เชียงรายตื่นถก "เอา-ไม่เอา" นิคมฯเชียงแสน

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-14 ต.ค. 47 ชาวเชียงรายตื่นกระแสสร้างนิคมอุตสาหกรรมเชียงแสน กลุ่มคัดค้านนัดหมายแสดงความเคลื่อนไหวในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ด้านนายกเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนยืนยันผังเมืองใหม่เน้นการอนุรักษ์

หลังจากที่มีกระแสโครงการสร้างนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน โดยมีบริษัทร่วมไทยจีนพัฒนา อันเป็นการร่วมทุนในนามกลุ่มปภามาศ ได้ทำการกว้านซื้อที่ดินในพื้นที่บ้านศรีบุญยืน ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงรายประมาณ 3,000 ไร่หลังจากนั้น ได้เสนอพื้นที่ดังกล่าวสร้างนิคมอุตสาหกรรม และอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเริ่มมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสมของโครงการนี้จำนวนมาก ทั้งในกลุ่มของนักธุรกิจ และ กลุ่มนักอนุรักษ์ ผ่านเว็บไซต์http://www.e-chiangrai.comถึงขั้นที่นัดหมายให้ผู้ที่มีความเห็นคัดค้านรวมตัวกันในการประชุมสัมมนาเรื่อง มิติใหม่การค้าการลงทุนตามแนวชายแดนภาคเหนือ และนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน ที่โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ต ในบ่ายวันที่ 15 ต.ค.นี้

นายมิติ ยาประสิทธิ์ ประธานกลุ่มรักษ์เชียงแสน เปิดเผยว่า กลุ่มของตนได้รวมตัวกันมาตั้งแต่ปลายปี 2545 เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์เมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน และล่าสุดได้ให้ความสนใจโครงการนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน ที่กำหนดจะสร้างในเขต ต.ศรีดอนมูล โดยอยู่ระหว่างการสำรวจความเห็นของชาวเชียงแสน ทั้งนี้โดยส่วนตัวเกรงว่า โครงการนี้จะมีผลทำให้ความเป็นเมืองประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป

นายบุญส่ง เชื้อเจ็ดตน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน เปิดเผยว่า เวลานี้กรมโยธาธิการและผังเมืองอยู่ระหว่างการเตรียมประกาศผังเมืองเฉพาะเชียงแสน ซึ่งตนเคยเสนอว่า ผังเมืองนี้ควรจะครอบคลุมพื้นที่ตำบลเวียงเชียงแสนทั้งหมด เพราะเป็นเขตเมืองประวัติศาสตร์มีซากเมืองเก่า 3 จุด และควรจะเน้นให้ผังเมืองที่จะประกาศควบคุมกิจกรรมที่ขัดแย้งต่อการอนุรักษ์

นายเกรียงศักดิ์ สุประการ นายกอบต. ป่าสัก อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ต่อกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ กล่าวว่า ทางอบต.ได้เตรียมการรองรับเอาไว้ทั้งสองทางก็คือ จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม และความเสื่อมโทรม ขณะเดียวกันก็เตรียมการเพื่อให้เกิดประโยชน์และรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เช่นอาจจะมีการลงทุนทำที่พักรองรับแรงงาน

นายเกรียงศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า มีความเคลื่อนไหวซื้อขายที่ดินในเขตพื้นที่อบต.ของตนจำนวนมาก เช่น ที่ดินประมาณ 1,000 ไร่ที่ติดกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมมีนายทุนจากภายนอกเข้าไปทำสัญญามัดจำกับชาวบ้านแล้วหลายราย มูลค่าการซื้อขายอยู่ระหว่างไร่ละ 70,000-100,000 บาทโดยมีการทำสัญญามัดจำไร่ละ 30,000-40,000 บาท

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท