Skip to main content
sharethis

เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง สิ้นเสียงปืนดังซ้อนกัน 3 ครั้ง ร่างทั้งร่างก็หล่นร่วงสู่พื้นดิน แผ่นกระดาษเหนือร่างอันไร้ลมหายใจ ระบุข้อความไว้ว่า

"โปรดจำไว้ เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่จับกุมแต่นักศึกษาปอเนาะผู้บริสุทธิ์ ทำไมไม่จับกุมคนร้ายตัวจริง จึงจำเป็นต้องทำร้ายนักศึกษาและญาติของผู้บริสุทธิ์บ้าง เพื่อเป็นการตอบโต้และถ้าจับนักเรียนปอเนาะ เราจะฆ่านักศึกษามอ.ปัตตานี"

ชนวนความรุนแรงในภาคใต้ ถูกจุดขึ้นอีกครั้งเมื่อมีการปล้นปืนในค่ายทหารกองพันพัฒนาฯ ช่วงต้นปี 46 ก็ทวีความแรงเพิ่มมากขึ้นๆทุกวัน จนล่าสุดเหตุการณ์การลอบยิงนศ.ปัตตานี กลางวันแสกๆ สร้างความสะเทือนขวัญและวิตกกังวลด้านความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาในมอ.ตานีอย่างยิ่ง

ที่ผ่านมานักศึกษา มอ.ปัตตานีได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ และทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนตลอด เช่น เรื่องท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ตอนสลายการชุมนุมด้วยกำลังที่หาดใหญ่ นศ.มอ.ตานีก็เข้าร่วมเหตุการณ์ถูกทำร้ายจนเลือดตกยางออก ก่อนหน้านี้ก็ไปศึกษาเรื่องการคัดค้านอวนลากอวนรุนร่วมกับชาวประมงพื้นบ้าน

การถ่ายหนังเรื่องเดอะบีช ที่อ่าวมาหยา จ.กระบี่ ของบริษัททะเวนตี้เซ็นจูรี่ฟอกซ์ เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีนศ.จากมอ.ตานีเข้าไปศึกษาเรียนรู้กรณีปัญหาอยู่เสมอๆ เนื้อหาและกิจกรรมก็ไม่ได้แต่งต่างกับมหาวิทยาลัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็นธรรมศาสตร์ หรือรามคำแหง แม้แต่การขึ้นไปส่วนกลางเพื่อศึกษาปัญหาของประชาชนหน้าทำเนียบรัฐบาล นักศึกษามอ.ตานีก็ไปร่วมมาแล้ว

นายอานัติ ช่างเรือ นายกองค์การนักศึกษา มอ.ปัตตานีคนปัจจุบัน เล่าว่าปัจจุบัน นักศึกษามอ.ปัตตานีทำกิจกรรมเรื่องการแยกตัวของมหาวิทยาลัยออกเป็นเอกเทศ โดยได้รณรงค์ให้มีการแยกมอ.ปัตตานีออกเป็นมหาวิทยาลัยต่างหาก และสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ในทุกด้านโดยไม่ต้องขึ้นอิงกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

นายอานัติเล่าให้ฟังต่อว่านอกจากนี้ก็มีคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นกฤษฎีกาตีความพิจารณาและส่งกลับมาทางมหาวิทยาลัยอีกครั้ง จึงยังต้องมีการทำประชามติในเรื่องนี้อีกทั้ง 5 วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ยังไม่รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ได้ไปศึกษาจากพื้นที่ต่างๆร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่นะ นายกองค์การนักศึกษากล่าว รูปแบบก็คือ การเข้าไปศึกษาและหนุนเสริมในด้านที่ชุมชนขาดและนักศึกษาสามารถจะทำได้ "เพราะเราคิดว่านักศึกษาเป็นลูกหลานของประชาชนและมอ.ปัตตานีก็เป็นของชุมชน เราจึงตอบแทนชุมชนของเรา "

นายอาณัติเล่าด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดขึ้นว่า จากเหตุการณ์ยิงเพื่อนนักศึกษาเสียชีวิตที่ด้านหลังมหาลัย ก่อให้เกิดความหวาดหวั่นในหมู่นักศึกษามาก แม้ว่าก่อนหน้านี้การทำกิจกรรมต่างๆในรั้วมหาลัยจะมีการข่มขู่กันบ้างก็ยังไม่น่าหวาดหวั่นเท่าครั้งนี้ อย่างตอนจัดเวที 150 วัน ตามหาทนายสมชาย นิลไพจิตร ก็มีคนขู่ฝากผ่านเพื่อนน.ศ.บอกกับทีมที่จัดเวทีนี้ว่า ให้ระวังตัวเอาไว้ให้ดีแล้วกัน

นักศึกษาอีกคนกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนกับว่าเมืองปัตตานีกำลังอยู่ในความสับสน วุ่นวาย ในมอ.ปัตตานีเองก็อยู่ท่ามกลางความหวาดระแวง และคลุมเครือ นักศึกษาที่ทำกิจกรรมตอนนี้ก็อยู่อย่างหวาดระแวง เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เราคาดเดาไม่ได้เลยว่าเราตกเป็นเป้าหมายของฝ่ายไหนกันแน่ ระหว่างเป็นเป้าหมายของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามพวกเรามาก่อน หรือเป็นเป้าหมายของฝ่ายผู้ก่อการร้ายซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร

"อย่างผมเองได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆกับชุมชนมาก็มาก บางกิจกรรมส่งผลกระทบต่อกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ซึ่งก็โดนข่มขู่เสมอ เพียงแต่เราไม่ได้ใส่ใจตรงนี้ แต่ก็ระวังตัวเองเสมอ แม้แต่คุยผ่านโทรศัพท์ หรือคุยกับสื่อต่างๆก็ต้องระวังเต็มที ความจริงสถานการณ์คุกคามการทำกิจกรรมของนักศึกษาก็มีมานานแล้ว เมื่อก่อนเป็นไปในรูปแบบการข่มขู่ บางทีก็อุ้มไปสอบแล้วก็ปล่อย ก็ยังดีนะ ดีกว่าอุ้มหายไปเลย และก็ยังไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตอย่างนี้"

มอ.ปัตตานี เป็นสถานศึกษาที่มีความหลายหลายในตัวเองทั้งในด้านมิติศาสนา เชื้อชาติและวัฒนธรรมแต่จุดเด่นพิเศษที่น่าสนใจคือท่ามกลางความหลากหลายมีการดำรงอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่นและสงบสุขตลอดมา ที่นี่มีนักศึกษาจากหลายพื้นที่เข้ามาเรียนร่วมกัน โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นใคร มาจากไหน เชื้อชาติหรือศาสนาใด เมื่อเข้ามาสู่ ณ ที่แห่งนี้ ทุกคนคือพี่น้องกัน

เขากล่าวว่า มอ.ปัตตานีจึงเสมือนชุมชนเล็กๆ ที่เกื้อหนุนคนในชุมชน และเป็นเหมือนครอบครัวขนาดใหญ่สำหรับรุ่นน้องที่เข้าใหม่โดยมี "พี่มาลัย" รุ่นพี่รหัสการเรียนสูงกว่าเป็นผู้คอยดูแลน้องๆด้านการให้คำปรึกษารวมถึงการแนะนำด้านการเรียนและการปรับตัวใช้ชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และด้วยการปลูกฝัง สั่งสอน การบ่มเพาะความรู้รวมถึงประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่ได้ผลิตผลคนดี มีวิชาความรู้ ออกไปรับใช้สังคมมากมาย

นักศึกษาคนเดิมพูดติดตลกแบบเศร้าๆ ว่า เดี๋ยวนี้ มอ.ปัตตานีดูๆไปก็คล้ายสมรภูมิรบเข้าทุกทีๆ ที่นี่นักศึกษาเคยใช้จักรยานขี่ไปทั่วมหาลัยเพื่อเข้าเรียนตามตึกต่างๆ ตอนนี้ก็ยังมีคนขี่จักรยานอยู่นะ แต่ต่อไปคงหันมาขี่มอเตอร์ไซด์มากขึ้นเพราะหากขี่จักรยานคงหนีไม่ทันคนที่มาซุ่มทำร้าย ในมอ.เองก็มีทหารถือปืนเดินไปเดินมาเป็นแบรกกราวด์ด้วย ก็ดูเป็นบรรยากาศแปลกๆดีนะ

สถานการณ์ภาคใต้เองเริ่มตั้งแต่ต้นปี 46 นี่จะหมดปี 47 แล้วก็ยังไม่คลี่คลาย พวกเราเองจะหวังพึ่งเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่รู้จะพึ่งได้แค่ไหน นักกิจกรรมก็เคยโดนคุกคามมาก่อน ใครออกมาแสดงทัศนะหรือพูดอะไรมากตอนนี้ก็ไม่ดีเพราะจะถูกเพ่งเล็งจากทั้งสองฝ่าย ทางที่ดีก็คือดูแลกันเองไปก่อน จะไปไหนมาไหนก็ต้องระวังมากขึ้น ระวังทั้งคำพูดและร่างกาย เขาเล่าด้วยน้ำเสียงหม่นๆ

น.ส.ภาวินี ไชยภาค นักศึกษาปริญญาโทสตรีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตประธานสภานักศึกษา มอ.ปัตตานี ปี 41 เล่าว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ยิงนักศึกษาที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรกันแน่และคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนี้อีกต่อไป ตอนที่เรียนที่มอ.ปัตตานีคิดว่าที่นั่นเป็นสายพานที่ทำให้เราพัฒนาทางความคิดเพื่อก้าวไปสู่จุดอื่นๆ และโดยสภาพแวดล้อมเพราะตอนนั้นเป็นประธานสภานักศึกษาทำให้เรามีพลังในการทำกิจกรรมนักศึกษาได้มากขึ้น

น.ส.ภาวินี กล่าวต่อว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ต้องแก้ด้านการเมือง ด้านจิตวิทยา ต้องใจเย็น ต้องนิ่งมากกว่านี้ เพราะยิ่งใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาหรือเข้าไปควบคุมจัดระเบียบมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ระเบิดมากขึ้น ยิ่งท้าทายเขามากขึ้น เมื่อสถานการณ์ระเบิดมีแต่กลุ่มควันก็ยิ่งมองไม่เห็นตัวเขา การแก้ปัญหาแบบที่เรามองไม่เห็นตัวการแล้วใช้วิธีแก้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันมีแต่จะทำให้คนปกติอยู่ในความหวาดกลัวและแก้ปัญหาไม่ได้

จากม่านหมอกของควันกระสุน ปนกลิ่นคละคลุ้งของดินปืนและคาวเลือดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำลังลุกลามมาถึงสถานศึกษาที่บ่มเพาะปัญญาชน ผู้จะเป็นกำลังหลักของประเทศต่อไป นี่จึงเป็นเรื่องน่าจับมองต่อว่าสถานการณ์ภาคใต้จะเป็นอย่างไรต่อไปและภายใต้ม่านฝุ่นของดินปืนใครเป็นผู้อยู่ในเงา ?

ซาบี ดาหวูด
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net