Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

(ข้อเสนอนักวิชาการต่อรัฐบาลสนองพระราชปรารภประกาศนโยบายสังคม)
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้นวยการสถาบันรามจิตติและผู้จัดการเครือข่ายวิจัยด้านเด็กและการศึกษาของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย เปิดเผยว่า จากกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นห่วงเยาวชนของชาติที่มีแนวโน้มเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขมากขึ้นนั้น เป็นนิมิตรหมายสำคัญที่รัฐบาลน่าจะถือเป็นกำลังใจในการทำงานด้านเด็กให้เป็นผลสำเร็จ

เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาปัญหาเด็กและเยาวชนดูจะรุนแรงเป็นประวัติการณ์ทั้งเรื่องเพศ และความรุนแรง รัฐบาลน่าจะใช้โอกาสนี้ประกาศจุดยืนเกี่ยวกับ "นโยบายสังคม" ที่ดูจะเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลในช่วงที่เน้นหนักการซ่อมแซมและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยขอให้ถือว่า 4 ปีข้างหน้าเป็นช่วงของการกลับมา "ซ่อมสังคม ซ่อมเยาวชน" ก่อนที่จะเป็นวิกฤตใหญ่ของประเทศ โดยขอเสนอ 10 ยุทธศาสตร์ให้รัฐบาลพิจารณา ได้แก่
1) ยุทธศาสตร์ "เฝ้าระวังสถานการณ์เด็ก" ขอให้รัฐบาลให้การสนับสนุนโครงการวิจัยในเชิงเฝ้าระวังปัญหาเด็ก อาทิ โครงการ Child watch ที่สกว.ทำร่วมกับ สสส. และกระทรวงวัฒนธรรม รวมไปถึงการสนับสนุนกลุ่มเฝ้าระวังทางสังคมในระดับชุมชนท้องถิ่น และการมีกลไกการเฝ้าระวังเชิงนโยบายหลายๆ ด้านของรัฐบาลที่อาจมีผลกระทบต่อเด็กและครอบครัว

2) ยุทธศาสตร์ "โรงเรียนสอนชีวิต" ขอให้กระทรวงศึกษาธิการสนับสนุนทรัพยากรให้แก่โรงเรียนและสถานศึกษาให้พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้าน "ทักษะชีวิต" ให้มากขึ้น รวมถึงการเรียนรู้ด้านเพศศึกษาเชิงจริยธรรม ปฏิเสธวิทยา บริโภคศึกษา สื่อศึกษา เป็นต้น รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาระบบดูแลผู้เรียนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ เช่น เด็กหนีเรียน เด็กย้ายที่เรียนบ่อย

3) ยุทธศาสตร์ "พื้นที่ของเด็ก" ขอให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่และแหล่งกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับการแสดงออกที่สร้างสรรค์ของเด็ก รวมถึงการจัดกิจกรรมนักเรียน การจัดกีฬาในกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็ก การพัฒนารูปแบบ "บ้านหลังเรียน" ที่มีกิจกรรมหลากหลายให้เด็กแทนการไปเตร็ดเตร่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม ในช่วงหลังเลิกเรียนโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ผู้ปกครอง ชุมชน และอาสาสมัคร

4) ยุทธศาสตร์ "ครอบครัวปึกแผ่น" ให้กระทรวงพัฒนาสังคมเร่งดำเนินนโยบายเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว ผ่านการให้ความรู้ในรูป family tips และวิชาสมรสศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอุดมศึกษา การส่งเสริมกลไกของชุมชนในการเฝ้าระวังและสอดส่องดูแลตลอดจนให้สวัสดิการแก่ครอบครัวที่ประสบปัญหา

5) ยุทธศาสตร์ "ธรรมะโดนใจเด็ก" ให้กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีมาตรการกระตุ้นให้มีการระดมทุนของวัดมาใช้ประโยชน์เพื่อเด็กและเยาวชนมากขึ้น เช่น การสร้างศูนย์เยาวชนในวัด การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในวัด การทำโรงเรียนทางเลือกในวัดให้เด็ก

6) ยุทธศาสตร์ "สื่อเด็ดของเด็ก" ให้รัฐบาลโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงศึกษาธิการหาหนทางส่งเสริมการใช้ทรัพยากรการสื่อสารของประเทศและกลไกการผลิตสื่อของรัฐและเอกชนเพื่อเด็กให้เป็นรูปธรรม เช่น การผลิตทีวีเด็ก (Kid Channel) ร่วมกับทีวีเคเบิ้ลท้องถิ่น การส่งเสริมการผลิต web เด็ก การจัดทำและแจกจ่ายหนังสือสำหรับเด็กไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ การผลิตของเล่น/สื่อพัฒนาสมองให้เด็ก

7) ยุทธศาสตร์ "ปราบสื่อร้ายทำลายเด็ก" ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติประกาศสงครามกับสื่อลามกอย่างเด็ดขาด รวมถึงการ์ตูน ซีดี เว็บลามก นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรมควรหามาตรการควบคุมภาพโฆษณาที่ไม่เหมาะสมหรือยั่วยุทางเพศ บริเวณทางด่วน ถนนหนทาง ระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนศูนย์การค้าต่างๆ รวมทั้งการโฆษณายั่วยุในหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างๆ

8) ยุทธศาสตร์ "พื้นที่ทางสังคม" ให้รัฐบาลประกาศนโยบายโซนนิ่งรอบๆ สถานศึกษาไม่ให้มีแหล่งอบายมุข เช่น ร้านเหล้า ร้านเกมส์ โต๊ะสนุกเกอร์ โรงแรมม่านรูด หรือกวดขันการจำหน่ายหรือให้บริการแก่เยาวชนอย่างจริงจัง

9) ยุทธศาสตร์ "กลไกจังหวัด" ให้กระทรวงมหาดไทยโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งพัฒนาขีดความสามารถของกรรมการและองค์กรระดับจังหวัดให้มีพลังในการทำงานด้านเด็กมากยิ่งขึ้น อาทิ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับจังหวัด พัฒนาสังคมจังหวัด คณะกรรมการวัฒนธรรมจังหวัด เขตพื้นที่การศึกษา โดยเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลเฝ้าระวังในแต่ละจังหวัด

10) ยุทธศาสตร์ "เจาะกลุ่มเป้าหมาย" ให้กระทรวงมี่เกี่ยวข้องโดยมีกระทรวงพัฒนาสังคมเป็นแกนประสาน วางยุทธศาสตร์การทำงานแบบเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นพิเศษ เช่น การเข้าไปช่วยกลุ่มเด็กถูกละเมิดสิทธิ์ เด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ เด็กชาวเขาไร้สัญชาติ หรือมีมาตรการเจาะกลุ่มเป็นพื้นที่ เช่น กลุ่มโรงเรียนประถมขยายโอกาส โรงเรียนมัธยมขนาดกลางในเขตชานเมือง ที่เด็กมักมีปัญหาพฤติกรรมสูง เป็นต้น

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net