ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-25 พ.ย.47 สำนักข่าว S.H.A.N รายงานแจ้งว่า เมื่อกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลทหารพม่าได้แจกเอกสารให้กับกลุ่มหยุดยิงต่างๆ โดยมีข้อความพาดหัวว่า "ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มหยุดยิง ช่วงกำลังสร้างสันติภาพ" ซึ่งหลายๆ ฝ่ายต่างเข้าใจว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความกดดันของรัฐบาลทหารที่จะมีต่อกลุ่มหยุดยิงในอนาคต

ทั้งนี้ภายหลังจากที่พลเอกขิ่นยุ้นต์ถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางพลตรีมิ้นต์หล่าย
แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้พบปะกับตัวแทนของกลุ่มหยุดยิงต่างๆ ในพม่า พร้อมชี้แจงว่า ทางรัฐบาลได้เปลี่ยนเฉพาะตัวผู้นำ แต่นโยบายทุกประการยังเหมือนเดิม พร้อมทั้งขอให้กลุ่มหยุดยิงทำการติดต่อกับกองทัพโดยตรง แทนหน่วยข่าวกรองดังเช่นที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันเขาได้แจกเอกสารซึ่งเขากล่าวว่าเป็นข้อตกลงให้กับกลุ่มหยุดยิงต่างๆ 13 ข้อ

ประกอบด้วย 1. ห้ามคบหาสมาคมกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล 2. ยกเลิกการต่อสู้ด้วยอาวุธ 3. ยุติการขยายกำลังพล รวมถึงการเกณฑ์ทหารและฝึกทหาร 4. ให้ยื่นรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนกำลังพลให้กับทางรัฐบาล
เพื่อที่จะสามารถอำนวยความสะดวกต่อการช่วยเหลือ 5. ห้ามรับเงินสนับสนุนและเก็บภาษีฝิ่น 6. ห้ามปล้นสะดมและทำร้ายราษฎร 7. การเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐบาล หากต้องการเดินทางออกนอกพื้นที่ที่กำหนดไว้ ขอให้แจ้งล่วงหน้าและห้ามพกพาอาวุธขณะเดินทาง

8. ห้ามคบหาสมาคมกับพรรคการเมืองต่างๆ ถึงแม้จะเป็นพรรคที่รัฐบาลยอมรับก็ตาม 9. ห้ามแทรกแซงกิจการการปกครอง รวมทั้งการบริหารและการตุลาการ 10 .ให้เจาะจงพื้นที่ในการเสนอโครงการพัฒนาต่างๆ อย่างชัดเจน แทนที่กำหนดขยายปกคลุมเป็นวงกว้าง 11. ทางรัฐบาลจะดูแลและช่วยเหลือถึงเรื่องที่อยู่อาศัยรวมทั้งอาหารเท่าที่จะเป็นไปได้ 12. ต้องจัดตั้งให้เป็นกองกำลังที่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณชนภายใต้การนำของรัฐบาล และ13. จะต้องสนับสนุนกระบวนการต่อต้านยาเสพติดของรัฐบาลอย่างถึงที่สุด

รายงานยังแจ้งอีกว่า อดีตนายทหารของกลุ่มที่ได้ตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลทหารพม่ารายหนึ่งชี้ว่า ที่ผ่านมาทางรัฐบาล พม่าไม่เคยนำเสนอข้อกำหนดในลักษณะนี้มาก่อน หากเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้น คงไม่มีกองกำลังกลุ่มใดอยากเจรจาหยุดยิง

อย่างไรก็ตามข้อกำหนดต่างๆ ที่ทางรัฐบาลเป็นผู้ทำขึ้นเอง และบอกว่าเป็นข้อตกลงระหว่างกันนั้น อดีตนายทหารคนดังกล่าวบอกว่า เป็นการรวบรวมคำสั่งรวมทั้งคำเรียกร้องต่างๆ ของรัฐบาลหลังเจรจาหยุดยิงจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 13 ข้อนั้นไม่ได้เป็นข้อตกลงที่ทำไว้ก่อนแต่อย่างใด

