"การ "เลื้อย" ในบ้านเด็กชาย มันอาจจะไม่ใช่แค่การที่เด็ก ได้รับอิทธิพล จากการดูวีดีโอโป๊ แล้วมีอารมณ์ทางเพศ จึงหันไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันเอง แต่ความจริงแล้วมันมีความสัมพันธ์เชิงอำนาจอยู่ด้วย เพราะบางทีพวกขาใหญ่ ก็จะเลื้อยกับเด็กที่เป็น เกย์ เป็นตุ๊ด หรือเด็กหน้าตาดีๆ ที่เข้ามาใหม่ หรือว่าบางทีมันอาจจะเป็นระบบเลี้ยงต้อย คือ การให้สิ่งของ การเลี้ยงดู ก็ทำให้เด็กผู้ชายหันมามีเพศสัมพันธ์กันเอง เพราะเป็นการตอบแทนบุญคุณได้"

น้องแจ็ค หนึ่งในเยาวชนที่เคยอยู่ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ที่เข้าอบรมในหลักสูตร "เพศศึกษาและสิทธิทางเพศ" ที่จัดโดยโครงการก้าวย่างอย่างมั่นในใจ (PATH) และมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ได้กล่าวถึง "การเลื้อย" ว่า หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายทางทวารหนักในสถานพินิจ ซึ่งเป็นปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในสถานพินิจฯ ที่เกิดจากจัดการปกครองในสถานพินิจที่ให้เด็กปกครองกันเอง จึงเกิดมีระบบขาใหญ่เกิดขึ้น

เยาวชนในบ้านกาญจนาภิเษกยังกล่าวอีกว่า การเลื้อยคงไม่เกิดในบ้านกาญจนาภิเษก เนื่องจากเด็กในบ้านกาญจนาภิเษกมีโอกาสได้กลับบ้าน จึงมีโอกาสได้กลับไปมีเพศสัมพันธ์กับแฟนของตนเอง ไม่จำเป็นต้องหันมามีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน และนอกจากนี้การที่ทุกคนในสถานพินิจ มีความสัมพันธ์แบบเพื่อนตั้งแต่แรก ก็คงจะไม่มีการเลื้อยเกิดขึ้น เพราะเพื่อนก็คงไม่กล้าเลื้อยเพื่อนด้วยกันเอง

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ในสถานบ้านพินิจฯ กล่าวว่า บางทีเหตุการณ์การเลื้อยก็เป็นการสมัครใจกันอง โดยเฉพาะพวกตุ๊ด พวกเกย์ ซึ่งเด็กพวกนี้มีประวัติการค้าประเวณีมาอยู่แล้ว การเลื้อยโดยขาใหญ่นั้นเกิดขึ้นน้อยมาก

หทัยรัตน์ สุดา ผู้ประสานงานโครงการก้าวย่างอย่างมั่นใจ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการทำงานในการสื่อสารเรื่องเพศกับเยาวชน โดยได้จัดหลักสูตรเพศศึกษาและสิทธิทางเพศ ในสถานพินิจฯ ซึ่งมีทั้งหมด 12 คาบเรียน ไม่เพียงแต่การทำความเข้าใจเรื่องของสุภาพและการป้องกันเท่านั้น แต่ยังพยายามให้เยาวชนได้คิดถึงความเข้าใจในตัวเอง และเพศตรงข้าม ให้ทุกคนเคารพตัวเอง และตระหนักถึงคุณค่าในตัวเอง เพราะเมื่อเขาเคารพในตัวเองแล้ว เขาก็จะเคารพในความหลากหลายของเพศอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

สันติชัย อาภรณ์ศรี
ประชาไทรายงาน