กรุงเทพฯ-31 ต.ค.47 สำนักข่าวรอยเตอร์ สุ่มสำรวจประชาชน 1,209 คนในสหรัฐฯ พบว่า ล่าสุดวุฒิสมาชิกจอห์น แคร์รี่ สังกัดพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมเหนือประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช อยู่เล็กน้อยโดยเฉพาะใน 6 รัฐสำคัญ นายแคร์รี่มีคะแนนนำประธานาธิบดีบุชที่ร้อยละ 47 ต่อร้อยละ 46 ในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง หลังจากที่ทั้งคู่มีคะแนนสูสีกันที่ร้อยละ 47 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม

ผลการสำรวจระบุว่า ประธานาธิบดีบุชได้รับความนิยมในสมาชิกพรรครีพับลิกัน นักลงทุน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่แต่งงานแล้ว และชาวคริสต์เคร่งศาสนา โดยมีคะแนนนำในรัฐโคโลราโด นิวเม็กซิโก เนวาดา และโอไฮโอ ส่วนนายแคร์รี่ เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนหนุ่มสาว ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และชาวอเมริกันเชื้อสายละติน โดยมีคะแนนนำเล็กน้อยในรัฐมิชิแกน ไอโอวา ฟลอริดา มินเนโซตา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน

ขณะที่นายราล์ฟ เนเดอร์ ผู้สมัครอิสระ ซึ่งฝ่ายเดโมแครตโทษว่า ดึงคะแนนเสียงส่วนหนึ่งจากอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์ ไปในการเลือกตั้งเมื่อคราวที่แล้ว มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 1.8

ด้านหนังสือพิมพ์ดิ อินดิเพนเดนท์ ในอังกฤษ สุ่มสำรวจพบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่คิดว่า หากวุฒิสมาชิกจอห์น แคร์รี่ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสหรัฐฯ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยทั่วโลก นอกจากนี้ชาวอังกฤษเชื่อว่า ชัยชนะของวุฒิสมาชิกแคร์รี่จะส่งผลเสียต่อนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ ของอังกฤษที่ยืนหยัดเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ในเวทีระหว่างประเทศ

โดยผลสำรวจพบว่า ชาวอังกฤษส่วนใหญ่ไม่ชอบใจที่นายแบลร์และบุชเป็นพันธมิตรกัน และยังจับมือกันโจมตีอิรักด้วย จากการสุ่มสำรวจชาวอังกฤษ 1,009 คน พบว่าร้อยละ 56 เชื่อว่าแคร์รี่ทำให้โลกปลอดภัยได้ ดีกว่าประธานาธิบดีบุชที่มีอยู่ร้อยละ 24 นอกจากนี้ชาวอังกฤษร้อยละ 60 ยังไม่เห็นชอบที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีแบลร์ส่งกำลังทหารไปร่วมรบในอิรัก

ประชาไทรายงาน