รายงานพิเศษ : การกลับมาของ "ไข้หวัดนก"

การกลับมาของ "ไข้หวัดนก" -รายงานพิเศษ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)

ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้ว่า ข่าวโรคไข้หวัดนกนั้นถูกกระแสข่าวอื่นกลบทำให้เหมือนว่าโรคไข้หวัดนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วสถานการณ์ไข้หวัดยังคงไม่ดีนัก โดยกระทรวงสาธารณสุขยืนยันมาแล้วว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยหลายรายที่เสียชีวิตด้วยไข้หวัดนก ซึ่งได้มีคำถามตามมาว่า "ไข้หวัดนก" นั้นกลับมาได้อย่างไร มาตรการในการป้องกัน การเฝ้าระวัง และควบคุมโรคนั้นดีพอหรือยัง? มีเกณฑ์อะไรที่จะวินิจฉัยว่าเชื้อนี้มีการติดต่อจากคนสู่คน และควรจะทำอย่างไรต่อไปในขณะที่ฤดูกาลกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูที่สร้างโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อของโรคนี้ค่อนข้างสูง

ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้(วพส.) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา เปิดเผยถึงประเด็นต่าง ๆ ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดนก ซึ่งทาง ศ.นพ.วีระศักดิ์ ได้ให้คำตอบ ดังนี้

ทำไม "ไข้หวัดนก" จึงกลับมาอีก

ศ.นพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า "เชื้อไวรัสตัวนี้กลับมาได้อย่างไรนั้น เหตุผลที่จะนำมาอธิบายนั้น มีอยู่ 2-3 ประการ ก็คือ ประการแรกเชื้ออยู่ในสัตว์ป่าโดยเฉพาะ นกป่า ส่วนนี้มีหลักฐานที่ค่อนข้างแน่นอนเพราะมีการดักจับนกป่าในประเทศต่าง ๆ แล้วพบเชื้อเป็นระยะ ๆ ประการที่สอง เชื้อแฝงอยู่ในสัตว์เลี้ยงโดยไม่มีอาการ เช่น ไก่บ้าน, เป็ดในท้องทุ่ง ส่วนนี้ต้องค้นจากรายงานการเฝ้าระวังของกรมปศุสัตว์และรายงานการวิจัยในต่างประเทศ ประการที่สาม สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม กับการดำรงอยู่และการแพร่พันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น ปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิ ความชื้น และระดับภูมิคุ้มกันและความหนาแน่นของสัตว์ที่เชื้อไวรัสสามารถเข้าไปเจริญพันธุ์ ซึ่งในฤดูฝนปัจจัยเหล่านี้อาจจะเอื้ออำนวยมาก เชื้อที่หลบซ่อนอยู่ในสองประการข้างต้นจะสามารถเพิ่มจำนวนได้มาก"

สถานการณ์โรคในปัจจุบัน "จากสัตว์สู่คน"

ปรกติเชื้อไข้หวัดนกในคนจะได้รับมาจากสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ถ้าคนที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับสัตว์ปีก ความเสี่ยงก็จะต่ำ ผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อมากที่สุดคือ คนงานในฟาร์มและรองลงมานั้นก็คือผู้ที่สัตว์ปีกเลี้ยงไว้ภายในบริเวณบ้าน ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนี้ก็จะมีรายงานเกี่ยวกับการตายของผู้ที่ได้รับเชื้อไข้หวัดนกจากการที่ได้ใกล้ชิดและสัมผัสสัตว์ที่มีเชื้อ และยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการติดต่อของเชื้อไข้หวัดนกจากคนสู่คน อาการไข้หวัดนก ก็คล้ายๆกับไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่จะมีอาการรุนแรงกว่า มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศรีษะอย่างรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อทั้งตัว อ่อนเพลียมาก ไอมาก จนเจ็บหน้าอก เจ็บคอ น้ำมูกไหล คัดจมูก หายใจลำบาก อาจมีอาการของระบบทางเดินอาหารแทรก เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง บางรายอาจมีอาการแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม

ข้อกังวล การกลายพันธุ์ "จากคนสู่คน"

"ถ้าเชื้อสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ความเสี่ยงการติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และน่าจะรุนแรงกว่าโรคซารส์เสียอีก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่แพร่ได้ทางอากาศ เช่น ปลิวไปตามลมได้ระยะไกล ๆ และติดต่อได้ง่าย เปรียบกับโรคซารส์ซึ่งติดต่อกันทางละอองจากการจามไอและสารคัดหลั่งขับถ่าย

เกณฑ์ที่จะตัดสินว่าติดจากคนสู่คนหรือไม่นั้น ต้องใช้หลักฐานทางไวรัสวิทยาและหลักฐานทางระบาดวิทยา ซึ่งทางไวรัสวิทยาต้องพบว่าเชื้อไวรัสในผู้ป่วยสองรายต้องมีลักษณะทางพันธุกรรมที่เหมือนกันทุกประการ และ ต้องมีจุดทางพันธุกรรมที่เป็นไวรัสของคนผสมอยู่ ส่วนในทางระบาดวิทยาต้องมีหลักฐานว่าไม่ได้รับเชื้อจากแหล่งอื่นจริง ๆ เช่น ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับไก่ ไม่ได้รับประทานผลผลิตของไก่ที่อาจจะนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย และน่าจะรับเชื้อจากผู้ป่วยไข้หวัดนกคนแรกเท่านั้น

