Skip to main content
sharethis

สถานการณ์การเมืองภาคเหนือเข้มข้นขึ้นทุกขณะ เมื่อพรรคการเมืองสำคัญทยอยเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กันมากขึ้นเรื่อยๆ

การรุดขึ้นเหนือ ประกาศเจาะไข่แดงพื้นที่ฮาร์ทแลนด์ของไทยรักไทยโดยพรรคมหาชน สร้างความเร้าใจให้คอการเมืองได้พอควร เริ่มด้วยพรรคมหาชนได้เปิดศูนย์ประสานงานอยู่ที่บ้านบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง
ถิ่นเกิด"บิ๊กแม้ว" อีกศูนย์ฯยึดพื้นที่อำเภอฮอดยืนยันเจตนาจะช่วยเหลือพื้นที่ห่างไกล พร้อมประกาศปฏิญญาณล้านนา และที่น่าสนใจคือการโชว์จุดขาย"นายกคนเมือง"กับเขาเหมือนกัน

22 ต.ค.2547 พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคมหาชน พร้อมด้วยนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคฯ นายจเด็จ อินสว่าง เลขาธิการพรรคและคณะได้ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยการพรรคมหาชนในพื้นที่จังหวัด โดยมีดร.วิชัย วงศ์ไชย อดีตส.ส.เชียงใหม่จากพรรคพลังธรรม นายจำนงค์ เปรมประชา
นายกเทศมนตรีตำบลต้นเปาและคณะ นายวิรุฬ คำภิโร อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักไทยลำพูนมาร่วมแสดงความยินดี

แกนนำพรรคมหาชนประกาศมั่นใจว่า 45 เขตเลือกตั้งใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มหาชนจะได้ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ โดยที่เชียงใหม่ เสธฯ หนั่นมั่นอกมั่นใจว่าจะได้ 4 เก้าอี้

เจด็จ อินสว่าง เลขาธิการพรรคมหาชนบอกว่า 10 เขตในเชียงใหม่มหาชนเลือกส่งเพียง 9 เขต เขตที่บายคือเขต 2 เหตุผลเหลือเชื่อว่าเพราะให้เกียรติพายัพ ชินวัตร น้องชายนายกทักษิณที่มาลงเขตนี้ แต่ไม่ตรงกับที่ที่ปรึกษาพรรค พลตรีสนั่นให้สัมภาษณ์ว่าจะส่งลงทั้ง 10 เขต

อย่างไรก็ตามการเปิดตัวพร้อมกันกับครั้งนี้คือเขต 5 มหาชนส่งนายบรรจง ตะริโย อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เขต 2 เชียงใหม่ซึ่งมีคะแนน 25,882 คะแนนถือเป็นอันดับ 2 รองจากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 โดยครั้งนี้ได้เปลี่ยนมาลงสมัครเขต 5 อำเภอสันกำแพง ดอยสะเก็ดและกิ่งอำเภอแม่ออน ซึ่งเป็นถิ่นบ้านเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสู้กับนายพรชัย อรรถปรียางกูร ส.ส.ไทยรักไทยและนายพงษ์ประยูร ราชอาภัย ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์

"ผมมั่นใจมากแม้เขตเลือกตั้งนี้จะเป็นฮาร์ดแลนด์ของไทยรักไทย แต่ผมจะใช้วิธีหาเสียงแบบประชาธิปัตย์คือออกไปชี้แจงนโยบาย และรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน ออกแนะนำตัวโดยไม่ห่วงว่าใครจะเป็นหัวคะแนนของใคร ซึ่งมั่นใจว่าประชาชนชาวเชียงใหม่พร้อมที่จะให้การสนับสนุน เพราะเลือกตั้งครั้งก่อนตนก็พลาดที่คะแนนน้อยไปนิดจึงไม่ได้เป็นส.ส.และที่ตนผละจากประชาธิปัตย์มาลงมหาชน

เนื่องจากเห็นว่าเป็นพรรคที่เป็นทางเลือกใหม่ ความคิดแตกต่างจากหลายพรรค เท่าที่พูดคุยกับหลายคนในพรรคพบว่ามีหลายอย่างตรงใจ เช่นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ"นายบรรจงเปิดใจ

