Skip to main content
sharethis

---------------------------------------------------------------
รายงานสถานการณ์และแนวโน้มประเทศไทย ธันวาคม 2547

โครงการข่าวสารทิศทางประเทสไทย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) (http://pr.trf.or.th)

-----------------------------------------------------------------

จากการติดตามประมวล วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข่าวสารและแนวโน้มประเทศไทยในปี 2547 พบว่ามีห้าข่าวใหญ่และสถานการณ์สำคัญที่มีผลกระทบต่อสังคมไทยและโลกดังนี้

1. การยอมรับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ตลอดปี 2547 ได้มีบุคคลมีชื่อเสียงในวงการต่างๆ กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาประเทศโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และในการกราบบังคมทูลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ว่าเป็นหลักชี้นำในการพัฒนา มีผู้นำหลายประเทศชื่นชมว่าเป็น "วิถีทางแบบตะวันออกที่น่าพิศวงยิ่งนักในโลกปัจจุบัน"

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ เป็นแนวทางการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่มีหลักสำคัญอยู่ที่การเดินสายกลาง ซึ่งอาจขยายความได้ว่า ในด้านหนึ่งเป็นการเดินสายกลางระหว่างสังคมกับตลาด โดยไม่เน้นหนักด้านใดด้านหนึ่งมากหรือนานเกินไป เช่น ถ้าหากเน้นหนักด้านสังคมมากและนานเกินไป ก็มีแนวโน้มสู่ความคิดสังคมนิยมแบบสุดขั้ว หากเน้นหนักในด้านตลาดมากและนานเกินไป ก็จะถลำไปสู่ลัทธิคลั่งไคล้ตลาด (Market Fundamentalism) ในอีกด้านหนึ่ง เป็นการเดินทางสายกลางระหว่างระดับโลกกับระดับท้องถิ่นชุมชน การเน้นระดับโลกมากเกินไป ก็เป็นการผูกประเทศเข้ากับความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่สูง รวมทั้งกลุ่มทุนใหญ่ซึ่งยากที่จะต่อกรได้ การเน้นระดับท้องถิ่นชุมชนมากเกินไป ทำให้เกิดการหยุดนิ่ง ขาดการปรับตัวก้าวให้ทันโลกและการแข่งขัน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นการมองภาพใหญ่ มีลักษณะทั่วไป ครอบคลุมกระบวนการพัฒนาทั้งหมด ไม่ใช่มีลักษณะเฉพาะ เช่น การคิดว่าเศรษฐกิจเฉพาะสาขาใดหรือพื้นที่เฉพาะที่ใด ควรใช้เศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่
องค์ประกอบสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อาจขยายความได้ว่า

1) มีความรอบรู้ที่กว้างขวางลึกซึ้งในหลายมิติ เช่น ความรู้เกี่ยวกับกระบวนโลกาภิวัตน์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การแข่งขันและการบริหารจัดการ ความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นชุมชนทั้งด้านสังคม ประวัติศาสตร์และสภาพแวดล้อม รวมทั้งสถานการณ์และแนวโน้ม จังหวะก้าวและอัตราเร็ว เพื่อให้สามารถก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

2) มีความพอเพียง ได้แก่ความรอบคอบ มีคุณธรรม ความเพียรความอดทน การพึ่งตนเอง ความปรองดอง การมีระบบคุ้มกันตัวเองจากแรงกระทบภายนอก และความพอเหมาะพอควร เช่น ให้ครัวเรือนทั้งหลายได้เข้าถึงสินค้าและบริการที่จำเป็นในการครองชีพและพัฒนาตนเองในโลกปัจจุบันอย่างพอควร

3) มีความสามัคคีเป็นปึกแผ่นในสังคม ซึ่งไม่เพียงสร้างความร่มเย็นในชาติเท่านั้น หากยังส่งเสริมฐานะของประเทศในการเป็นแกนแห่งความเข้มแข็งในภูมิภาค

เป็นที่สังเกตว่าในโลกที่มีความไม่แน่นอนและการแข่งขันสูง ประเทศต่างๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ไม่ว่าพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา ย่อมต้องดิ้นรนแสวงหาเส้นทางเดินของการพัฒนาที่เหมาะสมแก่ตน แม้แต่สหรัฐซึ่งเป็นแกนของระบบทุนโลก เมื่อเผชิญกับปัญหาการขาดดุลสองชั้น ที่ยากแก่การแก้ไข

ในช่วงปลายปี 2547 ก็มีนักเศรษฐศาสตร์ระดับรางวัลโนเบลของสหรัฐตั้งคำถามว่ากระแสโลกาภิวัตน์ที่สหรัฐจุดขึ้นเองนี้ จะยังคงก่อผลดีมากกว่าผลเสียดังที่เคยเป็นมาหรือไม่ ประเทศจีนใช้ปรัชญาสังคมนิยมแบบตลาด ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ใช้วิธีรัฐแบบบรรษัท (Corporate State) กลุ่มประเทศในยุโรปใช้วิธีรวมตัวกันเป็นสหภาพ อนึ่ง ในระยะใกล้นี้ก็ได้มีการเสนอปรัชญาหรือแนวทางการพัฒนาใหม่หลายอย่าง เพื่อแก้ไขผลกระทบด้านลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจาการพัฒนาแบบเดิมที่ถือการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ปรัชญาและแนวทางดังกล่าวได้แก่ การพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาที่ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง เศรษฐกิจแบบประชาชนมีส่วนร่วม เศรษฐกิจวัฒนธรรม และชุมชนเข้มแข็งเป็นต้น

ปรากฏการณ์ดังกล่าว ประกอบกับสถานการณ์โลกปัจจุบันนี้ ที่มีแนวโน้มความเสี่ยงสูงขึ้น การก้าวไปข้างหน้าก็มีความเสี่ยง และการอยู่กับที่อาจเสี่ยงกว่า เหล่านี้ทำให้เกิดความจำเป็นในการมีปรัชญา วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์และพันธกิจแห่งการพัฒนาที่เหมาะสม

2 กรณีสามจังหวัดภาคใต้

เป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่สั่นคลอนรัฐบาล โดยเฉพาะและชนชั้นนำของไทยโดยรวม ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุอย่างสูง และกระเพื่อมไปสู่สังคมวงกว้าง รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน การแก้ไขพลิกกลับสถานการณ์ ทำให้ภาคใต้เกิดความร่มเย็นหรืออย่างน้อยสงบลงได้บ้าง จะก่อผลด้านบวกที่สำคัญหลายประการ รวมทั้งการสร้างความเป็นปึกแผ่นในกลุ่มอาเซียน

การคลี่คลายของเหตุการณ์สามจังหวัดภาคใต้ในรอบปี อาจสรุปได้ดังนี้
1) มีปฏิบัติการใหญ่ปล้นปืนในต้นเดือนมกราคม ซึ่งอาจย้อนเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันไปจนถึงปี 2536 นับว่ายาวนานพอสมควรสำหรับผู้ก่อเหตุร้ายในการสะสมกำลังและความพร้อม เหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้นอย่างไม่มีใครระงับได้ ทำให้ทั่วประเทศสะดุ้งตื่นว่าได้เข้าสู่สมรภูมิเลือดของสงครามก่อการร้ายโดยไม่รู้ตัว

2) ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นว่า กลุ่มก่อเหตุร้ายเป็น "กลุ่มแบ่งแยกดินแดน" โดยอาศัยฐานความเชื่อทางชาตินิยม-ศาสนา และผลประโยชน์จำนวนมากในเขตพื้นที่ ผู้ปฏิบัติการเกือบทั้งหมดเป็นคนพื้นเมือง โดยอาศัยการอุดหนุนจากภายนอกประเทศในระดับหนึ่ง

3) รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยผ่านการลองผิดลองถูก การปรับเปลี่ยนบุคคลและหน่วยงานรับผิดชอบ และแก้ไขจุดอ่อนในด้านการข่าว ความเป็นเอกภาพในทางนโยบายและในหมู่ผู้ปฏิบัติงาน เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายนทางรัฐบาลสามารถพลิกสถานการณ์กลับเป็นฝ่ายรุกทางการเมือง มีการรวมพลังได้ทั่วประเทศและสามารถจับกุมตัวการใหญ่ได้

4) มีคำถามสำคัญ ว่า ถ้าหากฝ่ายรัฐบาลไม่ลองผิดลองถูกหรือใช้มาตรการที่ผิดพลาด จะทำให้เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้ไม่บานปลายอย่างที่เป็นอยู่หรือไม่ คำตอบมีหลายอย่าง แต่มีสัญญาณบางประการชี้ว่า การปะทุและการขยายตัวของการก่อเหตุร้าย เป็นสิ่งที่วางแผนล่วงหน้า ทำให้เป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ให้เกิดได้ยาก มองจากระดับภูมิภาค จะเห็นการก่อเหตุร้ายในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และไทย ซึ่งดูเหมือนเป็นสิ่งที่กำหนดไว้เช่นเดียวกัน จุดเสี่ยงอีกแห่งหนึ่งตามที่เป็นข่าวอาจเป็นประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ เนื่องจากเหตุการณ์สามจังหวัดภาคใต้มีการตระเตรียมวางแผนและกำลังมานาน ทั้งยังเกี่ยวพันกับสถานการณ์โลกในระดับที่แน่นอน จึงคาดหมายว่า แม้มีการจับตัวการใหญ่ได้ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ ก็ยังคงมีการก่อเหตุร้ายต่อไปอีก สงครามก่อการร้ายและการต่อต้าน เป็นกระแสที่ขึ้นมาเทียบเคียงกับกระบวนโลกาภิวัตน์ ซึ่งจะดำรงอยู่ต่อไปอย่างน้อยในระยะใกล้นี้

5) ผลกระทบทางการเมืองจากกรณีสามจังหวัดภาคใต้ ที่สำคัญน่าจะได้แก่ ก) มีความเป็นไปได้ ที่สา-ธารณชนจะเลือกความมั่นคงปลอดภัย ต้องการรัฐบาลที่เข้มแข็งเฉียบขาดมากกว่าที่จะหวาดเกรงการรวบอำนาจ ข) รัฐบาลในสถานการณ์ความไม่แน่นอนและการก่อการร้ายน่าจะเป็นแบบยืดหยุ่น มีความสามารถในการปฏิบัติสูง สามารถพลิกสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์แก่ตนได้ดี รวมทั้งมีปฏิบัติการเชิงลับและลึกสูง

3. น้ำมันแพง

ก่อผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกทั้งในความเป็นจริงและในทางจิตวิทยา คาดหมายกันว่าภาวะน้ำมันราคาแพงนี้น่าจะกลายเป็นสิ่งถาวร และอาจเป็นเหตุไม่คาดคิดที่ก่อผลกระทบอย่างสูงต่อเศรษฐกิจโลกได้

สถานการณ์น้ำมันราคาแพงอาจสรุปได้ดังนี้ 1) รัฐบาลไทยได้เข้าแทรกแซงตรึงราคาน้ำมันอย่างแข็งขัน โดยใช้เงินหลายหมื่นล้านบาท ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากบางภาคส่วน ในรอบปีที่ผ่านมาอาจกล่าวได้ว่าการแทรกแซงดังกล่าวก่อผลด้านบวกมากกว่าด้านลบ ทั้งนี้ด้วยเหตุว่า ก) ตลาดน้ำมันโลกเป็นตลาดที่ผูกขาดและมีการเก็งกำไรสูง ไม่ได้เป็นไปตามกลไกตลาด การปล่อยให้ราคาน้ำมันลอยตัว ย่อมก่อความผันผวนทางเศรษฐกิจสูงมาก ข) ประเทศต่างๆแทรกแซงราคาน้ำมันในทางหนึ่งทางใด ค) กระบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในประเทศยังคงมีพลังซ่อนอยู่ หากราคาน้ำมันสูง กระบวนการนี้ก็จะฟื้นขึ้นมา 2) กลุ่มโอเปกมีบทบาทสำคัญในตลาดน้ำมันโลก แม้ว่าจะมีการสร้างข่าวความสำคัญของประเทศนอกกลุ่มอย่างเช่นรัสเซียก็ตาม 3) สถานการณ์การเมืองโดยเฉพาะในตะวันออกกลางมีบทบาทสูงต่อราคาน้ำมัน ดังนั้น จึงกลายเป็นเรื่องการเมือง หรือภูมิศาสตร์การเมือง การเมืองเรื่องน้ำมันอีกอย่างหนึ่ง ได้แก่ การที่สหรัฐใช้มาตรการต่างๆ กดดันให้ใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน ซึ่งเป็นประเด็นร้อนมากขึ้น เมื่อค่าเงินดอลลาร์ลดต่ำลงมากอย่างรวดเร็ว 4) ปรากฏการณ์น้ำมันราคาพุ่งสูงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายปีมานี้ ในภาวะที่ประเทศต่างๆ ต้องการให้เศรษฐกิจของตนขยายตัวในระดับสูงพอสมควรอย่างต่อเนื่อง ก่อแรงกดดันต่อการผลิตน้ำมัน ซึ่งกลายเป็นตัวชะลอเศรษฐกิจโลก จนกว่าจะมีความก้าวหน้าใหม่ทางเทคโนโลยีด้านพลังงาน 5) มีการคาดการณ์ราคาน้ำมันจนถึงสิ้นปี 2005 ตั้งแต่ต่ำสุดราว 21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจนถึงสูงสุดราว 55 ดอลลาร์ โดยตัวเลขที่เห็นพ้องกันมากที่สุดอยู่ที่ราว 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และมีผู้คำนวณว่าราคาน้ำมันระหว่าง 50-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็อาจทำให้จีดีพีของสหรัฐลดลงถึงราวร้อยละ 1 ในปี 2548

