ประชาไท - 9 พ.ย. 47 "ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศยากจน คนไทยต้องได้รับหลักประกันในเรื่องการศึกษา บริการสาธารณสุข หลักประกันการมีงานทำ ที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน แต่ขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นปัญหา" นายจอน อึ๊งภากรณ์ ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวบนเวทีตรวจสอบนโยบายคุณภาพชีวิตไทย ในงานเหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว ที่เมืองทองธานี

"ถามว่าจะเอาเงินมาจากไหนมาจัดการปัญหาที่พูดมา ผมคิดว่างบด้านนี้ต้องมาก่อนส่วนอื่น ในต่างประเทศเขาใช้ระบบภาษีก้าวหน้า รัฐบาลนี้มีเสียงมากพอที่จะขึ้นภาษีทางตรง ทำภาษีมรดกให้เป็นจริง เก็บจากคนรวยให้มากขึ้น เพื่อมาใช้ในโครงการที่เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนยากจน" นายจอนกล่าว

นายจอนยังกล่าวถึงปัญหาการศึกษาว่า ขณะนี้คนยากจนยังไม่ได้เรียนฟรีจริง เพราะมีการเก็บค่าใช้จ่ายมากมาย นอกจากนี้รัฐบาลยังโละระบบกู้เงินเรียนระดับมัธยมที่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย แทนที่ด้วยทุนกู้เฉพาะระดับอุดมศึกษาที่ให้เฉพาะค่าเล่าเรียน ซึ่งจะต้องสูงขึ้นจากกการออกนอกระบบ และอาจลอยตัวได้ในระยะยาว

"แต่รัฐบาลก็ทำเรื่องดีนิดหนึ่งที่ให้คืนหนี้ตามสภาพรายได้ ถึงอย่างไร เยาวชนก็ควรมีโอกาสในการเล่าเรียนที่เท่าเทียม โดยไม่ต้องมีหนี้สินพะรุงพะรัง" นายจอนกล่าวพร้อมทั้งพูดถึงปัญหาอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาสวัสดิการผู้สูงอายุที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะปัจจุบันรัฐช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ยากจนได้เพียงครึ่งหนึ่ง ด้วยเงินเดือนละ 300 บาทเท่านั้น

เสนอขุดรากปรัชญาการศึกษาไทย

ด้านนางเตือนใจ ดีเทศน์ ส.ว.เชียงราย กล่าวว่า เด็กไทยห่างไกลจากรากเหง้าของความเป็นไทยและศาสนา ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้จักตนเอง ชุมชน และประเทศน้อยลงทุกที

"อยากเสนอปรัชญาการศึกษาที่จะสร้างให้เด็กมีคุณภาพ โดยให้มีการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น ให้ผู้รู้ในท้องถิ่นมีบทบาทมากขึ้น รวมทั้งให้มีหลักสูตรหลายภาษา หลายวัฒนธรรม โรงเรียนชายขอบน่าจะสอนเป็นภาษาท้องถิ่นของตนเองควบคู่ไปกับภาษากลาง" นางเตือนใจกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของงาน มีประชาชนที่เข้าฟังเริ่มแสดงความไม่พอใจที่บนเวทีไม่มีทีท่าจะเปิดโอกาสให้ประชาชนซักถาม กระทั่งมีการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่จนได้รับการเปิดโอกาสให้ซักถาม ซึ่งก็มีผู้ให้ความสนใจร่วมซักถามและเสนอแนะประเด็นต่างๆ มากมาย

ประชาไทรายงาน