ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-28 ต.ค.47 วานนี้ ที่ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย หอมแดง กระเทียม จากภาคอีสานและภาคเหนือ กว่า 200 คน ร่วมกันจัดเวทีค้านการค้าเสรีไทย-จีน

นายพีรพงษ์ ฉัตรวัฒนากำจร ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จาก อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า อ.ไชยปราการ เป็นพื้นที่ที่ปลูกกระเทียมมากที่สุดในเชียงใหม่ โดยเฉพาะบ้านดงป่าสัก มีการปลูกประมาณ 5,000 ไร่ ต่อมาเมื่อรัฐบาลได้เปิดการค้าเสรีไทย-จีน ตั้งแต่เดือน ทำให้เริ่มรู้ว่าได้ส่งผลกระทบต่อผู้ปลูกกระเทียมเป็นอย่างมาก เพราะมีการนำเข้ากระเทียมจากจีน ซึ่งมีราคาถูก คนก็แห่ไปซื้อกระเทียมจีนกันหมด

"ทุกวันนี้ เกษตรกรมีหนี้สิน ปีหนึ่งปลูก 2 ครั้ง ขาดทุนทั้ง 2 ครั้ง เพราะทุกคนไม่รู้ทิศทางกำหนดของราคา ของตลาดได้เลย รัฐบาลบอกว่า FTA ทำให้ไทยได้เปรียบ ถามว่าใครได้เปรียบกันแน่ รัฐสนับสนุนการส่งออก แต่ไม่ได้สนับสนุนเกษตรกรรายย่อย" นายพีระพงษ์ กล่าว

นายสุ่น ป่งกิน เกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง จาก อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ก่อนนั้น ปี2545 ทางศรีสะเกษ มีการปลูกหอมแดงกันมาก โดยเกษตรกรเดินทางไปซื้อพันธุ์หอมแดง ที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถร์ ไปปลูกที่บ้าน ซึ่งผลผลิตดีมาก หอมหัวโต สีแดง

"แต่พอมาปี 2546 หลังจากมีการค้าเสรีไทย-จีน ราคาหอมหัวแดงลดฮวบลงทันที จากกิโลกรัมละ 28 บาท ลดลงเป็น 15, 12 และ 4 บาท อย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายขายไม่ได้เลย เพราะช่วงนั้น มีการนำเข้าหอมหัวแดงจากประเทศใกล้เคียง ไม่ว่าจาก จีน อินเดีย อินโดนีเซีย และลาว ซึ่งรัฐบาลบอกว่า…ไม่เป็นไร จะประกันราคาให้ แต่จริงๆ มันทำไม่ได้ เพราะหอมแดงทิ้งไว้ 2-3 เดือนก็เน่า ผมว่า…เอฟทีเอทำให้ผู้ปลูกหอมแดงตายแน่" นายสุ่น กล่าวด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง

นายอนันต์ วังเวียง ตัวแทนเกษตรผู้ปลูกลำไย จาก อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ได้กล่าวว่า เคยนำปัญหานี้ไปเสนอให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.กระทรวงเกษตรฯ ให้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ว่าต้นทุนของการผลิตของลำไย นั้นอยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 13-15 บาท แต่ขายได้เพียงกิโลกรัมละ 5-6 บาท แต่เขากลับไปเสนอ ครม. ว่าต้นทุนการผลิตคือ 2.50 บาท

"เป็นที่น่าสงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้น หลังจากเปิดการค้าเสรีไทย-จีน รัฐบาลบอกว่า จะทำให้เกษตรกรอยู่ดีกินดี แต่กลับไม่สนใจ ไม่แก้ปัญหา กลับไปเอาใจคนรวย คนส่งออกเพียงฝ่ายเดียว" นายอนันต์ กล่าว

นายสมศักดิ์ โยอินชัย ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ กล่าวว่า แค่เริ่มต้นการค้าเสรีไทย-จีน ก็เริ่มมีการผูกขาดแล้ว สังเกตได้จากการรับซื้อลำไยจำนวน 2 แสน 5 หมื่นตัน ที่ผ่านมา มีบริษัทเข้าไปรับซื้อเพื่อทำการส่งออกเพียงไม่กี่บริษัท มีการฮั้วประมูลการแปรรูปลำไยอบแห้ง มีการผูกขาดทั้งภาคเหนือ ซึ่งผลกระทบทั้งหมดย่อมตกอยู่ที่เกษตรกร

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน