Skip to main content
sharethis

ก่อนสิ้นปี 2547 และก่อนที่สินามิจะถล่มใต้ การเมืองเคลื่อนไหวคึกคักยิ่ง ไทยรักไทยมาแถลงยืนยันสยบข่าวลือเปลี่ยนตัว ส.ส.กันอีกครั้ง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังคงประกาศชัดว่าว่าที่ผู้สมัคร 15 เขตใน 3 จังหวัดดังกล่าวว่า จะเป็นคนเดิมในทุกเขตตามที่ได้ประกาศตัวไปก่อนหน้านี้ โดยที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าในบางเขตจะไม่สามารถสู้พรรคตรงข้ามได้นั้นก็เป็นเพียงกระแสข่าว เพราะเชื่อมั่นว่า คนภาคเหนือจะภูมิใจในตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
หัวหน้าพรรคที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และว่าที่ส.ส.ทุกคนก็ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนผลตอบรับดีทุกแห่ง ยืนยันว่าไทยรักไทย 15 เขตนี้พรรคอื่นไม่มีสิทธิ์ได้ที่นั่งแน่

โดยหลังจากนี้ผู้สมัครของพรรคฯ จะลงพื้นที่เปิดปราศรัยย่อยในแต่ละตำบล และทีมงานของพรรคก็จะเคลื่อนที่ทำงานหนักในจุดที่เป็นเป้าหมายของพรรคคู่แข่ง และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคจะเปิดปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

"ไม่กี่วันก็จะประกาศเบอร์แล้ว เราไม่เปลี่ยนตัวแน่ ส่วนปาร์ตี้ลิสต์เหนือก็มีเชียงใหม่คือเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ชรินทร์รัตน์ พุทธปวน สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ลำพูนคืออนุสรณ์ วงศ์วรรณ ลำปางมีบุญชู ตรีทอง แม่ฮ่องสอนคือประมวล รุจนเสรี"

นางเยาวภายังมั่นใจในเขตที่ล่อแหลมว่ายังสามารถสู้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเขต 8 ผนินทรา ภัคเกษม ที่เป็นผู้หญิงเก่งสาขานักการเมือง เขต 1 ที่ปชป.ส่งรอ.หญิง ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่มาสู้กับปกรณ์ บูรณุปกรณ์

"ก็ต้องถามว่า ดร.เดือนเต็มดวงมาทำงานได้แค่ไหน แต่กับส.ส.ปกรณ์อยู่ในพื้นที่ เขต 5 ก็เป็นหัวใจของไทยรักไทยบ้านเกิดนายกทักษิณ หรือเขต 4 สันทรายก็เป็นบ้านเกิดแม่ดิฉัน เราคงให้ใครไม่ได้ และแม้ ส.ส.วิทยาในเขค 4 จะนุ่มนวลน้อยกว่าคุณกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่แต่สิ่งที่ส.ส.วิทยามีมากกว่าคือความรู้ความสามารถ ส่วนเขต 2 พายัพ ชินวัตรที่ว่ากันว่าไม่ค่อยลงพื้นที่นั้น 4
ปีที่ผ่านมาเรามีทีมงานทำงานในพื้นที่เขต 2 และ คนเข้ามาใหม่เปิดตัว 5-6 เดือนแต่ยืนยันว่าลงพื้นที่ตลอด
สำหรับรายชื่อผู้สมัครของไทยรักไทยใน 3 จังหวัดที่แถลงวันนั้นคือ เชียงใหม่ เขต 1 นายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ เขต 2 นายพายัพ ชินวัตร เขต 3 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เขต 4 นายวิทยา ทรงคำ เขต 5 นายพรชัย อรรถปรียางกูร เขต 6 นายนพคุณ รัฐผไท เขต 7 นายสุรพล เกียรติไชยากร เขต 8 นางผณินทรา ภัคเกษม เขต 9 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และเขต 10 นายสันติ ตันสุหัช จังหวัดลำพูน เขต 1

นางสาวอาภาพร พุทธปวน เขต 2 นายสงวน พงษ์มณี เขต 3 นายสถาพร มณีรัตน์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เขต 1 นายปัญญา จีนาคำ เขต 2 นายสมบูรณ์ ไพรวัลย์

1 วันถัดมาซึ่งตรงกับวันคริสต์มาส 3 พรรคการเมืองก็ตบเท้าเข้าเชียงใหม่กันพร้อมเพรียง พรรค
มหาชนประกาศปฏิญญาเพื่อผู้ประกอบการสุราชุมชนและชนเผ่า เผยเจาะนโยบายเฉพาะกลุ่ม
ขณะนี้พรรคอื่นยังปราศรัยเหมารวมแบบเดิม ชี้ 15 เขตใน 3 จังหวัดเหนือที่ไทยรักไทยไม่ให้พรรคอื่นนั้นเป็นการปลอบใจตัวเอง

โดยที่สถานบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พรรคมหาชนนำโดยนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชนพร้อมด้วยนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ที่ปรึกษาพรรคฯ นายอิระวัชร์ จันทรประเสริฐ ที่ปรึกษาฯพร้อมว่าที่ผู้สมัครส.ส.ในเขตภาคเหนือ ร่วมกันประกาศปฏิญญาเพื่อผู้ประกอบการสุราชุมชนในงานเสวนาคนทำเหล้าพบนักการเมือง ซึ่งเครือข่ายผู้ประกอบการสุราชุมชนแห่งประเทศไทย จัดขึ้น

นายเอนก กล่าวว่า เหตุผลที่พรรคมหาชนสนับสนุนสุราพื้นบ้านเพราะเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทยที่ทรงคุณค่า แต่รัฐบาลไม่จริงใจสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งที่เป็นตัวอย่างที่ดีของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งแตกต่างหลากหลายจากเศรษฐกิจของชาติ หากไม่สนับสนุนจะสูญเสียองค์ความรู้พื้นบ้านไป พรรคมหาชนจึงเสนอนโยบายปรับลดภาษีสุราชุมชนให้แข่งขันในตลาดได้ ทบทวนการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ทบทวนแก้ไขกฎหมายที่เป็นปัญหา มีกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมสุราพื้นบ้านที่จะให้อยู่รอดได้ซึ่งเครือข่ายสุราชุมชนต่างพอใจ

การให้ผู้ประกอบการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐอย่างเต็มที่ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสุรามีความเข้มแข็งอย่างเต็มที่

หน.พรรคมหาชน ให้สัมภาษณ์กรณีที่นางเยาวภาประกาศว่า พรรคไทยรักไทยจะกวาดที่นั่งใน 3 จังหวัดภาคเหนือว่า เป็นการพูดเพื่อปลอบใจตัวเองมากกว่า เพราะเชียงใหม่คงได้ไม่ถึง 5 ที่นั่ง
ลำพูนก็คงไม่ได้ทั้ง 3 เขตและแม่ฮ่องสอนคงได้ 1 ที่นั่งเท่านั้น สำหรับพรรคมหาชนสถานการณ์ในภาคเหนือตอนบนได้รับคะแนนนิยมสูงขึ้น วันที่ 6 ก.พ.จะเป็นวันปลดหนี้กองทุนหมู่บ้านมีคนพูดว่าให้เลือกคนที่ใส่เสื้อสีแดงนั่นคือมหาชนเพื่อปลดหนี้ แต่ถ้าเลือกไทยรักไทยก็จะเป็นหนี้มากขึ้น

"พรรคไทยรักไทยคิดว่าตัวเองพองคับฟ้า ว่า 3 จังหวัดจะไม่ให้ใครเป็นตัวอย่างของการพองซึ่งพรรคจะทำให้ไทยรักไทยเห็นว่าไม่มีใครสนับสนุน สำหรับเชียงใหม่เรามั่นใจว่าไม่ต่ำกว่า 3 ที่นั่งแต่ไม่บอกว่าเขตไหนเพราะจะถูกรบกวน พรรคมหาชนวางเป้าหมายไว้ 50-70 ที่นั่งเพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับประชาธิปัตย์และชาติไทย โดยจะให้ไทยรักไทยได้ต่ำกว่า 250 ที่นั่งและถ้ารวมกันจัดตั้งรัฐบาล หัวหน้าพรรคมหาชนมีผมคนเดียวที่ประกาศขอเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนท่านบรรหารอายุมากและขี้เกรงใจประกาศเป็นรัฐบาลเท่านั้น ส่วนประชาธิปัตย์ก็ประกาศขอเป็นฝ่ายค้าน"นายเอนก กล่าว

พรรคมหาชนยังได้ประกาศปฏิญญาชนเผ่า โดยมีชนเผ่าต่างๆ ประมาณ 500 คนในพื้นที่ 3 จังหวัดคือเชียงใหม่ ลำพูน พะเยาเข้าร่วม ซึ่งนายอเนกกล่าวว่า ต้องการให้ชนเผ่ามีสิทธิและส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ให้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ รักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่เหมาะสม รวมถึงให้สัญชาติไทยที่ต้องทำอย่างรวดเร็วเพราะบางชนเผ่าอยู่ในไทยมาหลายร้อยปีแต่ยังไม่มีบัตรประชาชน

บ่ายวันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้มาปราศรับกับชาวอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ช่วยนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ของพรรค ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนกว่า 2,000 คน ที่โรงเรียนสันทรายพิทยาคม โดยนายชวนได้ย้ำถึงความแข็งแกร่งของระบบพรรคการเมืองที่ประชาธิปัตย์พัฒนาตนเองมาถึง 58 ปี รุ่งเรืองบ้าง ตกต่ำบ้าง แต่ด้วยระบบทำให้คงอยู่ และไม่ว่าจะเปลี่ยนใครเป็นหัวหน้าพรรค พรรคก็คงอยู่
ผิดกับไทยรักไทยที่อนาคตเมื่อพ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแล้ว จะอยู่ได้ยาวแต่ไหนไม่รู้ ดังนั้นการที่นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ตัดสินใจมาอยู่ประชาธิปัตย์เป็นการคิดถูกแล้ว เพราะประชาธิ
ปัตย์ให้โอกาสทำงานตามความตั้งใจ ช่วยกันสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่สร้างหนี้ให้รากหญ้าและมีเพียงคนบางกลุ่มที่รวยเท่านั้น

จากนั้นนายชวนยังได้ไปปราศรับที่ อ.พร้าว และบ้านแม่หอพระ อ.แม่แตง พื้นที่เขต 4 และกลับมาเดินถนนคนเดินวัวลายช่วย รอ.หญิง ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่หาเสียงในเขต 1 อีก

วันถัดมา 26 ธันวาคม 2547 พรรครักษ์ถิ่นไทยหรือพรรคถิ่นไทยของดร.พิจิตต รัตตกุล
ในอดีต ได้มาจัดเสวนาเรื่องการเมืองไทยในทศวรรษหน้า โดยเชิญนักวิชาการมาให้ความรู้ความเข้าใจการเมืองต่อผู้สนใจที่เข้ามารับฟังราว100 คน ว่าที่ร้อยตรีวิทวัส ต.แสงจันทร์ หัวหน้าพรรครักษ์ถิ่นไทยให้สัมภาษณ์ว่าได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ 57 เขตและปาร์ตี้ลิสต์ 20 คนเป้าหมายคิดว่าหากได้รับเลือกตั้งเพียง 2 คนก็ถือว่าสำเร็จ เพราะพรรคต้องการสร้างการเมืองในอุดมคติไม่ใช่เป็นพรรคเฉพาะกิจ ซึ่งรู้ว่าต้องใช้เวลาและไม่ได้ต้องการเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจแต่ต้องการชูจริยธรรมและนิเวศวิทยาตามแนวคิดการเมืองสีเขียวโดยคาดหมายในเขต 9 คลองเตย กรุงเทพ และเขต 5 กาฬสินธุ์ส่วนจังหวัดเชียงใหม่จะส่งผู้สมัครลงในเขต 1 และเขต 2แม้จะรู้ว่าสู้กับพรรคการเมืองใหญ่ได้ยากแต่เชื่อว่าอุดมการณ์ของพรรคสอดคล้องกับความต้องการของคนเชียงใหม่ที่อยากเห็นบ้านเมืองมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีวัฒนธรรมที่ดี

พรรครักษ์ถิ่นไทย เกิดขึ้นเมื่อปี 2543 โดยดร.พิจิตตรัตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ปี
2545ถูกศาลรัฐธรรมนุญมีคำสั่งให้ยุบพรรคเพราะไม่ส่งรายงานกิจกรรมพรรคการเมืองตามแบบที่กฎหมายกำหนดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีผู้สมัครที่ได้รับเลือก 1คน คือ จ.ร้อยเอ็ด

แต่หลังจากคลื่นยักษ์โถมฝั่งอันดามัน เหล่าพรรคการเมืองต่างพร้อมใจกันหยุดนิ่งภารกิจทางการเมืองไว้อาลัยกับผู้สูญเสีย กระนั้นหลังจากปีใหม่ผ่านพ้น ทะเลแห่งการเมืองก็ยังสงบนิ่ง แต่คลื่นใต้น้ำ ยังไม่มีใครล่วงรู้ได้

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net