Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-5 ก.พ.48 วานนี้ ตัวแทน 25 องค์กรประชาชน, นักวิชาการและสหภาพรัฐวิสาหกิจคัดค้านร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษประมาณ 50 คน นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล และ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ได้เริ่มพิธีอ่านคำประกาศกรุงรัตนโกสินทร์ คัดค้านร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริเวณสนามหลวง ด้านพระเทพบิดร พระบรมมหาราชวัง

ส่วนในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระศรีปริยัติโมลี พร้อมด้วยสงฆ์อีก 8 รูปได้สวดปัดรังควานและไล่เสนียดจัญไร

ตัวแทนกลุ่มคัดค้านได้อย่างแถลงการณ์ความว่า

"พวกเราเหล่าลูกหลานไทยทั้งหลาย มารวมกัน ณ ปราสาทพระเทพบิดร อันเป็นที่สถิตย์แห่งดวงพระวิญญาณของเหล่าบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า เพื่ออาศัยพระบารมีเป็นที่พึ่งในการต่อสู้คัดค้านร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ

นับตั้งแต่บรรพชนไทยได้ดิ้นรนต่อสู้เพื่ออิสรภาพจนสร้างบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นผ่านมาหลายยุคหลายสมัย กระทั่งถึงยุครัตนโกสินทร์ ทั้งนี้ก็เพราะจิตวิญญาณที่รักอธิปไตยและความเป็นไทอย่างเหนียวแน่นของประชาชนชาวไทย

จริงอยู่ก่อนยุครัตนโกสินทร์ เราเคยเสียบ้านเสียเมืองถึง ๒ ครั้ง ทั้งนี้ล้วนเกิดจากความอ่อนแอของสังคมไทยในยุคนั้นเอง และมีชนชั้นปกครองบางกลุ่มทำตัวเป็นไส้ศึกเปิดประตูเมืองให้ผู้รุกราน ในยุครัตนโกสินทร์เอง สยามประเทศเคยสูญเสียอธิปไตยทางศาลและทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสูญเสียดินแดนบางส่วนให้แก่จักรวรรดินิยม แต่ก็เป็นการสูญเสียอธิปไตยที่เกิดจากการบีบบังคับด้วยนโยบายเรือปืนของชาติมหาอำนาจ ซึ่งรัฐบาลราชาธิปไตยนับตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ ได้พยายามแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคดังกล่าวตลอดมา จนสามารถได้เอกราชอย่างสมบูรณ์กลับคืนมาในรัฐบาลประชาธิปไตยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘

มาบัดนี้ รัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบันได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีรับหลักการร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเงียบเชียบ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นวาระซ่อนเร้นท่ามกลางความเศร้าโศกของสังคมต่อกรณีภัยพิบัติสึนามิ และไม่ได้อยู่ในนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองนั้น ซึ่งจะถูกผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ภายหลังการเลือกตั้ง แน่นอนว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จะผ่านรัฐสภาอย่างง่ายดายด้วยเสียงข้างมากของฝ่ายรัฐบาล

ร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นกฎหมายที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของประเทศ
ชาติและประชาชนโดยสังเขปดังนี้

1. ร่างกฎหมายฉบับนี้ ให้อำนาจแก่กลุ่มบุคคลในการกำหนดพื้นที่ใดก็ได้ในพระราชอาณาจักรให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยไม่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เขตเศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจเหนือการปกครองส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น (มาตรา ๑๖, ๒๑,๓๕)

2. เขตเศรษฐกิจพิเศษได้รับการยกเว้นไม่ขึ้นอยู่กับกฎหมายสำคัญๆ เกือบทุกฉบับ ที่ขัดขวางการแสวงหาประโยชน์ เช่น กฎหมายอุทยานแห่งชาติ กฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ กฎหมายชลประทานราษฎร์ กฎหมายแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายผังเมือง กฎหมายที่ดิน พระราชบัญญัติสงฆ์ เสมือนเป็นรัฐใหม่ครอบรัฐเดิม (มาตรา ๓๐)

3. ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้ยกเว้นภาษีทุกชนิดให้กับผู้ประกอบการ และยังอนุญาตให้นำเงินออกนอกประเทศโดยเสรี (มาตรา ๓๓, ๓๔, ๗๐)

4. เขตเศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดในการเพิกถอนที่สาธารณสมบัติทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เขตวนอนุยานแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ ที่ดินสาธารณะ ที่ธรณีสงฆ์และน่าจะรวมไปถึงที่ราชพัสดุ
และที่ดินส่วนพระมหากษัตริย์ให้มาเป็นที่ของเอกชน และสามารถนำไปขายหรือให้เช่ากับคนต่างด้าวในการประกอบกิจการทุกชนิด (มาตรา ๖๒)

5. ร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษนำไปสู่การละเมิดพระราชอำนาจ เนื่องจากให้อำนาจแก่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษในการตัดสิน บังคับคดีโดยไม่ผ่านกระบวนการทางตุลาการ ด้วยเหตุที่ร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษมีอันตรายร้ายแรงต่อประเทศชาติและประชาชนดังได้กล่าวมาข้างต้น จึงควรที่พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งมวลจะได้ร่วมใจกันคัดค้านไม่ให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้"

เมื่อกล่าวคำประกาศจบ พระศรีปริยัติโมลีได้นำสวดอภิธรรมอีกครั้งก่อนพรมน้ำมนต์ให้เกิดสิริมงคลแก่ตัวแทน 25 องค์กรดังกล่าว จากนั้น พระศรีปริยัติโมลี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คณะสงฆ์มีความห่วงใยถึงการที่รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีผ่านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้จะเปิดโอกาสให้เอกชนยึดที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ธรณีสงฆ์ไปหาประโยชน์ ไม่ต่างอะไรกับ พระราชบัญญัติที่ดินสงฆ์ ฉบับที่ 2 และยังเปิดช่องให้มีการตั้งคาสิโนมอมเมาประชาชน ซึ่งน่าห่วงใยมาก

วันนี้คณะสงฆ์จึงได้สวดบทปัดรังควาญและเสนียดจัญไร เนื่องจากในปัจจุบันมีเสนียดจัญไรอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภามากเหลือเกิน เกาะกุมจิตใจผู้นำ และจากนั้นก็ได้สวดมนต์ให้เกิดความสุขสวัสดิ์แก่บ้านเมืองด้วย

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net