Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ- 3 พ.ย.47 "ผมคิดว่า การแก้ปัญหาการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่สายเกินแก้ หากนายกฯ ไม่มองปัญหามิติเดียว และไม่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเพียงคนเดียว ทั้งนี้ การที่รัฐบาลไม่ยอมรับชาติพันธ์และศาสนาของคนมาเลย์ มุสลิมที่เป็นคนไทยเป็นเจ้าของแผ่นดินที่นับถือศาสนาอิสลาม เคยมีประวัติศาสตร์ความเป็นรัฐปัตตานีอิสระมาก่อน มีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากคนไทยพุทธ และต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย แต่เขายังไม่ลืมสิ่งเหล่านี้ ยังเป็นไฟสุมขอนอยู่พร้อมที่จะลุกเป็นไฟได้ทุกเมื่อ หากรัฐบาลเอาน้ำมันเทสาดเข้าไป" นายนิพนธ์ บุญญภัทโร อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ระบุ

นายนิพนธ์กล่าวว่า รัฐบาลควรยุติการความรุนแรงเพื่อแก้ปัญหาพร้อมทั้งยุติบทบาทของทหาร ตำรวจลงในระดับหนึ่ง รวมทั้งให้ยกเลิกกฎอัยการศึก แล้วหันมาใช้เมตตาธรรม ตามหลักของศาสนาพุทธ และหลักของศาสนาอิสลามด้วยการตั้งองค์กรอิสระที่เป็นกลางอย่างแท้จริง ใช้สันติวิธี คิดร่วมกันทุกฝ่ายกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ฝ่ายพลเรือนเป็นฝ่ายนำทหารและตำรวจ

ทั้งนี้รัฐควรกำหนดให้ปัญหาภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ และต้องนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง

นายนิพนธ์ เสนอให้องคมนตรี คือนายพลากร สุวรรณรัฐ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นแกนนำร่วมศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการสอบสวนผู้กระทำผิดที่ สภ.อ.ตากใบ หากเป็นไปตามนี้ได้ ก็เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้จะไม่สายจนเกินแก้

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net