Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

"เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ผีเสื้อขยับปีกที่บราซิล น้ำท่วมถึงอเมริกาฉันใด สิ่งแวดล้อมเป็นชีวิตของคนทั้งโลกฉันนั้น ป่าสักทั้งสายน้ำก็เช่นกัน ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบ ทั้งปริมาณน้ำที่แห้งขอดและมลพิษ.."

ตราบเท่าที่เรายังหายใจจากอากาศ แหล่งเดียวกัน บริโภคสายน้ำสายเดียวกัน ทุกชีวิตเชื่อม โยง ไม่เฉพาะชาวแก่งคอยที่เดือดร้อน ประชาชนตลอดลำน้ำป่าสัก และประชาชนชาวสระบุรีซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมจะถูกแย่งน้ำ น้ำจะเน่าเสีย ปลาในน้ำจะตาย ชาวบ้านใต้ลมจะรับมลพิษเต็มที่ เราจะสูดดมอากาศที่ปนเปื้อนไปด้วยมลพิษและฝุ่นละอองได้อย่างไร

แม้โรงไฟฟ้าจะเคยจัดเวทีสาธารณะเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.47 และ 8 ส.ค.47 ที่โรงเรียนเทศบาลวัดบ้านม่วง เพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน แต่การจัดเวทีทั้ง 2 ครั้ง เป็นการชี้แจงเพียงด้านเดียว โดยโรงไฟฟ้าฯ นำมวลชนที่ตนจัดตั้งขึ้นมาร่วมฟังเป็นจำนวนมาก พร้อมให้ผู้เข้าร่วมฟังลงชื่อเพื่อใช้เป็นรายชื่อผู้ให้การสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้า ส่วนเนื้อหาของการให้ข้อมูลนั้นมิได้มีการตอบคำถามที่ผู้เข้าร่วมสนใจซักถาม แต่กลับใช้ถ้อยคำรุนแรงและไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้ง 2 ด้าน

ชาวบ้านจึงรวมตัวกันในนาม "ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย" เพื่อร่วมกันเรียกร้องและพิทักษ์สิทธิร่วมของชุมชน ตลอดจนเรียกร้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นที่รับรู้ร่วมกันว่า โรงไฟฟ้าฯ อาศัยการดำเนินกิจกรรมทางสังคมเป็นข้ออ้างในการสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีการที่เคยทำมาแล้วที่บ่อนอก ประจวบฯ)

เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปและมีข้อยืนยันในทางวิชาการแล้วว่า โครงการขนาดใหญ่ขนาดโรงไฟฟ้าโรง 734 เมกกะวัตต์ ที่จะสร้างที่บ่อนอก ประจวบฯ เป็นโครงการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งน้ำอากาศ และมีผลต่อจิตสำนึก วัฒนธรรม วิถีชีวิต แล้วทำไมโครงการที่มีขนาดใหญ่กว่าที่ประจวบ 2 เท่า ซึ่งมีกำลังผลิต 1,468 เมกกะวัตต์ จะไม่ซ้ำเติมให้สิ่งแวดล้อม น้ำ อากาศที่แย่อยู่แล้วในขณะนี้ให้มีความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก จะมีอะไรเป็นหลักประกันว่า ชุมชน วิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันเก่าที่ผูกพันกับแม่น้ำป่าสักของชาวสระบุรีจะไม่เปลี่ยนแปลง

"ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย" และ "เครือข่ายสระบุรีรักบ้านเกิด" ตระหนักเป็นที่แน่นอนแล้วว่า โรงไฟฟ้าที่ใหญ่กว่าประจวบถึง 2 เท่าจะต้องสร้างผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อมของอำเภอแก่งคอย(ที่เลวร้ายอยู่แล้ว) และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตอันปกติสุขของชาวสระบุรีอย่างแน่นอน

ชมรมฯ จึงมีมติ "ไม่ต้องการให้มีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นในจังหวัดสระบุรี" ขอให้ชาวสระบุรี ร่วมใจกัน ขอเชิญพี่น้องคนไทยที่เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมช่วยเผยแพร่ของมูล เราอยากให้การเสียชีวิตของ คุณเจริญ วัดอักษร เป็นบทเรียนสุดท้ายของสังคมไทย ประชาชนส่วนใหญ่สูญเสียมามากแล้ว คนได้ประโยชน์และร่ำรวยเป็นเพียงคนกลุ่มเล็ก ๆ ของสังคม

ข้อมูล : ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่งคอย/ Saraburi Comfocus

"เครือข่ายสระบุรีรักบ้านเกิด"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net