Skip to main content
sharethis

"ทั้งกฟผ.และภาครัฐคิดแต่ความคุ้มทุน แต่ไม่ได้คำนึงถึงต้นทุนชีวิตที่ผู้คนต้องสูญเสียไป เฉพาะแค่ปี 2544-2548 ที่ผ่านมา มีคนตายด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด และโรคหอบหืด กว่า 300 ราย และมีคนป่วยอีกกว่า 2,800 ราย ที่กำลังนอนรอความตาย ทำไม กฟผ.และภาครัฐจึงไม่คำนึงถึงชีวิตคนเหล่านี้..." นั่นคือเสียงบอกเล่า ของ นางมะลิวัลย์ นาควิโรจน์ ที่เอ่ยออกมาในเช้าวันนั้น...

ลึกลงไปใต้ดินผืนนั้น มีถ่านหินที่หลายคนเรียกกันว่า "มัจจุราชสีดำ" ซุกซ่อนอยู่

บนเนื้อที่ 135 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในแอ่งที่ราบหุบเขา ในเขตพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ลึกลงไปใต้ผืนดินผืนมหึมานั้น มีลิกไนต์ซ่อนตัวอยู่สงบ ครั้นปี พ.ศ.2498 ผืนดินผืนนั้นได้ถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ด้วยระเบิดไดนาไมต์

ทุกวันๆ หัวหน้างานจะสั่งให้คนงานจัดการนำปุ๋ยยูเรีย จำนวน 2 กระสอบต่อ 1 หลุม ก่อนทำการปะทุด้วยไดนาไมต์ระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว แรงระเบิดครั้งหนึ่ง ได้ทำให้ผืนดินนั้นกลายเป็นหลุมลึกลงไปกว่า 10 เมตร ในเนื้อที่กว้างประมาณ 1 ไร่

แรงระเบิดในแต่ละครั้ง ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ใกล้บริเวณเหมืองนั้นสั่นสะเทือนจนแตกร้าว!

หลังจากนั้น ได้มีการปรับปรุงขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ.2523 จนถึงปัจจุบัน เหมืองถ่านหินแห่งนี้ได้วันละกว่า 50,000 ตัน เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ซึ่งถือว่า เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ในนามของการพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ที่อบอวลด้วยมลพิษ ชีวิต และความตาย

ปี พ.ศ.2535... หมู่บ้านที่ตั้งอยู่รอบๆ โรงไฟฟ้าเริ่มพบกับปัญหาความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อน หลายคนเริ่มสงสัย เมื่อจู่ๆ ชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่จำนวนมาก มีอาการล้มป่วยกันมากจนผิดปกติ บางคนมีอาการระคายเคือง หายใจลำบาก แสบจมูก แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยผดผื่นคัน เมื่อไปรักษาก็ไม่หายขาด

แพทย์จากโรงพยาบาล ระบุว่า ชาวบ้านป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด หอบหืด และเยื่อบุจมูกอักเสบ...

ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านซึ่งเป็นเกษตรกรปลูกพืชผัก ผลไม้ เริ่มพบความผิดปกติ เมื่อเห็นใบของสับประรดนั้นหงิกงอ เหี่ยวเฉา เป็นรอยไหม้เป็นจุดๆ บางพื้นที่พืชผักเสียหายไปทั้งแปลง
อีกทั้งชาวบ้านยังพบอีกว่า สัตว์เลี้ยงต่างๆ เริ่มทยอยล้มตายลงอย่างต่อเนื่อง

ทุกคนจึงตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุนั้น น่าจะมาจากฝุ่นพิษจากโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ เนื่องจากมีการขุดเจาะหน้าดิน รวมไปถึงการปล่อยควันออกจากปล่องลอยคลุ้งไปทั่วพื้นที่บริเวณรอบๆ โรงไฟฟ้า จนทำให้ชาวบ้านป่วยเป็นโรคที่เกิดจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โดยเกิดจากถ่านหินลิกไนต์ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศ

ชาวบ้านจำนวน 16 หมู่บ้าน ในเขต อ.แม่เมาะ ที่ได้รับผลกระทบเริ่มรวมตัวกันเรียกร้องและคัดค้าน เพื่อให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.) รวมทั้งภาครัฐเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา และรับผิดชอบ

คำมั่นสัญญา ของ กฟผ.: สัญญาที่ว่างเปล่า

"พวกเรารวมตัวกันยื่นหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยในครั้งนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กฟผ.และชาวบ้านที่เดือดร้อนเข้าร่วมประชาสังคม จำได้ว่า ตอนนั้น ทาง กฟผ.ได้ออกมายอมรับ และบอกว่า ไม่มีเครื่องตรวจจับสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และรับปากว่า จะรีบทำการอพยพโยกย้ายหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้ง 16 หมู่บ้าน ไปอยู่ในที่แห่งใหม่" นางมะลิวัลย์ กล่าว

2 ปีผ่านไป...ทุกอย่างยังเหมือนเดิม สิ่งที่ทาง กฟผ.และรัฐรับปากกับชาวบ้าน ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทว่ารัฐกลับอนุมัติงบประมาณจัดซื้อเครื่องกรองสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จำนวน 10 เครื่อง เพื่อทำการติดตั้งไว้ภายในโรงไฟฟ้า แทนการให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน

ว่ากันว่า...เครื่องกรองสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ตกราคาเครื่องละกว่า 1 พันล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 1หมื่นล้านบาท และทำการติดตั้งจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2539
พอถึงปี พ.ศ.2541 เครื่องกรองสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ได้ชำรุดเสียหายทั้ง 10 เครื่อง ซึ่งทำให้ใช้การไม่ได้เลย นั่นคือสิ่งที่สะท้อนให้ชาวบ้านได้มองเห็นหายนะภัยที่คืบคลานเข้ามาอย่างหนักหน่วง

"หลังจากเครื่องกรองสารฯ ใช้การไม่ได้ ถือว่า เป็นช่วงที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด พืชผักเสียหาย ผู้คนล้มป่วย ล้มตายอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง วัว ควาย ต่างล้มตายกันไม่เว้นแต่ละวัน มีการหามผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลแม่เมาะ และโรงพยาบาลในโรงไฟฟ้าแม่เมาะจนไม่พอรองรับ รับไม่ไหว...ต้องพากันหามไปส่งโรงพยาบาลในตัวเมือง ชาวบ้านทั้ง 16 หมู่บ้าน จึงรวมตัวประท้วง เข้าไปปิดโรงไฟฟ้าเพื่อกดดันให้ออกมารับผิดชอบกันอีกครั้งหนึ่ง" นางมะลิวัลย์ แกนนำชาวบ้านเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกที่อัดแน่น...

"รัฐไม่ได้จริงใจกับชาวบ้าน ไม่ยอมเร่งแก้ปัญหาโดยการอพยพชาวบ้านออกพื้นที่ แต่กลับไปทุ่มงบประมาณมหาศาลกว่าหมื่นล้านไปสร้างเครื่องกรองสารพิษแทน ซึ่งมองเหมือนกับว่า ชีวิตคนแม่เมาะนั้นไม่มีคุณค่า..." เธอเอ่ยออกมาอย่างทดท้อ

...ทางผู้ว่าการโรงไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ ออกมายอมรับต่อหน้าสาธารณชนว่า เกิดปัญหานี้ขึ้นมาเพราะเครื่องตรวจกรองสารฯ ใช้การไม่ได้จริง และฝ่ายรัฐได้ออกมารับปากพร้อมมีการเซ็นสัญญาบันทึกเอาไว้ว่า...จะเร่งดำเนินการอพยพย้ายหมู่บ้านออกจากพื้นที่โดยเร็ว

แต่ท้ายสุด...เหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
และคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับชาวบ้าน...กลายเป็นเพียงสัญญาที่ว่างเปล่า

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ รายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net