Skip to main content
sharethis

"สุวัจน์"ยันไนท์ซาฟารีเปิดสงกรานต์นี้แน่ แม้ไม่เต็มโปรเจ็กต์ เผยต้องซ้อมมือกันก่อน เตรียมโยกเจ้าหน้าที่ทั้งจากกรมอุทยานและองค์การสวนสัตว์นับ 100 มารองรับ ชี้ข้อแลกเปลี่ยนสัตว์กับเคนยา ไทยส่งควาญไปช่วยอพยพช้าง ขณะที่เงื่อนไขค่าเข้าชมยังสับสนพื้นที่ให้ปรับเป็น 800 บาทแต่ "ปลอด"ยังแคลงใจทำไมต้องขอชักเปอร์เซ็นต์ตั้ง 40 ทะยอยนำสัตว์เข้า/ย้ำเปิดทันแน่การ

มาติดตามความคืบหน้า โครงการสวนสัตว์กลางคืนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีล่าสุด ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรีและคณะ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2547 ยังคงยืนยันว่า กำหนดการเปิดตัวโครงการนี้ยังคงเป็นวันสงกรานต์ 13 เมษายนที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน หากแต่ว่าเป็นเพียงบางส่วนไม่เต็มโครงการ

เป็นบางส่วนที่คณะทำงานด้านสัตว์ป่าบอกว่า จะมีสัตว์ราว 17 รายการมานำเสนอ และส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่จัดหาในประเทศก่อน แต่รองนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่า สัตว์จากประเทศเคนยาจะเดินทางมาอยู่ในไนท์ซาฟารีเดือนหน้า (กุมภาพันธ์) เพราะผู้เชี่ยวชาญจากเคนยาได้มาตรวจสภาพพื้นที่และพอใจมากแล้ว และความคืบหน้าก่อสร้างพื้นที่แล้วเสร็จ 80 % แล้ว

นายประสพ ทิพยประเสริฐ ผู้จัดการด้านสัตว์ป่าโครงการ กล่าวในการประชุมร่วมคณะกรรมการด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวและคณะกรรมการประชาสัมพันธ์โครงการฯ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2547 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ว่า สัตว์ที่จะเข้าสู่โครงการไนท์ซาฟารี มีทั้งหมด 4 ประเภท

1.สัตว์ในประเทศที่มีอยู่แล้ว (จากกรมอุทยาน) 8 รายการ 92 ตัว
2.สัตว์ที่ต้องจัดหาในประเทศ ทั้งจากการซื้อและจัดหาจากหน่วยงานต่าง ๆ (กรมอุทยาน,องค์การสวนสัตว์,สวนสัตว์เอกชน และอ.อ.ป.)48 รายการ 868 ตัว
3. สัตว์ที่แลกเปลี่ยนและสนับสนุนระหว่างประเทศออสเตรเลียและเคนยา 38 รายการ
379 ตัว และ4.สัตว์จากต่างประเทศที่ต้องจัดหาหรือซื้อ 28 รายการ 353 ตัว คาดว่าในเดือนมีนาคมจะเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าพื้นที่ได้ไม่น้อยกว่า 17 รายการ

สัตว์เคนยาแลกควาญช้างไทย
นายสุวัจน์บอกว่าเคนยาไม่เคยให้สัตว์ใคร ประเทศไทยเป็นแห่งแรกที่จะมีความร่วมมือด้วย
โดยสัตว์ที่จะมาอยู่ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นประเภท BIG FIVE (สัตว์ใหญ่ที่สุดยอดในทุ่งซาฟารี 5 ชนิดคือช้าง แรด สิงโต กะทิง และเสือดาว) เพียงแต่ห่วงว่าเมื่อสัตว์มาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงกลัวจะเสียชีวิต และได้ส่งผู้เชี่ยวชาญจากเคนยามาตรวจสภาพพื้นที่แล้วรู้สึกพอใจในสถานที่โดยบอกว่าไม่นึกว่าจะยิ่งใหญ่เช่นนี้ โดยจะมีโครงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างกัน
โดยเคนยากำลังต้องการอพยพช้างที่มีอยู่มากในเมืองและเมืองกำลังขยาย ก็จะให้ไทยส่งผู้เชี่ยวชาญและควาญไปเพื่ออพยพหรือฝึกสอนช้างที่นั่น

หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายปลอดประสพ สุรัสวดี ซีอีโอโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีว่า โครงการแลกเปลี่ยนนี้ไทยจะส่งเสือ 6 ตัวและ ควาญช้าง 5 คนเพื่อไปฝึกช้างแอฟริกาที่เคนยาแลกกับสัตว์จากทุ่งซาวานาประเทศเคนยา 34 รายการประมาณ 300 ตัว ซึ่งสัตว์เหล่านี้ก็มีประเภทช้างแอฟริกา,ละมั่ง นกหายากและสัตว์เลื้อยคลานประเภทกิ้งก่า ที่จะไปคัดเลือกจากอุทยานแห่งชาติที่เคนยา

"การฝึกช้างแอฟริกาที่ควาญไทยจะไปดำเนินการว่าถือเป็นครั้งแรกที่ใครๆก็เชื่อกันว่าไม่สามารถทำให้ช้างแอฟริกาเชื่องได้ แต่เราเชื่อว่าเราทำได้ โดยควาญทั้ง 5 จะเดินทางไปเมืองหลวงของเคนยาในต้นปีนี้"ไม่มีรายละเอียดว่าไทยจะต้องนำอะไรไปแลกเปลี่ยนสัตว์ 8 รายการ 40 ตัวจากออสเตรเลีย แต่มีการระบุในคำให้สัมภาษณ์ของนายปลอดประสพในรายงานข่าวของบางกอกโพสต์เช่นกันว่าอาจมีสัตว์บางประเภทมาจาก ทานซาเนีย และแอฟริกาใต้ด้วย

โยกเจ้าหน้าที่ 100 คนมาเลี้ยง
นายปลอดประสพ ให้สัมภาษณ์ "พลเมืองเหนือ"ว่าบุคลากรที่จะบริหารจัดการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะใช้ราว 300 คน ส่วนใหญ่จะให้เป็นคนท้องถิ่น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้จ้างใครสักคน ทั้งนี้การจัดการสัตว์จะดำเนินการเอง โดยโอนคนที่มีประสพการณ์จากองค์การสวนสัตว์ กรมอุทยาน และจากภาคเอกชนราว 100 คนเพื่อดูแลสัตว์โดยเฉพาะ

แหล่งข่าวจากองค์การสวนสัตว์กล่าวว่า ในชั้นแรกคนในวงการนี้ก็ให้ความสนใจเนื่องจากกำหนดอัตราค่าตอบแทนที่จูงใจให้ย้ายโอนมา แต่ระยะหลังดูเหมือนว่าวิมานที่วาดจะค่อยๆ ลดลง ทั้งอัตราค่าตอบแทนและเงื่อนไข นอกจากนั้นบุคลากรที่มีอยู่ในแต่ละที่ก็จำกัด รวมไปถึงวุฒิการศึกษาด้วยเช่นผู้ดูแลสัตว์ ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในสวนสัตว์ระดับโลกต้องจบปริญญาตรี แต่สวนสัตว์เมืองไทยยังผ่อนผันให้วุฒิต่ำกว่านี้ในส่วนของผู้ดูแลสัตว์

ทั้งนี้ความคืบหน้าการบริหารโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนี้คณะทำงานฯกำลังได้จัดทำแผนที่
กำหนดพิกัด เพื่อประกาศพื้นที่โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

จังหวัดกับปลอดสวนทาง-ค่าเข้าไม่สรุป

นายสมชาย เบญจชย เลขานุการคณะกรรมการด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวกล่าวในที่ประชุมเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2547 ถึงอัตราค่าเข้าชมว่า มีประกาศจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งคณะทำงานปรับโครงสร้างราคาค่าเข้าชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2547 และมีมติปรับแก้ไขโครงสร้างราคาว่า ข้อมูลเดิม นักท่องเที่ยวต่างประเทศ 400 บาท คนไทย 250 บาท นักท่องเที่ยวท้องถิ่น 170 บาท ให้ปรับแก้ไขเป็นราคาเดียวคือ 800 บาท และลดครึ่งราคาสำหรับเด็ก

คณะทำงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอกชนที่ประกอบธุรกิจทางการท่องเที่ยวระบุถึงเหตุผลของการปรับราคาว่าเพื่อให้สอดคล้องกับค่าบัตรเข้าชมสวนสัตว์ในต่างประเทศทั่วโลกที่มีราคาเดียว และค่าบัตรราคาเดียว จะไม่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียความรู้สึกในความแตกต่าง
ทั้งนี้ในการบริหารจัดการให้คนท้องถิ่นมีส่วนร่วม สามารถใช้ระบบสมาชิกด้วยราคาที่ถูกมาก เช่นเข้าฟรีใน 30 วันแรก พร้อมกันนี้ยังให้ข้อสังเกตถึงความซับซ้อนของราคาค่าบัตรเข้าชมว่า สำหรับบริษัทท่องเที่ยวอาตมี 3 - 4 ระดับ เช่นหากจองทางอินเตอร์เน็ต ได้ส่วนลด 10 % แต่ถ้าจองผ่านบริษัทท่องเที่ยวท้องถิ่นในประเทศมีส่วนลดที่มากกว่าเป็นต้น รวมทั้งมีราคาขายส่งและราคาขายปลีกที่แตกต่างกันไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อ "พลเมืองเหนือ" สอบถามนายปลอดประสพเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2547 ยังคงยืนยันว่าราคาค่าเข้าชมอยู่ที่ต่างชาติ 400 คนไทย 200 บาทตามเดิม หากเป็น 800 บาทจะถูกวิจารณ์ว่าแพงมากไปแน่ และก็ไม่ได้มีการลดครึ่งราคาสำหรับคนท้องถิ่น แต่หากเป็นวันเชิญให้คนท้องถิ่นเข้าชมอาจเป็นไปได้ เพราะหากใช้วิธีหักครึ่งราคาระบบนี้ก๋จะต้องทำทั่งประเทศด้วย
ทั้งนี้เรื่องการตลาดก็มีเจ้าหน้าที่ที่เริ่มต้นทำแล้วโดยมีเอเย่นต์ทัวร์ประสานงานเข้ามาแต่สิ่งที่ตนเองตะขิดตะขวงใจอยู่ก็คือการคิดอัตราเปอร์เซนต์ว่าจะต้องถูกกว่าราคาขายถึง 40 % ซึ่งตนเห็นว่าเกินไปเพราะไนท์ซาฟารีเป็นของหลวงไม่ใช่ของบริษัทเอกชน

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net