ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- 1 เม.ย.48 "หากจะแก้ปัญหาเด็กก็ต้องผลักดันเข้าสู่ภาคการเมือง" น.พ.ปริทรรศ ศิลปกิจ จิตแพทย์ กล่าวในงานเสวนา "ฟังเสียงคนที่ถูกเรียกว่า เด็กแก๊ง" ที่โรงแรมดิอิน
เตอร์เนชั่นแนล เชียงใหม่(YMCA)

น.พ.ปริทรรศแสดงความเห็นด้วยกับแนวทางจัดการภายในแก๊งเด็ก โดยเฉพาะการมีรุ่นพี่คอยดูแล และฉุดรั้งให้สมาชิกในกลุ่มเข้าที่เข้าทาง

นอกจากนั้นยังเห็นว่า กรณีเด็กแก๊งนั้น มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายกลุ่มแต่ที่ผ่านมา ไม่ได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบ อาทิ การเกิดแก๊งซามูไรในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์และกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยว ก็น่าจะเรียกร้องให้กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว หอการค้าเข้าร่วมรับผิดชอบ

"เราสามารถตั้งกลุ่มและตั้งคำถามกับหน่วยงานผู้รับผิดชอบอาทิ จังหวัดว่า มียุทธศาสตร์เรื่องเด็กไหม ซึ่งทางจังหวัดยังอ้างไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีเองก็พูดว่า ต้องบูรณาการเรื่องต่างๆ เราต้องผลักดันเข้าสู้ภาคการเมือง ต้องเข้าไปผลักดันในระดับท้องถิ่น แต่ต้องแสวงหาพันธมิตร"

น.พ.ปริทรรศ กล่าวต่อว่า สำหรับการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ซึ่งหลายฝ่ายรู้สึกว่า มีปัญหานั้น เคยมีการหารือกับสื่อถึงผลกระทบจากการรายงานความรุนแรงเกี่ยวกับเด็ก ซึ่งก็ได้ผลกล่าวคือ สื่อลดการเสนอข่าวหรือภาพรุนแรงเกี่ยวกับเด็กลง อย่างไรก็ดีในกรณีดังกล่าว อาจต้องใช้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอาทิ หอการค้า หรือกลุ่มนักธุรกิจท่องเที่ยว เจรจากับสื่อเนื่องจากการเสนอข่าวดังกล่าว สร้างผลกระทบต่อภาพรวมทั้งระบบ

นายสนธยา เครือเวทย์ อัยการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะ กรรมการคุ้มครองสิทธิเด็ก จังหวัดเชียง ใหม่ เสนอให้จัดเวทีสำหรับเยาวชน ในรูปของสภาเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ โดยประกอบด้วยตัวแทนกลุ่มเด็กต่างๆ ผู้ว่าราชการจังหวัด หมอ ตำรวจ อัยการ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสภาฯ

นอกจากนั้นยังเสนอให้แกนนำของกลุ่มเด็กแก๊งในเชียงใหม่มาพบปะหารือ โดยลดอัตลักษณ์ของกลุ่มและสร้างอัตลักษณ์ร่วมและนำเสนอสู่สังคมให้ชัดเจน