ประชาไท-22 ก.พ.48 รอยเตอร์รายงานว่า ดร.จูลี เกอร์เบอร์ดิง ผู้อำนวยการศูนย์การควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า โรคไข้หวัดนกถือเป็นภัยคุกคามรุนแรงที่สุดเพียงอย่างเดียวของโลกในขณะนี้ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาจจะยังไม่มีเครื่องมือทุกอย่างที่จำเป็นในการต่อสู้กับโรคดังกล่าว

"ความพยายามในการผลิตวัคซีนยังคงมุ่งไปที่ไข้หวัดใหญ่ซึ่งส่งผลให้ชาวอเมริกันเสียชีวิต 36,000 คนในทุกปี และจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหันมาเร่งผลิตวัคซีนพิเศษสำหรับโรคไข้หวัดนกหากเกิดการระบาดขึ้น นี่เป็นลางไม่ดีสำหรับโลก ดิฉันคิดว่าเราทุกคนคงจดจำการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในปี 1918 ซึ่งแพร่กระจายจากนกสู่คน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 20-40 ล้านคนทั่วโลก" ดร.เกอร์เบอร์ดิง กล่าว

ดร.เกอร์เบอร์ดิงกล่าวว่า ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่ปรากฎขึ้นครั้งแรกในฮ่องกงในปี 1997 และนับตั้งแต่นั้นมาได้เกิดขึ้นอีก 2 ครั้ง กำลังพัฒนาไปและสามารถแพร่กระจายโดยตรงจากนกสู่คน ซึ่งส่งผลให้คนไข้ที่ได้รับการวินิจฉัยโรคประมาณ 72 % เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้บันทึกว่า ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 45 คนจากโรคไข้หวัดนก

โรคไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ซึ่งลุก ลามจากจีนในปี 2003 และทำให้มีผู้เสียชีวิต 800 คนและสร้างความวิตกทั่วโลกก่อนที่โรคดังกล่าวจะยุติล และโรคไข้หวัดใหญ่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเร็วกว่าโรคอื่นๆ อาทิ โรคเอดส์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคนในช่วงเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

"ฤดูกาลแพร่ระบาดสูงสุดของโรคไข้หวัดนกเพิ่งจะเริ่มขึ้นในเอเชีย โดยสายพันธุ์นี้แพร่กระจายในวงกว้างในสัตว์ปีกและเป็ด โดยมีโอกาสที่ไวรัสนี้จะรวมตัวกับไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่เกิดในมนุษย์หรือกับสัตว์ปีกสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฮ่องกงสามารถหยุดยั้งเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้ด้วยการฆ่าสัตว์ปีกจำนวนมาก แต่เป็นสิ่งที่ทำได้ยากขึ้นในขณะนี้เมื่อโรคดังกล่าวได้ลุกลามไปยังไทย, เวียดนาม, กัมพูชา และประเทศอื่นๆ" ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข กล่าว

ดร.เกอร์เบอร์ดิง กล่าวอีกว่า รัฐบาลสหรัฐได้ทำสัญญากับบริษัท 2 แห่งที่ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้แก่ บริษัทชิรอน คอร์ป และซาโนฟี อเวนติส เพื่อให้ผลิตวัคซีนโรคไข้หวัดนกซึ่งจะเริ่มการทดสอบในคนในปีนี้ ซึ่งการขาดแคลนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปีนี้อันเกิดจากปัญหาการปนเปื้อนที่โรงงานในอังกฤษของชิรอนบ่งชี้ถึงความสามารถที่ยังจำกัดในการผลิตวัคซีน โดยมีบริษัทเพียง 3 แห่งที่ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับตลาดสหรัฐ