ประชาไท - 1 เม.ย.48 กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรี (เอฟทีวอทช์) เดินหน้าค้านการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยกับสหรัฐ รอบที่ 3 ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 4-8 เม.ย.นี้ที่พัทยา โดยช่วงเช้าวันนี้ได้เคลื่อนพลราว 100 คน ไปจัดกิจกรรมรณรงค์หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐนำเรื่องการขยายหรือเพิ่มความเข้มงวดในการในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาออกจากการเจรจาเอฟทีเอ เนื่องจากจะก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนไทยในการเข้าถึงยา สร้างปัญหาผูกขาดปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร

นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูล ข้อเรียกร้องของสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาทั้งหมดต่อสาธารณะ เพื่อให้กระบวนการเจรจาเป็นไปด้วยความโปร่งใส

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสถานทูตได้เชิญตัวแทนกลุ่มเอฟทีเอวอทช์เข้าพูดคุยและยื่นหนังสือกับตัวแทนสถานทูตด้านใน แต่ตัวแทนกลุ่มปฏิเสธที่จะเข้าพบเนื่องจากต้องการเพียงรณรงค์และประกาศให้ทราบถึงความต้องการของภาคประชาชน

นอกจากนี้น.ส.กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา ผู้ประสานงานคณะทำงานโลกาภิวัตน์ที่ร่วมขบวนรณรงค์ให้ข้อมูลว่า หลังจากปฏิเสธการเข้าพบไปแล้ว นาย James Caruoso เลขานุการเอกฝ่ายเศรษฐกิจของสถานทูตได้ออกมาเจรจาและมอบเอกสารแสดงความยินดีที่จะเปิดเป็นเวทีสาธารณะ เพื่อให้ข้อมูลและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อเสนอหรือท่าทีของรัฐบาลสหรัฐต่อเรื่องต่างๆ แต่ทางกลุ่มไม่ได้ตอบรับ เนื่องจากเห็นว่าสหรัฐอเมริกาไม่มีความจริงใจ

"ดูเอกสารอย่างละเอียด 2 ย่อหน้าแรก เหมือนจดหมายเชิญฉบับเดิมที่เชิญให้ไปคุยอย่างไม่เป็นทางการแบบวงปิด 2 ย่อหน้าถัดมาบอกจะเปิดให้มีเวทีสาธารณะ ซึ่งมันขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด ประเมินแล้วเขาคงไม่ให้ข้อมูลไปมากกว่าที่เรารู้ และเราก็มีเวทีสาธารณะของเราอยู่แล้วคือท้องถนน" น.ส.กิ่งกรกล่าว

ก่อนหน้านี้ นาย Michael Delaney ฝ่ายเศรษฐกิจของสถานทูตสหรัฐได้ทำหนังสือเชิญภาคธุรกิจ นักวิชาการ และภาคประชาชสังคมเข้าพบผู้เชี่ยวชาญในทีมเจรจาของสหรัฐ เพื่อซักถามแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยระบุให้เป็นการหารือเป็นการส่วนตัวอย่างไม่เป็นทางการที่สำนักทนายความสำนักงานทนายความวิคเกอร์รี่และวรชัย

อย่างไรก็ตาม หนังสือเชิญจากสถานทูตสหรัฐครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 หลังจาก 2 ครั้งแรกได้เชิญกลุ่มประชาสังคมที่คัดค้านเอฟทีเอเข้าหารือ แต่กลุ่มคัดค้านยื่นเงื่อนไขให้เปิดเวทีสาธารณะ และสถานทูตไม่ตอบรับ

ด้านน.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล กลุ่มเอฟทีเอวอทช์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงโทรศัพท์มาสอบถามกำหนดการเคลื่อนไหวหน้าสถานทูตสหรัฐอย่างละเอียดมาก โดยอ้างว่าเป็นนักศึกษาฝึกงานจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง แต่เมื่อสอบถามไปยังหนังสือพิมพ์นั้นกลับไม่ปรากฏชื่อ และเมื่อสอบถาม 1133 จึงรู้ว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ภายในสถานทูต

"1133 บอกว่าไม่รู้ เบอร์นี้เป็นเบอร์พิเศษไม่ได้แจ้ง ก็แปลกใจ เพราะแม้เป็นเบอร์สาธารณะเขาก็ต้องรู้ เลยถามเบอร์โทรของสถานทูตอเมริกา ซึ่งออกมาใกล้เคียงกันมาก ถึงรู้ว่าน่าจะเป็นเบอร์โทรของหน่วยงานในสถานทูต อันที่จริงถามเราตรงๆ ก็ได้ เราเปิดเผยทุกอย่างอยู่แล้ว" น.ส.กรรรณิการ์กล่าว