Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ/17 พ.ย.47 กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่มติ ครม.อนุมัติอพยพชาวบ้านแม่เมาะ 3 หมู่บ้านออกนอกพื้นที่อันตรายจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะนั้น เป็นการลดกระแสความขัดแย้ง แต่อาจหวังผลในเรื่องการขยายพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่อีก 8,400 ไร่

นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประชุมคณะรัฐมนตรี และมีมติให้มีการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยใกล้โรงไฟฟ้าแม่เมาะนั้น คงเป็นการลดกระแสการเรียกร้อง ความขัดแย้งระหว่างรัฐ โรงไฟฟ้า กับชาวบ้าน แต่ทราบข่าวว่า ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) มีโครงการขยายพื้นที่ อีก 8,400 ไร่ เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ซึ่งอาจเป็นพื้นที่หมู่บ้านเดิม หากเป็นเช่นนี้จริง การอพยพชาวบ้านนั้น ได้สร้างผลดีต่อโรงไฟฟ้ามากขึ้น

นางมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ กล่าวว่า รัฐหรือว่าโรงไฟฟ้า จะต้องคำนึงถึงชีวิตและความเป็นอยู่ของคนรอบๆ พื้นที่ที่อยู่ติดกับโรงไฟฟ้านั้นด้วย และต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เพียงแค่ดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขเฉพาะผู้ที่อพยพ แต่ปล่อยให้คนที่ยังอาศัยอยู่ที่เดิมรับกรรมรับผลกระทบต่อไป

รายงานแจ้งว่า ในขณะที่รัฐมีมติให้อพยพย้ายชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน ออกไปอยู่ที่บ้านผาลาด อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะไปประมาณ 12 กิโลเมตรนั้น แต่ยังมีชาวบ้านอีกจำนวน 30% ที่ยังไม่ยอมย้ายออกนอกพื้นที่ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้รับผลประโยชน์ เป็นผู้รับเหมางานในโรงไฟฟ้า และอีกส่วนหนึ่งได้เข้าไปเป็นพนักงานของการไฟฟ้า กับอีกกลุ่มหนึ่ง คือ เป็นกลุ่มตัวแทนหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า นายหน้าของการไฟฟ้า

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net