แม้ว่าจะครบหมดทั้งสองเกณฑ์ก็ยังไม่ได้หมายความว่าอันตรายมาก ถ้าไม่มีหลักฐานทางระบาดวิทยาเพิ่มเติมว่ามีการแพร่ระบาดที่น่ากลัว เช่น มีผู้รับเชื้อไปจากผู้ป่วยแล้วเกิดโรคเพียงจำนวนน้อย ( attack rate ต่ำ ) ก็ไม่น่ากลัวเป็นต้น ในทางปฏิบัติแล้ว ตรรกะและหลักฐานทางระบาดวิทยาเหล่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในหลายกรณีการตรวจทางไวรัสวิทยาทำได้ช้า และมีผลบวกหรือผลลบปลอมได้" ศ.นพ.วีระศักดิ์ กล่าว

วัคซีน : ตัวเร่งไวรัสกลายพันธุ์ "คนสู่คน"

จากที่ทางการห้ามไม่ให้ใช้วัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อนั้น ศ.นพ.วีระศักดิ์ ชี้แจงประเด็นนี้ ว่า "อันดับแรกก็คือเหตุผลทางเศรษฐกิจเป็นเพราะกลัวต่างประเทศไม่รับซื้อไก่ไทย หรือ มีเหตุผลเชิงสุขภาพซึ่งค่อนข้างซับซ้อน"

ต่างประเทศไม่รับซื้อเพราะเป็นมาตรฐานสากลที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติและองค์การโรคระบาดสัตว์กำหนดไว้ เหตุที่องค์กรทั้งสองกำหนดไว้ก็เพราะกลัวว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดนกจะไปเร่งการกลายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดนกที่มีอยู่ ความกลัวนี้มีทั้งแนวคิดและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แนวคิดก็คือ เชื้อไวรัสไข้หวัด และ ไข้หวัดใหญ่มีจุดทางพันธุกรรมที่ทำให้กลายพันธุ์ได้ง่ายอยู่หลายจุดทำให้กลายพันธุ์ได้เร็ว ต่างจากเชื้อไวรัสบางชนิดซึ่งกลายพันธุ์ได้ช้า เช่น โรคหัด การกลายพันธุ์เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตในปรับตัวให้สิ่งมีชีวิตประเภทนั้นสามารถสืบต่อเชื้อสายให้ดำรงอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป นักไวรัสวิทยาสามารถวัดอัตราการกลายพันธุ์ของเชื้อไข้หวัดนกได้ และทดลองแล้วว่าในฟาร์มที่มีการใช้วัคซีน เชื้อไข้หวัดนกที่พบจะมีอัตราการกลายพันธุ์ที่เร็วกว่าฟาร์มที่ไม่ใช้วัคซีน ทั้งนี้เป็นปฏิกริยาตอบสนองของเชื้อทำให้ซึ่งหาทางเร่งคัดเลือกพันธุ์ให้ดำรงอยู่ได้ภายใต้สถานการณ์ที่มีวัคซีน

อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงไม่ใช่การได้เชื้อที่ดื้อต่อวัคซีนอย่างเดียว แต่การกลายพันธุ์ที่เร็วขึ้นทำให้มีความน่าจะเป็นที่จะได้เชื้อชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติอื่น ๆ ด้วย คุณสมบัติที่มนุษย์ไม่ต้องการมากก็คือความสามารถของเชื้อที่จะ ติดต่อจากมนุษย์ไปยังมนุษย์ เพราะจะทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่และมีคนตายจำนวนมากมายมหาศาล ดังนั้นจึงควรห้ามการใช้วัคซีนนี้โดยเด็ดขาด มียกเว้นเฉพาะการใช้ในวงจำกัดซึ่งรัฐหรือนักวิทยาศาสตร์ควบคุมได้ การใช้ในไก่บ้านก็น่าจะอยู่ในข่ายที่รัฐคงจะไม่สามารถไปควบคุมได้จึงไม่แนะนำให้ใช้"

ศ.นพ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อหลีกให้ห่างจากการติดเชื้อไข้หวัดนก ประชาชน ควรติดตามการระบาดของโรคและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างใกล้ชิด (ในครั้งนี้ทางการคงเข็ด ไม่กล้าปิดบังความจริงอีกแล้ว เพราะการปิดบังมีผลเสียต่อการควบคุมโรค) ในช่วงการระบาดระยะนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ปีกจำนวนมาก ๆ โดยเฉพาะสัตว์ที่ป่วยหรือตาย อย่าใช้วัคซีนไข้หวัดนก อย่าสนับสนุนกลุ่มรณรงค์ให้นำเข้าวัคซีนไข้หวัดนก เมื่อมีผู้ป่วยอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ไอ(อาจจะไม่ไอมาก) หายใจลำบาก ควรแนะนำให้ไปโรงพยาบาลด่วน ไม่ว่าจะใกล้ชิดกับสัตว์ปีกหรือไม่ก็ตาม

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท