ประชาไท - 1 มี.ค.48 พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ผอ.สสส.จชต. กล่าวว่าได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจการบังคับใช้อำนาจตามกฎหมาย (คบก.) ไปเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีพล.ต.ท.ไพศาล ตั้งใจตรง ผช.ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อให้การทำงานและการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งมีกรรมการจากหลายหน่วยงานอาทิ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมศุลกากร

ส่วนจุดประสงค์ของการตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้น เนื่องจากมีกฎหมายบางฉบับ อาทิ กฎหมายการฟอกเงิน กฎหมายศุลกากร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถบังคับใช้ได้ โดยคณะทำงานชุดนี้จะพิจารณาดูว่าจะสามารถเอาผิดลงโทษผู้ต้องหาหรือคนร้ายเหล่านั้นได้จากกฎหมายฉบับใดบ้าง แต่ไม่ได้มีหน้าที่ในการปฎิบัติจับกุมโดยตรง เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะส่งเรื่องมาให้ตนเองพิจารณา หากเห็นว่ามีมูลความผิดก็จะส่งเรื่องต่างๆ เหล่านั้นมายังหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเหล่านั้นเอาผิดต่อไป

"ไม่ใช่เป็นการเพิ่มอำนาจตำรวจ เพราะตำรวจมีอำนาจจับกุมได้ปกติ แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญในฐานความผิดของกฎหมายแต่ละประเภท ต้องเข้าใจว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ภาคใต้มีหลายกลุ่มทั้งกลุ่มอิทธิพล ค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อนอยู่เบื้องหลัง เมื่อมีศูนย์กลางในการบังคับใช้กฎหมายทุกตัว ก็จะทำให้การทำงานคล่องตัวขึ้น การติดตามจับกุม หรือออกหมายจับ ตามหลักฐาน และพยานก็จะทำให้ง่ายขึ้นด้วย" พล.อ.สิริชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าขณะนี้กอ.สสส.จชต.พอระบุได้หรือไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ไม่สงบในภาคใต้ พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า เรามีหลักฐานและรู้ว่าคนร้ายและผู้อยู่เบื้องหลังคือใคร แต่คงตอบสื่อมวลชนไม่ได้ว่าเรารบกับใคร เพราะจะโดนฟ้อง และความเชื่อด้านการข่าวคงเอาไปประกาศไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ

พล.อ.สิริชัยกล่าวต่อว่า ในวันที่ 11-12 มี.ค.นี้ กอ.สสส.จชต.จะจัดการประชุมเชิงปฎิบัติการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่ก่อนหน้านี้กำหนดไว้ก่อนเลือกตั้ง แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะเกรงจะถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมือง ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจะมีการเชิญหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด อาจารย์ นักวิชาการอิสระ ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้าน ฯลฯ เข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดทิศทางในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นให้ยุติโดยเร็ว

ส่วนการคัดเลือกตัวผบ.กองพลพัฒนาและทรัพยากรนั้น พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ทางกองทัพบกจะเป็นคนดำเนินการสรรหาและคัดเลือกตัวผู้บังคับหน่วยเอง เพราะกองพลพัฒนาฯ ถือเป็นหน่วยในที่ตั้งปกติ ที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับกอ.สสส.จชต.แต่อย่างใด ระยะแรกกองทัพบกอาจจะเป็นคนดูแลก่อน เมื่อกองพลพัฒนาฯ สามารถจัดหน่วยได้อย่างเข้มแข็งจนสามารถจัดกำลังออกมาปฎิบัติงานตรงนั้นสายการบังคับบัญชาถึงจะมาขึ้นกับกอ.สสส.จชต.