ประชาไท- 10 พ.ย. 47 ในงานเปิดตัวหนังสือ "The Salween Under Threat" มีเวทีเสวนาสถานการณ์แม่น้ำสาละวินและประเด็นที่ควรตระหนักหากมีการสร้างเขื่อนสาละวินโดยตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน

นายจายจาย ตัวแทนกลุ่มปกป้องแม่น้ำสาละวิน (Salween watch) รัฐฉาน ประเทศพม่า กล่าวว่า
หลังจากชาวบ้านถูกบังคับย้ายถิ่นออกจากพื้นที่ที่จะสร้างเขื่อนสาละวินแล้ว ทำให้ชาวบ้านรวมตัวกันไม่ได้ ทำมาหากินไม่ได้ หากกลับไปอีกก็จะไม่ปลอดภัย อาจถูกยิงได้

ความปลอดภัยในชีวิตพวกเราคือ การมีย่ามสะพาย ในนั้นจะมีถั่วเน่า ข้าวเหนียว น้ำ ถ้ามีทหารพม่าบุกเข้ามาก็จะถือย่ามวิ่งหนีไปได้ หากมีการสร้างเขื่อนขึ้นมาจริงๆ ชาวบ้านจะถูกปราบปรามหนักแล้วคงจะหลบหนีเข้ามาในไทยมากขึ้น

" ชุมชนในพม่าชาวบ้านแทบจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร อยู่อย่างหวาดระแวง ความคิดที่จะคัดค้านนั้นเห็นจะยาก ตอนนี้ที่ทำได้คือ ประสานงานให้ชาวบ้านรับรู้ข้อมูลและมีความตระหนักในปัญหาที่จะเกิดขึ้น ให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วม จากการพูดคุยแต่ก็ยังไม่สามารถขยายวงกว้างได้อาศัยสื่อวิทยุ อ่านหนังสือ จดหมายข่าว" นายจายจาย กล่าว

นาย ทู คลิ ตัวแทนจากกลุ่มปกป้องแม่น้ำกะเหรี่ยง(Karen River Watch) รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า กล่าวว่า ตอนนี้ชาวกะเหรี่ยงต้องอพยพหนีการกดขี่ของทหารพม่าเข้าสู่ประเทศไทย ขณะที่บ้านของพวกเขาถูกเผา เพราะอยู่ในพื้นที่ที่จะสร้างเขื่อน ปี 1992 มีชาวบ้าน 1 แสนคน ถูกฆ่าและถูกบังคับให้ย้ายออกจากพื้นที่

นายทู คลิกล่าวว่า ท้ายที่สุดพวกเราต้องหนีไปอยู่ป่า ต้องอยู่ภายใต้ความกลัว ความยากลำบาก ต้องหลบซ่อนตัวจากการตามล่าของทหารพม่า ปลูกข้าวก็ไม่ได้ เด็กๆ ก็ไม่มีการศึกษา เพราะต้องหนีตลอดเวลา

นายทูคลิ กล่าวต่อว่า ประชาชนไม่ทราบว่าหากมีการสร้างเขื่อนแล้วจะมีปัญหาอย่างไร คนส่วนใหญ่กลัวทหารพม่าทำร้าย แต่ขณะนี้ชาวบ้านก็เริ่มคิดว่า การสร้างเขื่อนมีความเป็นไปได้เพราะการสร้างถนนที่เกณฑ์แรงงานไปสร้างนั้นมุ่งไปยังพื้นที่ที่จะสร้างเขื่อน

" การดำเนินการตอนนี้ ที่พวกเราทำได้ คือการพูดคุยแลกเปลี่ยน คนที่อยู่ตามเขตชายแดนก็จัดประชุมชาวบ้านบริเวณสร้างเขื่อน เพราะในพม่านั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้สื่อกระแสหลัก" นายทูคลิ กล่าว

ด้านนายสะท้าน ชีววิชัยพงศ์ หนุ่มชาวกะเหรี่ยงจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ชาวบ้านรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนสาละวินเพียง 30% การประชาสัมพันธ์แทบไม่มีเลย มีเฉพาะผู้นำชุมชนที่ทราบข่าวแล้วนำไปเล่าให้ฟัง

หากเขื่อนสาละวินเกิดขึ้น พี่น้องพม่าและไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยงจะได้รับผลกระทบ แต่เสียงของคนเหล่านี้ยากที่จะมีคนได้ยิน แต่ถ้าวันไหนจะมีการสร้างเขื่อนเกิดขึ้นพวกเราก็จะสู้ต่อไป

กิติยวดี สีดา
ประชาไทรายงาน