ริน นศ.มอ.ปัตตานี น้ำเสียงสั่นเครือ ทุกวันนี้ เขาและเพื่อนๆ ไม่เคยนอนหลับได้เต็มอิ่ม เพราะหากไม่ฝันร้ายก็ได้แต่ผวาแม้เสียงรถยนต์ที่วิ่งเข้ามาใกล้ กลัวว่าจะเป็นเสียงของเหล่าตำรวจและทหารที่จะเข้ามาจับ เพราะนี่คือภาพที่เกิดขึ้นชินตา
รินและเพื่อน เป็นกลุ่มเด็กกิจกรรมในมหาวิทยาลัย ไม่ต่างกับนศ.มหาวิทยาลัยในภูมิภาคอื่นๆ ที่ทำงานออกค่าย ทำงานอาสา ล่าสุด ในฐานะที่เขาเป็นคนในพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อเหตุการณ์ความรุนแรง จึงเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเพื่อพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ
แต่รินก็เล่าซื่อๆว่า จะให้เขาเก็บข้อมูลอะไร เขาทำไม่เป็นหรอก เพราะไม่รู้ว่าต้องทำยังไงหรือต้องพูดอะไร เขาคิดแค่ว่า อยากไปเยี่ยมครอบครัวพวกเขาเหล่านั้น
แต่สุดท้าย เขาก็ได้ข้อมูลสรุปถึงผู้เสียชีวิต ทั้งทหารและประชาชน รวม 108 ศพ
เมื่อรวมได้เป็นเล่ม เขาจึงยื่นให้แก่ "ผู้ใหญ่" ท่านหนึ่งเมื่อมีโอกาส
ทว่า! ทันทีหลังจากนั้น เมื่อรินเดินทางกลับบ้านแล้วแวะกินข้าวกับเพื่อน ก็รู้สึกได้ว่า กำลังถูกจับตามอง
หลังกินข้าว เพื่อนๆ ก็แยกกลับบ้านพัก เป็นบ้านพักที่เพื่อนๆ เช่าอยู่ด้วยกัน
แล้วความไม่สงบก็ปรากฏตัวให้เห็น
คืนนั้น เวลาประมาณตีสอง มีตำรวจและทหาร 4 คันรถ เข้ามาขับวนในซอย สักพักหนึ่งก็จอดหน้าบ้าน แล้วก็มีตำรวจมาเคาะประตูเรียก และบอกว่า อาศัยกฎอัยการศึก จะขอตรวจค้น ขณะนั้นเพื่อนส่วนใหญ่นอนหลับแล้ว ทุกคนถูกปลุกให้ไปรวมกันในครัว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปค้นในบ้าน โดยยอมให้ตัวแทนเจ้าของบ้านพักหนึ่งคนเข้าไปในห้องด้วย
เจ้าหน้าที่ ค้นบ้านโดยละเอียด โดยเฉพาะหนังสือและเอกสารต่างๆ จะเป็นที่สนใจของเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษ เมื่อค้นเสร็จ ก็สอบประวัติทุกคนพร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บไว้
หลังจากการเก็บข้อมูลได้ระยะหนึ่ง ก็มีนศ.มอ.ปัตตานีคนหนึ่งเสียชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เพื่อน นศ.เหล่านั้นถูกเรียกสอบอีกครั้งหนึ่ง
มาครั้งนี้ พวกเขากลัวจนแทบจะไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ แต่ทุกคนคุยกันว่า ยังไงก็ต้องทำเข้มแข็งไปพบกับเจ้าหน้าที่
ไร้ซึ่งสันติภาพ ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี นี่คือสถานการณ์ที่ทุกคนต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้
ซ้ำร้าย เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ความรุนแรงถูกย้ำผ่านกระบอกเสียงของสื่อมวลชนที่ต่างลงข่าวว่า นักศึกษามอ.ปัตตานีถูกจับ ผลกระทบจึงบานปลายไม่เฉพาะแต่กลุ่มเพื่อนของผู้ถูกจับ แต่ลุกลามไปยังนักศึกษาอื่นไม่ว่าศาสนาใด บานปลายไปกระทบถึงบุคลากรของมหาวิทยาลัยด้วย
การเข้าใจไปเอง ยังเกิดขึ้นเมื่อได้พบ "คอมพิวเตอร์" "โปสเตอร์" และ "ตะปู"
เพราะ "คอมพิวเตอร์" มีข้อมูลของผู้เสียชีวิต จึงทำให้ถูกเข้าใจว่า พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้อง?
เพราะ "โปสเตอร์" ที่ชวนเพื่อนนศ.เข้าร่วมสอนหนังสือในชุมชนว่าด้วยความสะอาดและความจำเป็นพื้นฐานในการประกอบพิธีกรรม จึงทำให้ถูกเข้าใจว่า จะชักจูงหรือปลุกระดม?
เพราะ "ตะปู" ไม่กี่กำมือ ที่มาจากการสร้างโรงเรียนในชนบท จึงทำให้ถูกเข้าใจว่า เป็นตะปูเรือใบที่พูดกันหนาหู?
แล้วความไม่สงบเหล่านี้ ใครคือผู้ก่อ
ประชาไทรายงาน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)