ส่วนเขต 3 มหาชนส่งดร.บุษรา โพธิสุข ผู้สมัครหน้าเก่าจากพรรคประชาธิปัตย์ลงชิงครั้งนี้แม้ครั้งที่ผ่านมาจะพ่ายให้กับบุญทรง เตริยาภิรมย์ไป แต่ก็ราว 9,000 แต้ม ซึ่งสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ถือว่าไม่มากมายอะไร แต่อีกตัวแปรจากประชาธิปัตย์นั่นน่าสนใจคือจ่าสิบตำรวจอุดม วรวัลย์

เขต 4 มหาชนส่งนางอำนวยพร สรรพตานนท์ มีอดีตจากปชป.เช่นกันด้วยผลงานในเขต 6 จำนวน 20,161 คะแนนในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อสู้กับวิทยา ทรงคำแชมป์เก่า ซึ่งอาจมีกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่มาเรียกศักดิ์ศรีคืนในนามปชป.ด้วย

เขต 6 ส่งนายบุญช่วย ภู่จินาพันธ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่พรรคชาติพัฒนา สู้กับนพคุณ รัฐผไท ทรท. เขต7 ส่งนายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคชาติพัฒนา น้องชายนายบุญช่วย และเขต 8 ส่งนายนรพล ตันติมนตรี ส.ส.หน้าใหม่หลานชาย นายอำนวย ยศสุข อดีตส.ส.เชียงใหม่ จากพรรคความหวังใหม่

ซึ่งปชป.ก็ส่งปลัดเจี๊ยบ ศุภชัย นิมมานเหมินท์ ลงแข่งกับผณินทรา ภัคเกษมจากไทยรักไทย ส่วนเขต 1,9,10
ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาหาบุคคลที่เหมาะสม

ผู้สมัครของมหาชนส่วนใหญ่เป็นผู้มีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 ของการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งจากประชาธิปัตย์และชาติพัฒนา ซึ่งเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชนปฏิเสธว่าไม่ได้ดึงตัวมาจากประชาธิปัตย์ เพราะคนส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาเป็นถึงด๊อกเตอร์ก็มี เป็นความสมัครใจของคนเหล่านั้นเอง

ด้านพล.ต.สนั่น ให้สัมภาษณ์ว่าได้เตรียมผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ทั่วประเทศแล้วกว่า 300 คน ส่วนใหญ่จะมาจากทั้งจากไทยรักไทย ความหวังใหม่และชาติพัฒนา แต่มีบางเขตที่เคยเป็นผู้สมัครของประชาธิปัตย์แต่ก็อยากร่วมอุดมการณ์เดียวกับมหาชน

ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าจะได้ที่นั่งในสภาฯ ไม่น้อยกว่า 100 ที่นั่ง โดยที่จังหวัดเชียงใหม่จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 10 เขต
และมั่นใจว่าจะได้ที่นั่งเกือบครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะในเขต 6 เขต 7 และเขต 8 ซึ่งปัจจุบันเป็นของ ส.ส.พรรคไทยรักไทย และเชื่อว่าจะสามารถเจาะไข่แดงของพรรคไทยรักไทยได้ด้วย โดยย้ำว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคไทยรักไทย เพราะจุดยืนคือไม่ร่วมกับพรรคไทยรักไทยอย่างแน่นอน

อเนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชนยังชูจุดขายสำคัญคือการเป็น "นายกคนเมือง" โดยเขาปราศรัยว่าเป็นคนลำปาง คนเมืองเหมือนกัน พรรคมหาชนจึงเป็นพรรคคนเมืองเช่นเดียวกับพรรคที่อยู่ในกระแสขณะนี้ พรรคมหาชนจึงขอเปิดตัวกับชาวเชียงใหม่ขอเป็นทางเลือก ซึ่งตนดูดวงชะตามาแล้ว

สมัยหน้าจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นคนเมืองอยู่ แต่จะเป็นคนเมืองพรรคไหน หลังเลือกตั้งกุมภาพันธ์ปีหน้ารู้แน่ พี่น้องประชาชนจะชี้ขาด และถ้าพรรคมหาชนได้จัดตั้งรัฐบาลทุกอย่างที่ประกาศไว้ในปฏิญญาล้านนาจะทำให้เป็นจริง รวมทั้งนโยบายต่างๆ ของพรรคด้วย

คนเหนือมีนายกคนเมืองให้เลือกถึง 2 ดวงใครจะเหนือใคร ลุ้นได้กุมภาพันธ์ปีหน้า

โครงการความร่วมมือด้านข่าวภูมิภาค
พลเมืองเหนือ-ประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net