กรุงเทพฯ- 22 มี.ค.48 พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการตรวจเลือกและคัดเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารกองประจำการ ประจำปี 2548 ว่า สิ่งที่หลายคนเป็นห่วง คือ การคัดเลือกกำลังพลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อาจได้กำลังพลไม่มีคุณภาพ บางคนอาจมีเจตนาแฝงเข้ามาเป็นไส้ศึก กองทัพบกยืนยันว่า การตรวจเลือกจะดำเนินการเช่นเดียวกับภาคอื่น โดยตั้งสมมติฐานว่า ทุกคนคือคนไทย มีความบริสุทธิ์ใจ ดังนั้น การคัดเลือกทหารถือเป็นหน้าที่ ไม่มีใครไปกีดกันคนจะเป็นทหารได้ แต่กองทัพจะระวังทุกจุด ไม่เฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น
"สำหรับกองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากร ซึ่งเป็นกองพลจัดตั้งใหม่ ที่จะลงไปทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้ตัวผู้บัญชาการกองพลแล้วนั้น กองทัพบกจะสรรหาตัวรองผู้บัญชาการกองพล ผู้การกรม และผู้พันต่อไป โดยจะดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 4 ปี อัตรากำลังพลส่วนใหญ่จะนำมาจากกองพลทหารราบที่ 16 เดิม สำหรับพลทหารที่จะนำมาบรรจุในกองพลดังกล่าว ยังไม่ได้ข้อยุติ
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ 4 อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 มีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ก่อการส่วนหนึ่ง น่ามาเป็นอดีตทหารเกณฑ์ที่สมัครเข้ามาเป็นทหาร แล้วนำข้อมูลไปให้กลุ่มผู้ก่อการ เนื่องกลุ่มผู้ก่อการผู้ก่อการที่เข้าปล้นปืนในค่ายทหาร สามารถรู้ที่ตั้งของหน่วย ประตูเข้าออก และคลังแสงเป็นอย่างดี
การตรวจเลือกทหาร ประจำปี 2548 ทางกองทัพจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทหารเกณฑ์จากภาคใต้ เพราะเกรงจะได้ทหารเกณฑ์จากกลุ่มผู้ก่อการ ขณะนี้จึงมีแนวคิดจะเกลี่ยทหารจากภาคอื่น โดยเฉพาะจากกองทัพภาคที่ 2 ลงไปประจำการในภาคใต้ และนำทหารภาคใต้ไปประจำการภาคอื่น พร้อมกับติดตามพฤติกรรมตลอด เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ควรปล่อยให้ทางราชการรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว ประชาชนต้องให้ความร่วมมือเพื่อให้ปัญหาจบโดยเร็วด้วย ตนจะลงพื้นที่เพื่อจะนำแนวทางดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา นอกจากนี้จะสั่งการให้ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เข้มงวดด้านการข่าวมากขึ้น