ส่วนเหตุที่พม่าเปิดโอกาสให้กลุ่มต่อต้านเจรจาหยุดยิงเพื่อแลกกับการพัฒนาต่างๆ ในพื้นที่นั้นๆ เนื่องจากว่าในช่วงปี 2531-2532 นั้น เกิดเหตุการณ์วุ่นวายอย่างหนักจากประท้วงของกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ทางกองทัพพม่าต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับศึกภายนอกใน ขณะที่ตนกำลังเปิดศึกภายในอยู่ และเพื่อที่จะได้ให้กลุ่มติดอาวุธช่วยควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงตามหัวเมืองต่างๆ

ส่วนทางด้านนายพลจ่าวแซง รองประธานองค์การอิสระภาพคะฉิ่น หรือ (KIO- Kachin Independence Organization) ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่เซ็นสัญญาหยุดกับรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เมื่อสิบปีที่ผ่านมา กล่าวว่า ข้อตกลงทั้งหมดดังกล่าวนั้นไม่มีข้อใดอยู่ในข้อตกลงที่เคยทำร่วมกันมาก่อน ทั้งนี้ในระหว่างที่กลุ่ม KIO ทำข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลพม่านั้น มีพยานที่ได้ร่วมเซ็นจาก 3 ฝ่าย คือ ตัวแทนของกลุ่ม KIO จำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ของพม่า จำนวน 3 คน และประชาชนที่สนับสนุนการเจรจาอีกจำนวน 3 คน

และเมื่อไม่นานที่ผ่านมา พลเอกฉ่วยมาน เสนาธิการ 3 เหล่าทัพของพม่า กล่าวเมื่อไม่นานที่ผ่านมาว่า
ทางรัฐบาลไม่เคยเซ็นสัญญาตกลงหยุดยิงอย่างเป็นทางการให้กับกลุ่มใดในบรรดากลุ่มที่ได้เจรจาหยุดยิงทั้ง
17 กลุ่ม

ในส่วนของ นายอ้ายพง เลขาธิการของแนวร่วมปลดแอกปะหล่อง หรือ (Palaung State Liberation Front- PSLF) กล่าวว่า ข้อตกลงที่ทางรัฐบาลพม่าได้ยื่นให้กับชนกลุ่มน้อยต่างๆ ทั้ง 13 ข้อนั้น เป็นไปตามการวางแผนของรัฐบาลเพื่อที่จะทำการกดดันต่อกลุ่มหยุดยิงในอนาคต โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์เมียนม่าร์ ได้รายงานว่า พลโทเต็งเส่ง เลขาธิการคนที่ 1 ของสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ หรือ (SPDC - State Peace and Development Council) ได้เข้าพบปะกับนายต่าทูจ่อ ที่เมืองผาอ่าง เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง พร้อมกับกล่าวว่า ขอให้กลุ่มหยุดยิงต่างๆ ร่วมมือกับทางรัฐบาลและอยู่ในกรอบของกฎหมาย
เพื่อร่วมกันพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม

ทั้งนี้ รัฐบาลทหารพม่าและชนกลุ่มน้อยต่างๆ ได้เริ่มเจรจาหยุดยิงซึ่งกันและกันตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา กลุ่มที่ตกลงล่าสุดคือ กลุ่มพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี หรือ (KNPP-Karenni National Progressive Party) แต่หลังจากที่ทำข้อตกลงผ่านไปแค่ 3 เดือน ทางกองทัพพม่าส่งทหารรุกล้ำเข้าไปในหยุดยิงของกลุ่ม KIO ส่งผลให้ข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายเป็นได้จบสิ้นลงจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์ในพม่าหลายฝ่ายเชื่อว่า ต่อไปนี้ทางรัฐบาลทหารพม่าอาจจะกดดันกองกำลังต่างๆ หนักขึ้น

ฟ้า เวียงอินทร์
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน