ปัตตานี-8 ธ.ค.47 ตำรวจมั่นใจคดียิงรองผู้ว่าฯ ปัตตานี เป็นเรื่องอส.ทำปืนลั่น ขณะที่ อส.เจ้าของปืนปฏิเสธ เตรียมสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากแพทย์ก่อนสรุปสำนวน

"จากการสอบสวนเบื้องต้นน่าจะเป็นปืนของนายอับดุล แวดอเลาะ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในวิถีกระสุน ตลอดจนน่าจะเป็นผู้ทำปืนลั่นถูกนายสุนทรจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้นายอับดุลยังให้การปฏิเสธ" พ.ต.อ.สุธน ดิษยบุตร ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี กล่าว

ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุ อส.คนดังกล่าวอยู่ใกล้กับรองผู้ว่าฯ ปัตตานี มากที่สุด และการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าว วิถีกระสุนจากกระบอกปืนค่อนข้างชัดเจน แต่เมื่อเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ เป็นหน้าที่ ที่จะต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันให้ทุกอย่างออกมาถูกต้องและรัดกุมที่สุด

พ.ต.อ.สุธน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะนำอาวุธปืนของผู้อยู่ในเหตุการณ์ จำนวน 27 กระบอก แยกเป็นปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง 11 กระบอก และทหารอีก 16 กระบอก ส่งให้กองวิทยา การเขต 12 ยะลา ตรวจพิสูจน์อีกครั้ง หลังจากได้รับการประสานงานจากสำนักนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อคลี่คลายปมที่มาของกระสุนปริศนาที่คร่าชีวิตของรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี

ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง ระบุว่า จะสอบสวนแพทย์ผู้เกี่ยวข้องกับการรักษา นายสุนทร ตั้งแต่ผู้อำนวยการ แพทย์เวรโรงพยาบาลปัตตานี และแพทย์ที่ทำหน้าที่ผ่าตัดรักษาบาดแผลภายในแก่รองฯ ผู้ว่าในวันเกิดเหตุ รวมไปถึงเดินทางไปสอบสวนผู้อำนวยการฯ และคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลาด้วย

"สาเหตุที่เราต้องสอบปากคำแพทย์ทุกคนที่เกี่ยวข้องในการรักษาอาการบาดเจ็บของรองผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่รัดกุมและชัดเจนที่สุดก่อนที่จะสรุปสำนวนคดีดังกล่าวให้เร็วที่สุดเพื่อคลายความแคลงใจของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง กล่าว
พ.ต.อ.สุธน กล่าวอีกว่า ข้อมูลทางด้านการแพทย์จะเป็นหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งที่จะยืนยันและเป็นเครื่องยืนยันให้เห็นว่าการดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาถูกทางหรือไม่ หรือควรจะตรวจสอบหาหลักฐานจากผู้เกี่ยวข้องส่าวนใดเพิ่มเติม

ประชาไทรายงาน