4. สงครามอิรักและความขัดแย้งอิลราเอล-ปาเลสไตน์

เป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องจากตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 และอาจจะเป็นต่อไปอีก หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตก

ปมของปัญหานี้อยู่ที่ 1) บริเวณตะวันออกกลางเป็นเขตยุทธศาสตร์สำคัญยิ่ง เนื่องจากมีน้ำมันราคาถูกสำรองเป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่รอยต่อ 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย ยุโรป และแอฟริกา 2) สหรัฐต้องการมีอิทธิพลในพื้นที่นี้แต่เพียงผู้เดียว โดยผ่านการทูต แสนยานุภาพ และวิธีการอื่น มีอิสราเอลเป็นตัวแทนในพื้นที่ และมีอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมหลักในดินแดนแถบนี้เป็นพันธมิตร ความต้องการมีอิทธิพลนี้ เกิดจากทั้งเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติสหรัฐ และข้ออ้างเรื่องการจัดระเบียบโลก เช่น ประกันการไหลของน้ำมันสู่ประเทศทั่วโลก 3) มีแรงต่อต้านที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อความพยายามของสหรัฐ โดยเฉพาะหลังการบุกยึดครองประเทศอิรัก แรงต้านนี้มาจากชาวอาหรับที่ต้องการมีอิสระมากขึ้น มหาอำนาจอื่นที่ต้องการเข้าไปมีบทบาทในดินแดนเหล่านี้บ้าง และจากประชามติทั่วโลก เช่น ในการสำแดงกำลังคัดค้านการก่อสงครามของประธานาธิบดีบุช

การยึดครองอิรัก ในรอบปี 2547 ก่อให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ ได้แก่ 1) การลุกขึ้นสู้ของชาวอิรักทั่วประเทศและการปราบปรามอย่างรุนแรงจากสหรัฐ 2) การตั้งรัฐบาลชั่วคราวอิรักโดยสหรัฐ และเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมกราคม 2548 3) กรณีทรมานนักโทษชาวอิรักที่คุกกราอิบ

ทั้งสามเหตุการณ์นี้มีทั้งด้านแสดงความพยายามของสหรัฐในการรักษาความสงบและซื้อใจชาวอิรัก และก็มีด้านแสดงถึงความล้มเหลวในความพยายามนี้ สงครามยึดครองอิรัก ทำให้ฐานะผู้นำโลกของสหรัฐถูกสั่นคลอนอย่างหนัก พบว่าผลการสำรวจของหลายสำนักเกี่ยวกับประชามติโลกกับประชามติชาวสหรัฐจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ออกมาตรงข้ามกัน ความรุนแรงในอิรักดูไหลเลื่อนไปสู่ภาวะสงครามกลางเมืองมากขึ้น

สำหรับความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์นั้น ได้ไต่บันไดความรุนแรงยิ่งขึ้นในปี 2547 โดยฝ่ายอิสราเอลใช้แสนยานุภาพเช่นยิงจรวดสังหารผู้นำระดับสูง สร้างกำแพงในเขตเวสต์แบงก์ และใช้รถไถทำลายบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ ส่วนทางปาเลสไตน์ตอบโต้ด้วยการใช้ระเบิดพลีชีพและการก่อวินาศกรรมต่างๆ ความรุนแรงนี้สูงมาก จนแม้แต่การอสัญกรรมของนายยัตเซอร์ อาระฟัดผู้นำปาเลสไตน์คนสำคัญ ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก และหากไต่บันไดความรุนแรงสูงขึ้นอีก ก็จะเกิดความน่าเกลียดจนยากที่ชาวโลกจะยอมรับ

อย่างไรก็ตาม ในรอบปี 2548 คาดในด้านดีว่าจะมีการเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพในภูมิภาค และให้ประเทศต่างๆ มีอิสระในการปกครองตนเองอย่างแท้จริงมากขึ้น

5. ไข้หวัดนกและปัญหาทางสิ่งแวดล้อมอื่นๆ

กรณีไข้หวัดนก ซึ่งควรนับเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่ง ก่อความตื่นตระหนกในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ต้องฆ่าไก่ไปหลายสิบล้านตัวและมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การระบาดรอบสองในประเทศ มีการเตรียมรับมือได้ดีขึ้น ทั้งความตื่นกลัวและความเสียหายลดลง

สถานการณ์ไข้หวัดนกอาจสรุปได้ดังนี้ 1) เชื้อไข้หวัดนกที่ร้ายแรงตัวนี้ดูจะฝังตัวอยู่ในสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคนี้ เช่นเข้าไปอยู่ในฝูงนกตามธรรมชาติ การแก้ไขจึงต้องมีลักษณะเป็นนานาชาติในตัว 2) มลพิษในสิ่งแวดล้อมและจำนวนสัตว์ปีกที่เพิ่มขึ้นมากนับเป็นร้อยล้านตัวในฟาร์มเลี้ยงขนาดและรูปแบบต่างๆ ได้เพิ่มสิ่งแวดล้อมสำหรับการฝังตัวและกลายพันธุ์ของเชื้อหวัดนกมากขึ้น 3) มีการเตือนให้ระวังและป้องกันสถานการณ์ด้านร้ายว่า จะเกิดการกลายพันธุ์จากไข้หวัดนกเป็นไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดไปทั่วโลกดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

ผลกระทบสำคัญของไข้หวัดนกมีดังนี้ 1) อุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่และสัตว์ปีกอื่น ที่ประสบความเสียหายจนกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรจำนวนมาก 2) ผลกระทบทางด้านจิตใจในหมู่ประชาชนเกิดความหวาดกลัว 3) เกิดการถกแถลงเกี่ยวกับการจัดการฟาร์มไก่ รวมทั้งไก่ชนในระดับหนึ่ง บางเรื่องพอมีความเห็นพ้องเบื้องต้น เช่น จะให้การเลี้ยงไก่เป็นระบบปิดหรือกึ่งปิด บางปัญหายังตกลงไม่ได้ เช่น จะใช้วัคซีนในไก่หรือไม่ 4) เกิดการตื่นตัวและความร่วมมือระหว่างชาติในการศึกษาพัฒนาและต่อสู้กับเชื้อไขหวัดนกในระยะยาว

ปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นได้แก่ 1) พายุกระหน่ำก่อความเสียหายมากในหลายประเทศ ทั้งโลกตะวันออกและตะวันตก 2) ภาวะโลกร้อนที่ชัดเจนขึ้น 3) ลมร้อนในตะวันตกที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับหมื่น และคาดว่าอาจกลายเป็นปรากฏการณ์ปกติ 4) ภาวะภัยแล้ง 5) การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพทั้งในธรรมชาติและในไร่นา 6) ปัญหามลพิษในเมือง ทำให้โรคทางเดินหายใจพุ่งสูง เป็นต้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นข่าวใหญ่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้ความสนใจของผู้คนเบนออกจากเรื่องอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง มีทัศนะอยู่ 2 อย่างได้แก่ 1) ต้องแลกเปลี่ยนกันหรือต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 2) การทำให้ทั้งสองอย่างดำเนินไปได้พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบใด จะส่งผลให้แนวโน้มทั่วไปของสิ่งแวดล้อมโลกมุ่งไปในทางเลวร้ายขึ้น

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net