ศูนย์ข่าวภาคเหนือ- 17 พ.ย.47 ชาวบ้านแม่เมาะหวั่นว่า รัฐหลอกให้ชาวบ้านดีใจ หลังครม.ลงมติเห็นชอบให้อพยพ 3 หมู่บ้าน แต่ไม่มีการระบุระยะเวลาที่ชัดเจน วิตกรัฐทำไปเพื่อลดกระแสหลังจากที่เรียกร้องต่อสู้มานานกว่า 10 ปี

หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2547 ที่ผ่านมา และได้มีการลงมติเห็นชอบให้มีการอพยพ 3 หมู่บ้าน คือบ้านห้วยคิง ม.6 ต.แม่เมาะ, บ้านห้วยเป็ด ม.1 ต.แม่เมาะ, และบ้านหัวฝาย ม.1 ต.บ้านดง โดยให้ย้ายไปอยู่ที่บ้านผาลาด ซึ่งเป็นเขตรอยต่อ อ.แม่เมาะ กับ อ.เมือง จ.ลำปาง ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 12 กิโลเมตร บนพื้นที่ 1,400 ไร่

นางมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ แกนนำชาวบ้านห้วยคิง ม.6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า หลังทราบข่าว ชาวบ้านทุกคนต่างดีใจกันมาก หลังจากที่ต้องต่อสู้ยืดเยื้อมายาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งการเรียกร้องที่ผ่านมา ไม่เคยเงื่อนไขอะไรซับซ้อน เพียงแต่ขอให้มีการอพยพย้ายชาวบ้านออกไปให้ไกลจากพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เพราะทนไม่ไหวที่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างหวาดวิตก ในความไม่ปลอดภัยในชีวิต ที่ต้องทนสูดอากาศจากสารพิษ และไม่รู้ว่าจะต้องล้มตายกันอีกเมื่อใด หากยังอยู่กันที่นี่

"สิ่งที่เราเรียกร้องก็คือ ขอให้ทางรัฐเร่งอพยพโยกย้ายชาวบ้านไปอยู่ในที่แห่งใหม่ โดยขอให้จัดสรรที่ดิน พร้อมปลูกสร้างบ้าน ช่วยฟื้นฟูอาชีพใหม่ให้แก่ชาวบ้าน และที่สำคัญ อยากให้รัฐสร้างศูนย์คลินิกเวชศาสตร์ในชุมชน มีการจัดแพทย์เฉพาะทาง เข้าไปดูแลชาวบ้านที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ จากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นจำนวนมาก ซึ่งบางคนต้องมีชีวิตอยู่กับสายท่อถังออกซิเจนตลอดเวลา" นางมะลิวัลย์

นางมะลิวัลย์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ชาวบ้านต่างรอความหวัง ว่ารัฐจะรีบดำเนินการเมื่อไร แต่ก็รู้สึกหวั่นใจว่า สิ่งที่รัฐรับปากนั้น ไม่ได้ระบุระยะเวลาว่าจะย้ายเมื่อใด ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกว่าจะหลอกให้ชาวบ้านดีใจ เพื่อลดกระแสการเรียกร้อง เหมือนกับการที่รัฐเคยรับปาก ว่าจะอพยพชาวบ้านหางฮุง แต่สุดท้ายก็ยังยืดเยื้อ ยังไม่มีการอพยพแต่อย่างใด

"ขอวิงวอนให้รัฐคำนึงถึงหัวอกชาวบ้านด้วย ขอให้เร่งดำเนินการโดยด่วนตามที่รับปากไว้ เพราะเราไม่ขออะไรมาก ขอเพียงมีชีวิตอยู่รอดเท่านั้น" นางมะลิวัลย์ กล่าว

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน