ยะลา-15 มี.ค.48 เมื่อเวลา 09.20 น. ขณะที่ตำรวจประจำป้อมยามจุดควบคุมแผงกั้นทางรถไฟ บ้านนิบงบารู หมู่ที่ 4 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟจังหวัดยะลา ประมาณ 1 กิโลเมตร 4 คน เดินทางมาทำงานตามปกติ ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในป้องยามเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้ ด.ต.ฉลาด คงทอง หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ซึ่งนั่งอยู่ในป้อมยามเสียชีวิตทันที

ส่วนอีก 3 คน อยู่ภายนอกป้อม ประกอบด้วย ส.ต.ต.พงศกร ดังแก้ว อายุ 25 ปี ปฏิบัติการพิเศษของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นายไพบูลย์ บุญโสม อายุ 46 ปี พนักงานควบคุมแผงกั้นรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ถนนสุรินทร์ศักดิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ และนายอาหามะ กาซา อายุ 40 ปี ลูกจ้างชั่วคราวการรถไฟแห่งประเทศไทย ยามประจำป้อมดังกล่าว อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 6 ตำบลสะเตงนอก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา

ต่อมา พ.ต.ต.อำไพ ชุ่มช่วย สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองยะลา ได้นำกำลังตำรวจเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบพบว่า คนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้นำระเบิดชนิดแสวงเครื่องไปซุกซ่อนไว้บริเวณชายคาของตัวอาคารป้อมยามแห่งนี้ ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าหน้าที่ประจำป้อม 4 คน เดินทางมาทำงานตามปกติ เมื่อสบโอกาสคนร้ายจึงได้จุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ จนเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว

หลังจากเกิดเหตุ นายศิวะ แสงมณี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา พร้อมกับได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต

วันเดียวกัน นายทนงศักดิ์ คงประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย นายสุพิเชฐ สุวรรณชาตรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ และคณะ ได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุและเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ

นายสุพิเชฐ เปิดเผยว่า วันที่ 16 มีนาคม 2548 ทางสหภาพฯ โดยคณะกรรมการ จะร่วมประชุมกับศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อวางมาตรการป้องกันเหตุร้ายให้เข้มงวดมากขึ้น สำหรับสมาชิกสหภาพฯ ที่ได้รับบาดเจ็บ ทางสหภาพฯ จะให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ โดยจะประสานงานให้ทางตำรวจและทหารเข้าร่วมประชุมด้วย แต่ถ้าประสานไม่ทัน ทางฝ่ายรถไฟจะประชุมกำหนดมาตรการต่างๆ นำเสนอต่อตำรวจ - ทหารต่อไป

"ตอนนี้ทางสหภาพฯ ยังไม่ได้กำหนดมาตรการใดๆ ออกมา เพราะเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ได้มาจากความประมาทของตำรวจ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับว่ากระทบกับขวัญและกำลังใจของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทยพอสมควร" นายสุพิเชฐ กล่าว

นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ขอความร่วมมือจากฝ่ายทหาร - ตำรวจ เพิ่มกำลังดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ตั้งแต่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ไปจนถึงสถานีรถไฟสุไหงโก - ลก เนื่องจากมีป้อมยามที่มีลักษณะล่อแหลมเช่นนี้กว่า 10 จุด ขณะเดียวกันการรถไฟแห่งประเทศไทยเอง ก็พยายามเข้มงวดตรวจค้น ทั้งที่สถานีและบนขบวนรถไฟ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารอีกทางหนึ่งด้วย