Skip to main content
sharethis

ประชาไท-26 ธ.ค.47 นางสาวโรจนา บุญชูวง นักจัดรายการวิทยุ อสมท.จังหวัดระนอง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ของจังหวัดระนองก่อนเกิดเหตุคลื่นยักษ์ซึนามิถล่มว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ทำหนังสือแจ้งเตือนมาในช่วงเช้าว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นตามที่ต่างๆ แต่ก่อนเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์กลับไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทั้งที่เวลาการเกิดอาฟเตอร์ช็อค ห่างจากการเกิดคลื่นยักษ์นับชั่วโมง ความผิดพลาดดังกล่าวจึงนำมาซึ่งการสูญเสียจำนวนมาก

นางสาวโรจนากล่าวว่า จังหวัดระนองขณะนี้มียอดรวมผู้เสียชีวิตจากคลื่นยักษ์ จำนวน 70 คน ทราบชื่อแล้ว 50 คน ผู้สูญหายประมาณ 100 คน โดยเฉพาะบริเวณบ้านทะเลนอก กิ่งอ.สุขสำราญ จ.ระนอง เกิดความเสียหายอย่างหนักเบื้องต้นทราบว่าโรงเรียนบ้านทะเลนอกหายไปหมด เหลือเพียงธงชาติที่ปลิวบนยอดเสา นักเรียนจำนวน 13 คนพร้อมกับนางสุจารี เถาเล็ก อาจารย์ 2 ระดับ 7 ที่นัดนักเรียนไปฝึกซ้อมรำที่โรงเรียนถูกคลื่นซัดหายไปทั้งหมด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบศพนักเรียนแล้ว 3 ศพ

ฐานปฏิบัติการจุดเฝ้าตรวจชายแดน ตชด.ที่ 4116 ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนถูกคลื่นซัดหายและเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย พบศพแล้ว นอกจากนี้สถานีอนามัยถูกคลื่นถล่มได้รับความเสียหายเช่นกัน ส่วนเจ้าหน้าที่สูญหายยังไม่ทราบชะตากรรม โดยสถานที่ราชการดังกล่าวอยู่ห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร

"มีคนโทรฯ เข้ามาเล่าให้ฟังขณะจัดรายการว่า ขณะที่เขากำลังโทรศัพท์อยู่ห่างจากชายฝั่งไป 3 กิโลเมตรเป็นเวลาประมาณ 10.00-12.00 น. เขาบอกว่าคุยโทรศัพท์อยู่ดีๆ ก็มีคลื่นซัดเข้ามาโดยไม่รู้ตัวมาก่อน" นางสาวโรจนากล่าวและว่า คลื่นที่มาเป็นคลื่นมุดใต้น้ำ เพราะก่อนเกิดเหตุการณ์ทะเลราบเรียบมาก จึงไม่มีใครคาดได้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

นางสาวโรจนาให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ทุกคนยังหวาดผวากับเหตุการณ์อย่างมาก และระแวงว่าจะมีคลื่นซัดมาอีหรือไม่ ทั้งนี้ตามศูนย์อพยพต่างๆในจังหวัดระนองยังขาดแคลนน้ำ อาหารและเครื่องนุ่งห่มอีกจำนวน

นายสุนันท์ เถาเล็ก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ทำอาหารมื้อเที่ยงอยู่ที่บ้านพักครู หลังจากนั้นได้ยินเสียงดังผิดปกติ จึงออกไปดูพร้อมกับนักเรียน และชาวบ้านเห็นคลื่นยักษ์สูงประมาณ 20 เมตร ทุกคนจึงพยายามวิ่งหนี โดยตนได้วิ่งไปที่รถยนต์ส่วนตัวเพื่อขับหลบหนีแต่ขณะขับรถอยู่นั้น คลื่นยักษ์ได้มาถึงแล้วพัดเอารถลอยอยู่เหนือคลื่นและจมน้ำ ตนได้ตะเกียกตะกายออกมาจากรถ และว่ายน้ำจนรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

ด้านนายณรงค์ คุ้มราษฎร์ ราษฎรหมู่ที่ 2 ต.กำพวน กล่าวว่า ในขณะที่กำลังทำงานอยู่ที่แปลงปลูกแตงโมที่บ้านทะเลนอก ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากทะเล เมื่อหันไปดูเห็นคลื่นขนาดใหญ่ ตนจึงขับรถจักรยานยนต์หนีไปได้ และได้ ย้อนกลับมาอีกครั้งหลังคลื่นสงบ ปรากฎว่าพื้นที่ราบไปหมด ไม่มีอะไรเหลือ

ในส่วนของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 ระนอง พ.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ สมันตรัฐ ผู้บังคับกองร้อย ตชด.ได้นำกำลังและขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 จังหวัดชุมพร 1 ลำ เพื่อออกค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามเกาะต่าง ๆ เนื่องจากเรือไม่สามารถออกทะเลได้ โดยเฉพาะที่หมู่เกาะกำ และสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่นำเรือหางยาวออกไปตกปลาวันก่อนเกิดเหตุ

นายทวิส มีสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดอุปนันทาราม จ.ระนอง กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยเพื่อนได้นำเรือหางยาวออกไปตกปลาที่บริเวณหมู่เกาะกำเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุได้ฟังวิทยุประกาศว่ามีคลื่นยักษ์ที่จังหวัดภูเก็ตจึงรีบถอนสมอเพื่อกลับเข้าฝั่ง แต่ขณะนั้นตนเห็นคลื่นความสูงกว่า 10 เมตรประมาณ 3-4 ลูกพัดถล่มเข้าใส่จนเรือแตก หลังจากนั้นตนและเพื่อนอีก 3 คน ได้เกาะขอนไม้ว่ายเข้าเกาะจนได้รับการช่วยเหลือ ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม

ศิริรัตน์ อนันต์รัตน์
ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net