้นมา

"สถานะการค้าปัจจุบัน ตั้งแต่มกราคม 2547 จนถึง เดือนก.ค. 2547 มีมูลค่า 296.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของช่วงที่แล้ว 86.82% ไทยเกินดุลการค้าลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 78.23% โดยการส่งออกและนำเข้าเพิ่มขึ้น 82.93% และ 128.5% ตามลำดับ ซึ่งสินค้าส่งออกผักและผลไม้สำคัญของไทยได้แก่ ทุเรียนสด ลำไยสด ลำไยแห้ง มังคุด และมันสำปะหลังเส้น ส่วนสินค้าผลไม้สำคัญที่จีนสามารถส่งออกมาไทยได้มากขึ้น ได้แก่ แอปเปิ้ล แพร์ และ ควินซ์" นายพิษณุ กล่าว

นายพิษณุ ยังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงเดือนตุลาคม 2546 - กรกฎาคม 2547 จีนนำเข้าผลไม้จากไทย มีปริมาณทั้งสิ้น 192,076.43 ตัน คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 130.05 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่ไทยนำเข้าจากจีน 26,242.10 ตัน คิดเป็นมูลค่า 33.45 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

และยังได้พูดถึงปัญหาการเข้าสู่ตลาดจีนอีกว่า มีปัญหาอยู่ 6 ประการ คือ เรื่องการอนุญาตให้นำเข้า การเก็บ VAT สินค้าเกษตรของจีน การคมนาคมขนส่ง ปัญหาด้านการกระจายสินค้าและการขนส่ง การฏิบัติที่แตกต่างกันระหว่างมณฑล และปัญหาด้านสุขอนามัยในสินค้าผักและผลไม้ส่งออกไทย

"ต่อไป เราจำเป็นมีเร่งศึกษาตลาด หาช่องทางให้มากขึ้น ถ้านักธุรกิจไทยมีความรู้ในเรื่องการตลาดอย่างชัดเจน เราก็สามารถขยายการส่งออกได้มากยิ่งขึ้น" นายพิษณุ กล่าว

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน