นายปริญญา เทวานฤมิตกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เสนอรัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายแก้ไขปัญหาภาคใต้โดยไม่ใช้ท่าทีแข็งกร้าว พร้อมยกตัวอย่างกรณีของพล.เอกเปรม ติณสูลานนท์สมัยสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ใช้ "การเมืองนำการทหาร" โดยใช้วิธีละมุนละม่อม

"การปราบปรามความต่างทางอุดมการณ์ด้วยท่าทีแข็งกร้าวสมัย 6 ตุลา 19 ทำให้นักศึกษาเข้าป่าจำนวนมาก ส่งผลให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแข็งแกร่งมาก กระทั่งปี 2523 เกิดนโยบาย 66/2523 โดยพล.เอกเปรม ติณสูลานนท์ ทำให้ไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่จบความแตกต่างทางอุดมการณ์กับคอมมิวนิสต์อย่างสวยงาม ทำไมไม่ใช้แบบอย่างอันนั้น"

นายปริญญากล่าวเสริมด้วยว่านโยบายที่ผ่านมาของรัฐบาลซึ่งเลือกใช้ความรุนแรง เป็นการเชื้อเชิญให้เกิดการตอบโต้ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง อีกทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งในภาคใต้ภายใต้รัฐบาลนี้ก็เข้าสู่ภาวะที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา

"ปัญหาภาคใต้นั้นมีมานานแล้ว แต่ที่ฆ่ากันตายเป็นร้อย ๆ มันเพิ่งมามีปี 2545" นายปริญญากล่าว พร้อมให้ข้อมูลว่า ประเทศไทยไม่ปรากฏกรณีผู้ต้องหาเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่เหตุการณ์เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2535 เป็นต้นมา แต่กลับมาปรากฏอีกครั้งในเหตุการณ์ที่ตากใบ

"ผมเกรงว่าระบิดลูกต่อไปจะมาเกิดที่กรุงเทพฯ และความรู้สึกของคนกรุงเทพฯที่จะพูดว่า ฆ่ามัน ๆ ก็จะยิ่งแรงขึ้นวงจรแห่งความเกลียดชังกำลังหมุนเร็วขึ้นๆ" นายปริญญากล่าวในที่สุด

ด้านผศ. มาลี พฤกษ์พงศาวลี กล่าวว่า ประชาชนทั่วไปต้องตระหนักว่าเราเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากท่าทีของรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงและไม่รับผิดชอบ มันเป็นเรื่องของการเชื้อเชิญให้เกิดการใช้ความรุนแรงมากขึ้น

"มันไม่ใช่ประเด็นเชิงมนุษยธรรมเท่านั้น แต่เป็นประเด็นเรื่องของสวัสดิภาพและความปลอดภัยของพวกเราทุกคน"

ผศ.มาลีกล่าวว่าประชาชนไทยกำลังตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงพร้อมกล่าวถึงประกาศขององค์การสหประชาชาติว่า ได้มีคำเตือนให้ชาวต่างประเทศหลีกเลี่ยงสถานที่สำคัญ ๆ เนื่องจากมีรายงานเกี่ยวกับการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ เพื่อตอบโต้รัฐไทยจากกรณีตากใบ

-------------------

หลักการพื้นฐานนโยบาย 66/2523 ซึ่งพล.เอกเปรม ติณสูลานนท์ ใช้แก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์กับพรรคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ปัญญาชนที่หันหน้าเข้าป่าภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 กลับเข้าสู่เมืองในฐานะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยไม่ถูกเอาผิด และถือเป็นการเอาชนะพรรคคอมมิวนิสต์อย่างสวยงามและสันติโดยอย่างที่ไม่ปรากฏที่ใดในโลก
1.สันติภาพต้องมาก่อนสงคราม
2.ศัตรูทำลายกันเอง
3.เสรีภาพขั้นพื้นฐาน
4.การประนีประนอมเพื่อชัยชนะ

พิณผกา งามสม
ประชาไทรายงาน