กรุงเทพฯ-16 มี.ค.48 ชาวบ้านบ่อนอกลุกขึ้นโวยรัฐบาลทักษิณ ไม่ดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นอย่างจริงจัง จนทำให้แกนนำถูกสังเวยเป็นศพที่ 2 ชี้ประชาชนกำลังเบื่อหน่ายและเริ่มหมดความอดทนขึ้นทุกที

ในช่วงบ่ายของวันที่ 16 มี.ค.2548 ที่ลานเวทีประชาชน ฝั่งตรงข้ามรัฐสภา ตัวแทนชาวบ้านจากกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นเวทีโดยกล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหาร นายณัฐพงษ์ แซ่เอี่ยว ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.บ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อคืนวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้ประกบยิงจนเสียชีวิต ในขณะที่นายณัฐพงษ์กำลังขับรถพาชาวบ้านกว่า 30 คน ไปร่วมงานบุญประจำปีที่วัดสี่แยกบ่อนอก ซึ่งถือว่า เป็นศพรายที่ 2 ของแกนนำ หลังการสูญเสียนายเจริญ วัดอักษร เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2547

ตัวแทนกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุในการถูกลอบยิงในครั้งนี้ ชาว บ้านบ่อนอกต่างปักใจเชื่อว่า เนื่องจากการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งนายณัฐพงษ์ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีกลุ่มเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งเคยมีบทบาทในการสนับสนุนโรงไฟฟ้าบ่อนอก และกลุ่มอิทธิพลดังกล่าวนี้พยายามที่จะกลับมาสร้างอำนาจในการกุมกลไกการเมืองท้องถิ่น แต่กลับต้องผิดหวัง เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายณัฐพงษ์เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งทิ้งห่างคู่ต่อสู้อย่างขาดลอย

การชนะเลือกตั้งของนายณัฐพงษ์ จึงสร้างความโกรธแค้นให้กับฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมาก ถึงกับประกาศอย่างเคียดแค้นว่า "มึงเป็นผู้ใหญ่บ้านก็ตายได้" ซึ่งต่อมาเพียงไม่ถึง 2 เดือน นายณัฐพงษ์ ก็ถูกยิงจนเสียชีวิต

ในแถลงการณ์ของกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี ระบุว่า การเสียชีวิตของนายณัฐพงษ์ ถือเป็นศพที่ 2 ของกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก ในการต่อสู้กับเครือข่ายอิทธิพลท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กล
ไกรัฐยังไร้ประสิทธิภาพและรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มีความจริงจัง จริงใจต่อนโยบายปราบ
ปรามผู้มีอิทธิพลตามที่ได้ประกาศไว้แต่อย่างใด

หากยังจำกันได้ เมื่อหลังการเสียชีวิตของนายเจริญ วัดอักษรนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจภูธรภาค 7 กรมสอบสวนคดีพิเศษ และรัฐบาลเองได้ประกาศไว้ว่า จะใช้การทำคดีสังหารนายเจริญ วัดอักษร เป็นเครื่องมือในการปราบปรามกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลใน จ.ประจวบ
คีรีขันธ์ ให้หมดสิ้น

แต่ถึง ณ วันนี้ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏก็คือ 18 ศพนักต่อสู้เพื่อชุมชนในสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 ซึ่งยังไม่ได้รับความเป็นธรรมและวันนี้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ 2 ที่ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วยซ้ำ ศพที่ 1ก็เกิดขึ้นและแน่นอนว่า นี่คงไม่ใช่ศพสุดท้าย

สถานการณ์วันนี้ ผู้ที่เสียชีวิตไปก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนผู้ที่ยังอยู่ก็อยู่กับความเสี่ยงที่จะสังเวยชีวิตเป็นรายต่อไป รัฐบาลทักษิณจะแก้ปัญหาอย่างไร หรือว่า การปราบปรามผู้มีอิทธิพลจะเป็นการหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ?

ขอให้รัฐบาลตระหนักในปัญหาให้ดีว่า ประชาชนกำลังเบื่อหน่ายและหมดความอดทนยิ่งขึ้นทุกที ซึ่งหากรัฐยังคงไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนเช่นนี้ ในที่สุด พวกเราประชาชนก็คงต้องหันมาพึ่งตนเอง