Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ความเดิมจากตอนที่แล้ว…

ด้วยความสนใจว่าทำไมทั้งๆ ที่มีการพูดถึงเรื่องเซ็กส์ในวัยรุ่นอย่างเอิกเกริกบนสื่อต่างๆ แต่กลับไม่มีเสียงของวัยรุ่นที่พูดถึงเรื่องนี้เลย เราจึงชักชวนวัยรุ่นจากทั้งโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยต่างๆ มาพูดคุยกันในหัวข้อนี้ ซึ่งเราก็พูดกันไปว่า...ไม่บอกแล้วกัน เชิญกลับไปอ่านในตอนแรกน่าจะได้อรรถรสมากกว่า

มาถึงตอนนี้ วงสนทนาจะดำเนินไปอย่างไร เชิญติดตามได้โดยพลัน...

--------------------------------------------------------------------

เซ็กส์กับสื่อ (และผู้ใหญ่)...
ชัยเริ่มตั้งคำถามกับน้องๆ ถึงความรู้สึกของวัยรุ่นต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ใหญ่ซึ่งเราก็ได้คำตอบจากใหม่และอิ่มว่า...

"น่าเบื่อ น่ารำคาญ เพราะผู้ใหญ่ก็ออกมาพูดทุกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะแก้ปัญหาอะไรได้ อย่างเรื่องน้องแนทที่ออกมาเป็นข่าวโด่งดังอยู่เกือบเดือน แต่ผู้ใหญ่ก็ออกมาพูดและทำข่าวจนดูเหมือนการโฆษณาทางอ้อม แต่ไม่ได้ออกมาทำให้วัยรุ่นรู้จักแยกแยะและสร้างสิ่งดีๆ ให้วัยรุ่นเลย"

เมออกมาเสริมว่า " อย่างเรื่องน้องแนท สื่อเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เยาวชนได้รับรู้ จนไปๆ มาๆ เธอถูกจองตัวจากรายการต่างๆ นานนับเดือน ซึ่งสื่อก็ไม่ได้คิดว่าเยาวชนจะได้รับผลอย่างไร เหมือนจะทำเพื่อขายเท่านั้น"

เมื่อพูดถึงตรงนี้ โบว์ในฐานะนิสิตนิเทศศาสตร์คนเดียวในวงก็เสนอความคิดเห็นว่า "จนท้ายที่สุด สื่อบางคนก็เข้าไปในกระแสการตลาด จนลืมไปว่าจริยธรรมของสื่ออยู่ที่ไหน ผู้ใหญ่บางคนก็ออกมาบอกว่าทำไมเด็กถึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วตัวเองก็ไม่ได้ทำตัวอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่นเลย จนสุดท้ายวัยรุ่นก็ต้องออกไปพึ่งพาเพื่อนตัวเอง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะถูกต้องมั้ย"

เมื่อพูดถึงตรงนี้ มีการพูดถึงสื่ออินเตอร์เนตที่ต้องนับว่าเป็นสื่อที่เข้าถึงง่าย และตรวจจับยากมากที่สุดสื่อหนึ่ง โดยมีการยกตัวอย่างโปรแกรม "ปลาวาฬเบราเซอร์" ที่สามารถสกัดกั้นการเข้าถึงเวบไซต์ลามกอนาจารได้ อยู่ดีๆ ก็มีคำถามดังขึ้นมาจากโบว์ว่า..." การป้องกันไม่ให้เด็กเปิด กับการทำให้เด็กไม่อยากเปิดเอง อะไรมันจะดีกว่ากัน"

ซึ่งก็มีคำตอบจากอิ่มและใหม่ว่า "เราว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ที่ครอบครัวเอาเรื่องแบบนี้มาพูดจากัน อย่างบางครอบครัวที่เอาเปิดเว็บโป๊ให้ลูกดู ซึ่งแม้ว่าเนื้อหาสาระในนี้จะไม่ดี แต่มันก็อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ แต่ถ้ายิ่งไปห้ามเขา เด็กก็ต้องหาทางดูให้ได้ด้วยความอยากรู้ของเขา"

ชัยเสริมในท้ายประเด็นว่า "ปัจจุบันนี้ นอกจากเด็กจะสามารถเข้าถึงเรื่องเซ็กส์ได้แล้ว สื่อเองก็วิ่งเข้าหาเซ็กส์โดยใช้มันเป็นจุดขาย จนมันกลายเป็นสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมไปแล้ว แต่ยังไงซะ เราก็ไม่ควรโทษสื่อสถานเดียว แต่เราควรออกมาทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจึงหาทางออกว่าเราควรทำอย่างไร"

บทสรุป...
ก่อนที่วงสนทนาจะเลิก เราได้ให้โจทย์ผู้เข้าร่วมพูดคุยทุกคน ให้ฝากอะไรก็ได้ถึงผู้ใหญ่ที่กำลังจะอ่านบทความชิ้นนี้ ซึ่งสิ่งที่เขาได้ฝากไว้ก็มีดังนี้...

โบว์- "อยากให้อ่านแล้วลองกลับไปคิดดูว่าพอเห็นเด็กคิดแบบนี้แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง ขอให้คุณคิดดีๆ ก่อนที่จะออกมาพูดแค่ว่า "ทำไมให้เด็กออกมาพูดอะไรแบบนี้" อยากให้คุณกลับมามองตัวเองว่าทำอะไรที่ดีและไม่ดีเอาไว้ และใส่ใจคนรอบข้างคุณมากแค่ไหน อยากให้คุณใส่ใจกับวัยที่เปลี่ยนไปของคนรอบข้างตัวคุณ เพราะมันเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต"

อิ่ม- "คนที่มีเซ็กส์ที่ดี ก็สามารถมีอย่างอื่นที่ดีในชีวิตได้เหมือนกัน อยากให้ผู้ใหญ่คิดว่าสิ่งที่เขาทำออกมามันสามารถจรรโลงโลกนี้ให้ดีขึ้นได้หรือเปล่า ถ้ามันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ก็ขอให้ถามตัวเองว่าเขาจะได้อะไรบ้างไหม นอกจากการทำให้เรื่องแบบนี้เป็นประเด็น และทำให้วัยรุ่นถลำลึกไปกับมัน"

ใหม่- "ผู้ใหญ่มักจะพูดออกมาว่าการเปิดประเด็นเรื่องเพศมันเหมือนการชี้โพรงให้กระรอก แล้วทำไมเราไม่พูดและสอนเรื่องเพศให้กระรอกมันลงรูได้อย่างถูกวิธี เราน่าจะออกมาเปิดใจคุยกัน อย่าให้มันหยุดแค่การกล่าวหาในจุดใดจุดหนึ่งโดยไม่มองโดยรวม เปิดใจให้กว้างสักนิด ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง"

เม- "อยากให้ผู้ใหญ่ใจกว้างและจริงจังกับปัญหาเยาวชน และไม่อยากให้ผู้ใหญ่คุยกับผู้ใหญ่อย่างเดียว อยากให้มารับรู้ปัญหาและความรู้สึกจากเยาวชนด้วย"

เปาโล- "เบื่อมาตรการต่างๆ ที่ขยันออกกันจังเลย ถ้ามาตรการมันดีจริง ออกครั้งเดียวแล้วก็ไม่ต้องออกอีก นี่ออกแล้ว ออกอีกๆๆ คุณควรพิจารณาตัวเองว่ามาตรการของคุณเป็นอย่างไร"

ตูน- "อยากให้ผู้ใหญ่หันมาเอาใจใส่ตัวเด็กและเข้าใจตัวเขา อย่าไปโทษว่าเด็กเดี๋ยวนี้เหลวแหลก เพราะสื่อต่างๆ และสิ่งต่างๆ ที่เด็กรับมา มันก็มาจากคุณทั้งนั้น"

ชัย- "เนื่องจากเราหนีจากเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมไปแล้ว ประเด็นสำคัญน่าจะเป็นการอยู่ร่วมกับมัน ถ้าจะพูดคุยเรื่องเซ็กส์ อย่าพูดเพียงเรื่องเดียว ต้องมองเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องหนึ่งของชีวิต โดยเชื่อมโยงเซ็กส์กับการศึกษา กับความสำเร็จในชีวิต กับภาระและความรับผิดชอบต่างๆ รวมถึงความนึกคิดด้วย และเราก็ควรหาวิธีในการสร้างภูมิปัญญาเรื่องเซ็กส์ในสังคมนี้ โดยหยิบเรื่องสื่อเกี่ยวกับเซ็กส์ในสังคมนี้มาวิพากษ์วิจารณ์ อย่าทำแค่ห้าม เพราะการห้ามจะเท่ากับเป็นการหยุดความคิด"

คงไม่ต้องสรุปอะไรแล้วกระมัง...

ภาณุวัฒน์ อภิวัฒนชัย
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net